เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 27

นางสนมเจียงทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ รีบเช็ดน้ำตาหันหน้ามองออกไป

เมื่อเห็นฉากบังลมสีทองนั้น นางลืมความเจ็บปวดที่แผลไปหมดแล้ว

สาวใช้ที่อยู่ข้างกายคาดเดา

“พระนาง ได้ข่าวว่าหลังจากที่ฝ่าบาทเสด็จออกจากตำหนักหย่งเหอ ก็ไปที่ตำหนักหลิงเซียว จะต้องเป็นเพราะหวงกุ้ยเฟยกล่าวชื่นชมกับฝ่าบาท ถึงได้ตกรางวัลมา ท่านจะต้องซาบซึ้งให้มาก ๆ นะเจ้าคะ!”

นางสนมเจียงพยักหน้าแรง ๆ

“ถูกต้อง อย่างไรเสียพี่หญิงหวงกุ้ยเฟยก็ปฏิบัติต่อข้าด้วยความจริงใจ ไม่เหมือนกับฮองเฮานั่น!”

เมื่อเอ่ยถึงฮองเฮา ความเคียดแค้นของนางก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

ความแค้นครั้งนี้ นางจะต้องเอาคืน!

……

ตำหนักจื้อเฉิน

ภายในตำหนักใหญ่ที่เงียบสงัด

กลางดึก

ฟึ่บ——

มือข้างหนึ่งปัดผ้าม่านออกจากด้านใน แฝงไปด้วยความกระวนกระวายใจ

แสงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามา สาดส่องมาที่ด้านในมุ้ง

เซียวอวี้นั่งอยู่ตรงนั้น เสื้อคลุมที่เปิดออกกว้าง เผยให้เห็นแผ่นอกที่แข็งแกร่ง

มือข้างหนึ่งของเขาประคองหน้าผากเอาไว้ นวดหว่างคิ้วด้วยความวุ่นวายใจ

นอนไม่หลับ

เอาแต่คิดถึงบทสนทนาตอนที่อยู่ตำหนักหย่งเหอซ้ำไปซ้ำมา

ไม่ถูกต้อง!

ตอนนั้นเขาอยากจะลงโทษสาวใช้ของฮองเฮา เพื่อเป็นการตักเตือน

เหตุใดจึงไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติมต่อ?

มันเริ่มเรื่องจากตรงไหน ถึงถูกฮองเฮาดึงเข้าไปเกี่ยวพันด้วย?

ตั้งแต่ที่นางเอ่ยถึงบิดาและพี่ชายของนางสนมเจียง เขาก็เริ่มทำตามคำพูดของนาง รวมถึงตรวจสอบความถูกต้องของจดหมายจากครอบครัว...

จนท้ายที่สุด คาดไม่ถึงว่าจะไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ฮองเฮาส่งนางไปยังตำหนักจื้อเฉินโดยพลการอีก

อีกอย่าง ที่ฮองเฮาบอกว่าจะพยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ เพื่อแย่งความโปรดปรานให้นางสนมเจียง หากจริงใจ เหตุใดจึงไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ในทางกลับกันยังลงมือทำก่อนแล้วค่อยรายงานอีกด้วย รอให้เขาไล่นางสนมเจียงไปก่อน แล้วค่อยหยิบยกเรื่องของบิดานางสนมเจียงขึ้นมาพูด...

วิธีการเช่นนี้ เหมือนกับว่าจะให้เขาติดกับดัก รอให้เขาเป็นฝ่ายทำผิด

ให้ตายเถอะ!

เซียวอวี้ลงจากตั่ง

เมื่อหลิวซื่อเหลียงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว ก็รีบถือโคมไฟวิ่งเข้ามาในตำหนัก

“ฝ่าบาท ท่านจะลงพระบังคนหรือพ่ะย่ะค่ะ?

ทันทีที่เซียวอวี้เห็นหลิวซื่อเหลียง ก็นึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในวันนี้

เปรี้ยง!

เขายกเท้าถีบหลิวซื่อเหลียง

ลูกถีบนี้ไม่หนักไม่เบา ไม่ถึงกับทำให้ช้ำใน แต่อย่างน้อยก็ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด

หลังจากหลิวซื่อเหลียงลุกขึ้น ก็รีบคุกเข่าลงอย่างหวาดกลัว

“ฝะ ฝ่าบาท! ถ้าหากบ่าวทำอะไรผิด ก็ทรงให้บ่าวลงโทษตัวเอง! อย่าให้บ่าวต้องทำให้เท้าของพระองค์ต้องทรงแปดเปื้อน!”

ดวงตาที่เรียวยาวของเซียวอวี้หรี่ลงเล็กน้อย

“เจ้าก็รู้สึกใช่ไหมว่า ที่ฮองเฮากล่าวมาก็มีเหตุผล”

“หา?” หลิวซื่อเหลียงตอบโต้ไม่ได้ไปครู่หนึ่ง

ดึกดื่นป่านนี้ เหตุใดฝ่าบาทจึงได้เอ่ยถึงฮองเฮา?

