นางสนมเจียงทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ รีบเช็ดน้ำตาหันหน้ามองออกไป
เมื่อเห็นฉากบังลมสีทองนั้น นางลืมความเจ็บปวดที่แผลไปหมดแล้ว
สาวใช้ที่อยู่ข้างกายคาดเดา
“พระนาง ได้ข่าวว่าหลังจากที่ฝ่าบาทเสด็จออกจากตำหนักหย่งเหอ ก็ไปที่ตำหนักหลิงเซียว จะต้องเป็นเพราะหวงกุ้ยเฟยกล่าวชื่นชมกับฝ่าบาท ถึงได้ตกรางวัลมา ท่านจะต้องซาบซึ้งให้มาก ๆ นะเจ้าคะ!”
นางสนมเจียงพยักหน้าแรง ๆ
“ถูกต้อง อย่างไรเสียพี่หญิงหวงกุ้ยเฟยก็ปฏิบัติต่อข้าด้วยความจริงใจ ไม่เหมือนกับฮองเฮานั่น!”
เมื่อเอ่ยถึงฮองเฮา ความเคียดแค้นของนางก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
ความแค้นครั้งนี้ นางจะต้องเอาคืน!
……
ตำหนักจื้อเฉิน
ภายในตำหนักใหญ่ที่เงียบสงัด
กลางดึก
ฟึ่บ——
มือข้างหนึ่งปัดผ้าม่านออกจากด้านใน แฝงไปด้วยความกระวนกระวายใจ
แสงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามา สาดส่องมาที่ด้านในมุ้ง
เซียวอวี้นั่งอยู่ตรงนั้น เสื้อคลุมที่เปิดออกกว้าง เผยให้เห็นแผ่นอกที่แข็งแกร่ง
มือข้างหนึ่งของเขาประคองหน้าผากเอาไว้ นวดหว่างคิ้วด้วยความวุ่นวายใจ
นอนไม่หลับ
เอาแต่คิดถึงบทสนทนาตอนที่อยู่ตำหนักหย่งเหอซ้ำไปซ้ำมา
ไม่ถูกต้อง!
ตอนนั้นเขาอยากจะลงโทษสาวใช้ของฮองเฮา เพื่อเป็นการตักเตือน
เหตุใดจึงไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติมต่อ?
มันเริ่มเรื่องจากตรงไหน ถึงถูกฮองเฮาดึงเข้าไปเกี่ยวพันด้วย?
ตั้งแต่ที่นางเอ่ยถึงบิดาและพี่ชายของนางสนมเจียง เขาก็เริ่มทำตามคำพูดของนาง รวมถึงตรวจสอบความถูกต้องของจดหมายจากครอบครัว...
จนท้ายที่สุด คาดไม่ถึงว่าจะไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ฮองเฮาส่งนางไปยังตำหนักจื้อเฉินโดยพลการอีก
อีกอย่าง ที่ฮองเฮาบอกว่าจะพยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ เพื่อแย่งความโปรดปรานให้นางสนมเจียง หากจริงใจ เหตุใดจึงไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ในทางกลับกันยังลงมือทำก่อนแล้วค่อยรายงานอีกด้วย รอให้เขาไล่นางสนมเจียงไปก่อน แล้วค่อยหยิบยกเรื่องของบิดานางสนมเจียงขึ้นมาพูด...
วิธีการเช่นนี้ เหมือนกับว่าจะให้เขาติดกับดัก รอให้เขาเป็นฝ่ายทำผิด
ให้ตายเถอะ!
เซียวอวี้ลงจากตั่ง
เมื่อหลิวซื่อเหลียงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว ก็รีบถือโคมไฟวิ่งเข้ามาในตำหนัก
“ฝ่าบาท ท่านจะลงพระบังคนหรือพ่ะย่ะค่ะ?
ทันทีที่เซียวอวี้เห็นหลิวซื่อเหลียง ก็นึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในวันนี้
เปรี้ยง!
เขายกเท้าถีบหลิวซื่อเหลียง
ลูกถีบนี้ไม่หนักไม่เบา ไม่ถึงกับทำให้ช้ำใน แต่อย่างน้อยก็ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด
หลังจากหลิวซื่อเหลียงลุกขึ้น ก็รีบคุกเข่าลงอย่างหวาดกลัว
“ฝะ ฝ่าบาท! ถ้าหากบ่าวทำอะไรผิด ก็ทรงให้บ่าวลงโทษตัวเอง! อย่าให้บ่าวต้องทำให้เท้าของพระองค์ต้องทรงแปดเปื้อน!”
ดวงตาที่เรียวยาวของเซียวอวี้หรี่ลงเล็กน้อย
“เจ้าก็รู้สึกใช่ไหมว่า ที่ฮองเฮากล่าวมาก็มีเหตุผล”
“หา?” หลิวซื่อเหลียงตอบโต้ไม่ได้ไปครู่หนึ่ง
ดึกดื่นป่านนี้ เหตุใดฝ่าบาทจึงได้เอ่ยถึงฮองเฮา?
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเซียวอวี้ดุดันเฉียบคม น้ำเสียงแฝงไปด้วยความน่าเกรงขามของจักรพรรดิ
“ไสหัวไป!”
ไอ้คนไร้กฎระเบียบ เขายังไม่ได้เรียก ก็เข้ามาเสียแล้ว
ถูกฮองเฮาพาให้กลายเป็นคนไร้กฎระเบียบไปเสียหมดแล้ว!
“พ่ะย่ะค่ะ ๆ ๆ!” หลิวซื่อเหลียงล้มลุกคลุกคลานออกไป
......
เช้าวันรุ่งขึ้น แต่ละตำหนักเต็มไปด้วยความคึกคัก
ทุกคนมารวมตัวกัน พากันคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
ตำหนักฉือหนิง
“เป็นเพราะนางเห็นว่าข้ากับพี่หญิงท่านสนิทกันแน่ จึงจงใจทำเช่นนี้”
หวงกุ้ยเฟยค่อย ๆ จิบรังนก ท่าทางสง่างามและสบาย ๆ
นางสนมเจียงคิดแบบใด นางรู้ดีแก่ใจ
ที่นางมาตำหนักหลิงเซียว ก็เพราะอยากหาโอกาสมาพบฝ่าบาทเช่นกัน
นางเห็นนางสนมเจียงเป็นเพียงแค่ของเล่นแก้เบื่อเท่านั้น ถึงไม่ได้ปฏิเสธการต้อนรับ
แต่บัดนี้กลับทำตัวรู้มากขึ้นมา ทำให้นางรู้สึกรำคาญใจ
“เอาละนางสนมเจียง อยู่ต่อหน้าข้า ก็ช่วยเก็บความเจ้าเล่ห์ของเจ้านั่นเอาไว้ ตอนนี้วิ่งมาร้องไห้กับข้ามีประโยชน์อะไร เมื่อคืนก็ไม่ได้คิดจะแจ้งให้ข้าทราบ ทำไม เจ้าคิดว่าข้าจะริษยาเจ้า จะขัดขวางไม่ให้เจ้าได้ปรนนิบัติงั้นหรือ?”
“ความสามารถแค่เพียงน้อยนิด มิน่าถึงได้ถูกฮองเฮาวางแผนเล่นงานเอา”
ในระหว่างที่พูด หวงกุ้ยเฟยก็เหลือบตามองนางสนมเจียงที่ใบหน้าซีดขาวด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง
“ใครเล่นงานเจ้า เจ้าก็เอาคืนด้วยตนเอง แต่ไหนแต่ไรมีเพียงข้าที่ใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ ไม่เคยถูกใครหลอกใช้มาก่อน เข้าใจหรือไม่?”
“เจ้าค่ะ พี่หญิง” นางสนมเจียงถูกอ่านใจ ก็ออกจากตำหนักหลิงเซียวด้วยความอับอาย
จ้าวเฉียนมองดูนางสนมเจียงออกไป ขอคำแนะนำจากหวงกุ้ยเฟย
“พระนาง ท่านจะไม่ยื่นมือช่วยรักษาฮองเฮาสักหน่อยจริง ๆ หรือเจ้าคะ?”
หวงกุ้ยเฟยค่อนข้างมีความมั่นใจในตัวเอง เอ่ยปากกล่าวอย่างเกียจคร้าน
“ฮองเฮาคิดว่า ใช้ยานั่นบีบบังคับฝ่าบาท ก็สามารถทำให้ฝ่าบาทโปรดปรานผู้หญิงคนอื่นในวังหลัง ให้ข้าหมดความโปรดปรานได้?”
“ข้าไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดจริง ๆ อย่างไรก็ตามผู้หญิงหน้าตาธรรมดาพวกนั้น ฝ่าบาททรงไม่แม้แต่ชายตามอง”
“สังเกตดูซิ เมื่อคืนฝ่าบาทก็มาหาที่ตำหนักเลยไม่ใช่หรือ”
“ฮองเฮาทุ่มแทแรงกายแรงใจ ในสายตาข้าก็เป็นแค่ตัวตลกตัวนึงแค่นั้น ไม่เจ็บไม่แสบ แล้วข้าจะต้องกังวลไปทำไมกัน”
จ้าวเฉียนพยักหน้า “พระนางกล่าวถูกต้อง ในพระทัยของฝ่าบาทมีท่านเพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่มีผู้ใดสามารถสั่นคลอนความโปรดปรานของท่านได้”
ทว่า
เมื่อถึงตอนกลางคืน ตำหนักหลิงเซียวได้จัดอาหารเย็นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ฝ่าบาทก็ยังไม่เสด็จมาเสียที
หวงกุ้ยเฟยนั่งอยู่ข้างโต๊ะ กล่าวอย่างเร่งรัด “ไปดูซิ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ไม่ใช่ว่างานราชการยังมากมาย ฝ่าบาทยังทรงผ่านฎีกาอยู่หรอกหรือ?
ไม่นานนัก จ้าวเฉียนก็วิ่งโซซัดโซเซเข้ามา
“พระนาง! ฝ่าบาท...ฝ่าบาททรงเสด็จไปที่ตำหนักของนางสนมเจียงเจ้าค่ะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...