เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 149

แม้ว่าหลิงเยี่ยนเอ๋อร์จะคุกเข่าอยู่ แต่ก็ยังเงยหน้าและยืดอก ลักษณะไม่เหมือนคนที่กระทำความผิดเลยแม้แต่น้อย

พยานจ้าวซีจ้องมองนางด้วยความโกรธแค้น

“ฝ่าบาท เรื่องที่จ้าวเฉียนพี่ชายของข้าน้อยทำงานให้กับหวงกุ้ยเฟย เขาเขียนมันลงไปในบันทึกเล่มนั้น ก็เพื่อให้ตัวเองพอจะเหลือทางรอดบ้าง!

“แต่คิดไม่ถึงว่าหวงกุ้ยเฟยจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ สังหารพวกเราทั้งครอบครัว เพื่อต้องการกำจัดให้สิ้นซาก ตอนนี้ก็เหลือข้าน้อยเพียงคนเดียว...โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจากคนใจดี

“คนพวกนั้นจุดไฟเผาบ้าน แต่ไม่ทันสังเกตว่าข้าน้อยแอบคลานหนีออกมา...”

สาวใช้จูเอ๋อร์เอ่ยบ้าง

“ฝ่าบาท หวงกุ้ยเฟยสั่งให้บ่าวลอบสังหารหวังเทียนไห่เพคะ!”

ลำพังแค่อาศัยคำให้การของพวกเขาก็อาจยังมีข้อสงสัย

อย่างเช่น จ้าวซีแน่ใจได้อย่างไรว่า กลุ่มคนที่สังหารครอบครัวของเขา เป็นหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ที่ส่งไป?

ดังนั้นคำให้การของชุนเหอจึงมีน้ำหนักมากเป็นพิเศษ

“หวงกุ้ยเฟยกลัวว่าครอบครัวของจ้าวเฉียนจะล่วงรู้บางอย่าง จึงสั่งให้บ่าวไปกำจัดครอบครัวของจ้าวเฉียนไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว ส่วนเรื่องโจรภูเขา ที่โจรภูเขาลักพาตัวฮองเฮา นั่นก็เป็นฝีมือของหวงกุ้ยเฟย...”

“หุบปาก!” หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ตะคอกใส่ด้วยสีหน้าดุร้าย

“ชุนเหอ ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี แต่เจ้ากลับพูดโกหกและใส่ร้ายข้า! พูดมา ฮองเฮาติดสินบนเจ้าอย่างไร!

“เจ้าเห็นว่าข้าไม่ได้รับความโปรดปรานอีกแล้ว จึงคิดจะหาทางอื่นเพื่อความก้าวหน้าใช่หรือไม่!

“ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ร้าย! เรื่องโจรลักพาตัว หม่อมฉันไม่รู้เรื่อง และยิ่งไม่ได้ยืนดูเฟิ่งเวยเฉียงถูกย่ำยี! คนที่โกหกคือเฟิ่งเวยเฉียงต่างหาก ก่อนหน้าจะอภิเษกสมรส นางแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายอื่น และสูญเสียพรหมจรรย์ แต่โกหกว่า ถูกโจรภูเขาย่ำยี แล้วมาใส่ร้ายหม่อมฉัน...หม่อมฉันถูกปรักปรำ!”

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไม่ยอมรับผิด กลับมองมาทางเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยแววตาชั่วร้าย

นังสารเลวผู้นี้เริ่มสืบหาหลักฐานพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!

แม้แต่บันทึกของจ้าวเฉียนก็ยังหาเจอ...

ถึงชุนเหอจะพอมีความรู้สึกผูกพันต่อนายเก่าคนนี้อยู่บ้าง

แต่นางเข้าใจดีว่า ครั้งนี้กุ้ยเหรินกำลังหาทางเอาตัวรอดสุดชีวิต

ด้วยหลักฐานมากมายที่อยู่ตรงหน้า ลำพังแค่คำแก้ตัวของกุ้ยเหรินก็ไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้

จ้าวซีจ้องมองหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ด้วยความเคียดแค้น

นางไม่ใช่หวงกุ้ยเฟย และไม่ใช่พระสนมคนโปรดในพระทัยของฮ่องเต้อีกต่อไป

นางสูญเสียกระทั่งความโปรดปรานของฮ่องเต้ ดูสิว่านางจะมีสิ่งใดให้พึ่งพาอาศัยอีก!

แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งไร้คลื่นลม

นางเบนสายตาและหันไปมองเซียวอวี้

“ฝ่าบาทโปรดตัดสินด้วยเพคะ”

เซียวอวี้มองนางด้วยสายตาที่แคบลง นัยน์ตาคล้ายดวงดาวระยิบ

เขายังไม่ลืมว่า ในมือของนางยังมีสำเนาใบบันทึกคำให้การอีกนับไม่ถ้วน

หากเขาไม่ลงโทษหลิงเยี่ยนเอ๋อร์สถานหนัก เรื่องนี้ก็คงผ่านไปไม่ได้

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ก็จ้องมองเขาตาไม่กะพริบ

“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่เคยทำจริง ๆ นะเพคะ...”

นางมั่นใจว่า ฮ่องเต้ทรงทำแค่พอให้ผ่าน ๆ ไปเท่านั้น ไม่มีทางลงโทษตามกฎจริง ๆ

แววตาหม่นหมองของเซียวอวี้จับจ้องที่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์

“ไม่! ไม่!”

ครานี้หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ถึงได้ตระหนักว่า ฮ่องเต้ทรงแน่วแน่ และไม่ปกป้องนางอีกต่อไป

นี่ต่างจากสิ่งที่นางคิดไว้!

นางรู้สึกสับสนและหวาดกลัว

“ฝ่าบาท! หม่อมฉันถูกใส่ร้าย เป็นแผนการของเฟิ่งเวยเฉียงที่คิดจะเล่นงานหม่อมฉัน เป็นนางทั้งหมด!”

หลังจากนำพยานออกไปแล้ว หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เห็นว่าไม่มีความหวังที่จะพลิกคดีได้ จึงตะคอกใส่เฟิ่งจิ่วเหยียน

“นังสารเลว! เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเจ้าแอบลอบมีความสัมพันธ์กับชายอื่น เสียความบริสุทธิ์มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เจ้าก็นำเรื่องนี้มาโยนให้ข้า! เจ้าปรักปรำข้า! ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของเจ้า!”

ไม่ว่านางจะด่าทออย่างไรก็ตาม เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยังคงนิ่งเฉย

พอนำตัวกุ้ยเฟยออกไป ห้องทรงพระอักษรพลันเงียบลงชั่วขณะ

แต่เรื่องราวยังไม่จบ

เฟิ่งจิ่วเหยียนกราบทูลขออนุญาตอย่างนอบน้อม

“ฝ่าบาท โปรดประกาศความผิดทั้งหมดของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ให้ผู้คนทั่วหล้ารับรู้ รวมถึงเรื่องที่นางฆ่าคน และแอบมีความสัมพันธ์อย่างลับ ๆ กับราชทูตด้วย...”

เซียวอวี้คิ้วขมวดแน่น ความโกรธปะทุขึ้นอีก

“ประกาศให้ผู้คนทั่วหล้ารับรู้?”

นางรู้หรือไม่ว่าตนเองกำลังพูดสิ่งใดอยู่

“เรื่องอื่นยังพอได้ แต่นี่เจ้าอยากให้ผู้คนทั่วหล้ารับรู้ว่า ฮองเฮาอย่างเจ้าถูกข่มเหงจนสูญเสียพรหมจรรย์อย่างนั้นรึ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย