แม้ว่าหลิงเยี่ยนเอ๋อร์จะคุกเข่าอยู่ แต่ก็ยังเงยหน้าและยืดอก ลักษณะไม่เหมือนคนที่กระทำความผิดเลยแม้แต่น้อย
พยานจ้าวซีจ้องมองนางด้วยความโกรธแค้น
“ฝ่าบาท เรื่องที่จ้าวเฉียนพี่ชายของข้าน้อยทำงานให้กับหวงกุ้ยเฟย เขาเขียนมันลงไปในบันทึกเล่มนั้น ก็เพื่อให้ตัวเองพอจะเหลือทางรอดบ้าง!
“แต่คิดไม่ถึงว่าหวงกุ้ยเฟยจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ สังหารพวกเราทั้งครอบครัว เพื่อต้องการกำจัดให้สิ้นซาก ตอนนี้ก็เหลือข้าน้อยเพียงคนเดียว...โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจากคนใจดี
“คนพวกนั้นจุดไฟเผาบ้าน แต่ไม่ทันสังเกตว่าข้าน้อยแอบคลานหนีออกมา...”
สาวใช้จูเอ๋อร์เอ่ยบ้าง
“ฝ่าบาท หวงกุ้ยเฟยสั่งให้บ่าวลอบสังหารหวังเทียนไห่เพคะ!”
ลำพังแค่อาศัยคำให้การของพวกเขาก็อาจยังมีข้อสงสัย
อย่างเช่น จ้าวซีแน่ใจได้อย่างไรว่า กลุ่มคนที่สังหารครอบครัวของเขา เป็นหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ที่ส่งไป?
ดังนั้นคำให้การของชุนเหอจึงมีน้ำหนักมากเป็นพิเศษ
“หวงกุ้ยเฟยกลัวว่าครอบครัวของจ้าวเฉียนจะล่วงรู้บางอย่าง จึงสั่งให้บ่าวไปกำจัดครอบครัวของจ้าวเฉียนไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว ส่วนเรื่องโจรภูเขา ที่โจรภูเขาลักพาตัวฮองเฮา นั่นก็เป็นฝีมือของหวงกุ้ยเฟย...”
“หุบปาก!” หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ตะคอกใส่ด้วยสีหน้าดุร้าย
“ชุนเหอ ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี แต่เจ้ากลับพูดโกหกและใส่ร้ายข้า! พูดมา ฮองเฮาติดสินบนเจ้าอย่างไร!
“เจ้าเห็นว่าข้าไม่ได้รับความโปรดปรานอีกแล้ว จึงคิดจะหาทางอื่นเพื่อความก้าวหน้าใช่หรือไม่!
“ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ร้าย! เรื่องโจรลักพาตัว หม่อมฉันไม่รู้เรื่อง และยิ่งไม่ได้ยืนดูเฟิ่งเวยเฉียงถูกย่ำยี! คนที่โกหกคือเฟิ่งเวยเฉียงต่างหาก ก่อนหน้าจะอภิเษกสมรส นางแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายอื่น และสูญเสียพรหมจรรย์ แต่โกหกว่า ถูกโจรภูเขาย่ำยี แล้วมาใส่ร้ายหม่อมฉัน...หม่อมฉันถูกปรักปรำ!”
หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไม่ยอมรับผิด กลับมองมาทางเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยแววตาชั่วร้าย
นังสารเลวผู้นี้เริ่มสืบหาหลักฐานพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
แม้แต่บันทึกของจ้าวเฉียนก็ยังหาเจอ...
ถึงชุนเหอจะพอมีความรู้สึกผูกพันต่อนายเก่าคนนี้อยู่บ้าง
แต่นางเข้าใจดีว่า ครั้งนี้กุ้ยเหรินกำลังหาทางเอาตัวรอดสุดชีวิต
ด้วยหลักฐานมากมายที่อยู่ตรงหน้า ลำพังแค่คำแก้ตัวของกุ้ยเหรินก็ไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้
จ้าวซีจ้องมองหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ด้วยความเคียดแค้น
นางไม่ใช่หวงกุ้ยเฟย และไม่ใช่พระสนมคนโปรดในพระทัยของฮ่องเต้อีกต่อไป
นางสูญเสียกระทั่งความโปรดปรานของฮ่องเต้ ดูสิว่านางจะมีสิ่งใดให้พึ่งพาอาศัยอีก!
แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งไร้คลื่นลม
นางเบนสายตาและหันไปมองเซียวอวี้
“ฝ่าบาทโปรดตัดสินด้วยเพคะ”
เซียวอวี้มองนางด้วยสายตาที่แคบลง นัยน์ตาคล้ายดวงดาวระยิบ
เขายังไม่ลืมว่า ในมือของนางยังมีสำเนาใบบันทึกคำให้การอีกนับไม่ถ้วน
หากเขาไม่ลงโทษหลิงเยี่ยนเอ๋อร์สถานหนัก เรื่องนี้ก็คงผ่านไปไม่ได้
หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ก็จ้องมองเขาตาไม่กะพริบ
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่เคยทำจริง ๆ นะเพคะ...”
นางมั่นใจว่า ฮ่องเต้ทรงทำแค่พอให้ผ่าน ๆ ไปเท่านั้น ไม่มีทางลงโทษตามกฎจริง ๆ
แววตาหม่นหมองของเซียวอวี้จับจ้องที่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...