ใบหน้าที่หล่อเหลาของเซียวอวี้ดุดันเฉียบคม น้ำเสียงแฝงไปด้วยความน่าเกรงขามของจักรพรรดิ

“ไสหัวไป!”

ไอ้คนไร้กฎระเบียบ เขายังไม่ได้เรียก ก็เข้ามาเสียแล้ว

ถูกฮองเฮาพาให้กลายเป็นคนไร้กฎระเบียบไปเสียหมดแล้ว!

“พ่ะย่ะค่ะ ๆ ๆ!” หลิวซื่อเหลียงล้มลุกคลุกคลานออกไป

......

เช้าวันรุ่งขึ้น แต่ละตำหนักเต็มไปด้วยความคึกคัก

ทุกคนมารวมตัวกัน พากันคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

ตำหนักฉือหนิง

“เป็นเพราะนางเห็นว่าข้ากับพี่หญิงท่านสนิทกันแน่ จึงจงใจทำเช่นนี้”

หวงกุ้ยเฟยค่อย ๆ จิบรังนก ท่าทางสง่างามและสบาย ๆ

นางสนมเจียงคิดแบบใด นางรู้ดีแก่ใจ

ที่นางมาตำหนักหลิงเซียว ก็เพราะอยากหาโอกาสมาพบฝ่าบาทเช่นกัน

นางเห็นนางสนมเจียงเป็นเพียงแค่ของเล่นแก้เบื่อเท่านั้น ถึงไม่ได้ปฏิเสธการต้อนรับ

แต่บัดนี้กลับทำตัวรู้มากขึ้นมา ทำให้นางรู้สึกรำคาญใจ

“เอาละนางสนมเจียง อยู่ต่อหน้าข้า ก็ช่วยเก็บความเจ้าเล่ห์ของเจ้านั่นเอาไว้ ตอนนี้วิ่งมาร้องไห้กับข้ามีประโยชน์อะไร เมื่อคืนก็ไม่ได้คิดจะแจ้งให้ข้าทราบ ทำไม เจ้าคิดว่าข้าจะริษยาเจ้า จะขัดขวางไม่ให้เจ้าได้ปรนนิบัติงั้นหรือ?”

“ความสามารถแค่เพียงน้อยนิด มิน่าถึงได้ถูกฮองเฮาวางแผนเล่นงานเอา”

ในระหว่างที่พูด หวงกุ้ยเฟยก็เหลือบตามองนางสนมเจียงที่ใบหน้าซีดขาวด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง

“ใครเล่นงานเจ้า เจ้าก็เอาคืนด้วยตนเอง แต่ไหนแต่ไรมีเพียงข้าที่ใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ ไม่เคยถูกใครหลอกใช้มาก่อน เข้าใจหรือไม่?”

“เจ้าค่ะ พี่หญิง” นางสนมเจียงถูกอ่านใจ ก็ออกจากตำหนักหลิงเซียวด้วยความอับอาย

จ้าวเฉียนมองดูนางสนมเจียงออกไป ขอคำแนะนำจากหวงกุ้ยเฟย

“พระนาง ท่านจะไม่ยื่นมือช่วยรักษาฮองเฮาสักหน่อยจริง ๆ หรือเจ้าคะ?”

หวงกุ้ยเฟยค่อนข้างมีความมั่นใจในตัวเอง เอ่ยปากกล่าวอย่างเกียจคร้าน

“ฮองเฮาคิดว่า ใช้ยานั่นบีบบังคับฝ่าบาท ก็สามารถทำให้ฝ่าบาทโปรดปรานผู้หญิงคนอื่นในวังหลัง ให้ข้าหมดความโปรดปรานได้?”

“ข้าไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดจริง ๆ อย่างไรก็ตามผู้หญิงหน้าตาธรรมดาพวกนั้น ฝ่าบาททรงไม่แม้แต่ชายตามอง”

“สังเกตดูซิ เมื่อคืนฝ่าบาทก็มาหาที่ตำหนักเลยไม่ใช่หรือ”

“ฮองเฮาทุ่มแทแรงกายแรงใจ ในสายตาข้าก็เป็นแค่ตัวตลกตัวนึงแค่นั้น ไม่เจ็บไม่แสบ แล้วข้าจะต้องกังวลไปทำไมกัน”

จ้าวเฉียนพยักหน้า “พระนางกล่าวถูกต้อง ในพระทัยของฝ่าบาทมีท่านเพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่มีผู้ใดสามารถสั่นคลอนความโปรดปรานของท่านได้”

ทว่า

เมื่อถึงตอนกลางคืน ตำหนักหลิงเซียวได้จัดอาหารเย็นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ฝ่าบาทก็ยังไม่เสด็จมาเสียที

หวงกุ้ยเฟยนั่งอยู่ข้างโต๊ะ กล่าวอย่างเร่งรัด “ไปดูซิ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ไม่ใช่ว่างานราชการยังมากมาย ฝ่าบาทยังทรงผ่านฎีกาอยู่หรอกหรือ?

ไม่นานนัก จ้าวเฉียนก็วิ่งโซซัดโซเซเข้ามา

“พระนาง! ฝ่าบาท...ฝ่าบาททรงเสด็จไปที่ตำหนักของนางสนมเจียงเจ้าค่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย