เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 43

เซียวอวี้เสด็จมาถึงตำหนักหย่งเหอ เห็นคนคุกเข่าอยู่ในสวนจำนวนมาก

พวกเขาแต่ละคนก้มหน้าก้มตา หัวหดด้วยความหวาดกลัว

“ฝ่าบาท” เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ข้างประตูต้อนรับเขา สวมชุดธรรมดาสีน้ำเงินทั้งตัว ใบหน้าไร้ซึ่งการแต่งแต้ม ทว่าเปล่งประกายดึงดูดสายตาผู้คน

เซียวอวี้เพียงชายตามองนางเล็กน้อย สีหน้าเยือกเย็นเดินเข้าไปในตำหนัก

เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินตามไปอย่างนอบน้อม เมื่อถึงด้านใน จึงกราบทูลเขาอย่างตรงไปตรงมา

“หม่อมฉันไม่ทำให้ฝ่าบาทผิดหวัง หาคนที่ปล่อยข่าวลือได้แล้วเพคะ!”

เซียวอวี้มองไปด้านนอกตำหนัก

“คนเหล่านั้น ล้วนเป็นคนริเริ่มงั้นหรือ”

“คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่หม่อมฉัน ‘เชิญ’ มาไต่ถาม ผ่านการซักถามในแต่ละขั้นตอน ท้ายที่สุดยืนยันได้ว่าข่าวลือนั้น สาวใช้ตำหนักหลิงเซียวเป็นคนป่าวประกาศเพคะ”

เมื่อได้ยินว่าตำหนักหลิงเซียว เซียวอวี้สีหน้ามีการเปลี่ยนแปลง

“ฮองเฮา จัดการเรื่องราวถูกผิดต้องดูตามข้อเท็จจริง ในช่วงเวลาสั้น ๆ สามวัน เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าคำให้การของคนเหล่านี้ไม่มีข้อผิดพลาด”

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้แก้ตัว แต่กลับขออนุญาตเพิ่มเติมอีก

“หากฝ่าบาทสามารถปฏิบัติกับตำหนักหลิงเซียวอย่างเท่าเทียมได้ หม่อมฉันก็จะสั่งให้คนไป ‘เชิญ’ นางสนมผู้นั้นมาไต่สวน”

แววตาของเซียวอวี้เคร่งขรึม

“เจ้ากำลังจะสื่อว่าเราเข้าข้างตำหนักหลิงเซียว?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มหน้าลงเล็กน้อย “หม่อมฉันมิบังอาจ เพียงแต่คำนึงได้ว่าหวงกุ้ยเฟยเป็นบุคคลที่ท่านโปรดปรานมากที่สุด จึงสื่อความหมายขออนุญาตก่อนที่จะนำคนมา”

ถึงแม้เซียวอวี้ไม่ชอบฮองเฮานางนี้ ทว่าก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล

ช่วงนี้ข่าวลือเหล่านั้น ทำให้พระราชวังอับอายขายหน้าไม่มากก็น้อย

“เราโปรดปรานหวงกุ้ยเฟยก็จริง ทว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนอื่นในตำหนักหลิงเซียว หากมีคนประสงค์ร้ายปล่อยข่าวลือออกไป เราก็จะไม่ปล่อยเอาไว้แน่”

เมื่อพูดจบ เขาก็ให้องครักษ์ของตนเองไปนำคนมา

ตำหนักหลิงเซียว

หวงกุ้ยเฟยทราบเรื่องนี้แล้ว จิตใจว้าวุ่นเล็กน้อย

“เหตุใดฝ่าบาทต้องจับกุมคนของข้า?”

ชุนเหอคาดเดา “ได้ยินมาว่าฮ่องเต้เสด็จไปที่ตำหนักหย่งเหอ ไม่ทราบว่าฮองเฮาพูดอะไรกับฮ่องเต้”

สายตาหวงกุ้ยเฟยบอกบุญไม่รับ

นางเฟิ่งเวยเฉียงสมควรตายนั้นอีกแล้ว!

ตำหนักหย่งเหอ

องครักษ์ข้างกายของเซียวอวี้มีวิธีการโหดเหี้ยม

พวกเขาเพิ่งจะไต่สวนไปได้ครู่เดียว สาวใช้ของตำหนักหลิงเซียวนั้นก็สารภาพผิดแล้ว

นางถูกพาตัวมากราบทูลขอความเมตตาต่อหน้าฮ่องเต้ ฮองเฮา

“ฮ่องเต้ ฮองเฮาได้โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิด!”

“บ่าวมิบังอาจแล้วเพคะ!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าเรียบเฉย ใช้แววตาที่ราวกับมองทะลุทุกสิ่งจับจ้องนางเอาไว้

“เจ้าไม่ได้มีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกับข้า เหตุใดจึงทำเช่นนี้”

คนที่ฉลาดก็สามารถฟังออกได้ว่าฮองเฮากำลังจะสื่อว่า —— สาวใช้ผู้นี้ถูกหวงกุ้ยเฟยบงการ

สาวใช้ผู้นั้นรีบตอบกลับทันควัน

“บ่าวไม่พอใจกับการขู่บังคับของฮองเฮา...ที่ขู่บังคับให้ฮ่องเต้โปรดปรานอย่างทั่วถึง จึงหน้ามืดตามัว พระนาง ท่านช่างยิ่งใหญ่สูงส่ง ปล่อยบ่าวไปเถิดเพคะ!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนยังอยากจะซักถามอะไรต่อ

เขาต้องการใช้วิธีรวดเร็วฉับไวยุติข่าวลือนี้ไว้

เฟิ่งจิ่วเหยียนสายตาเยือกเย็นเล็กน้อย หลุบตาต่ำ ขจัดอารมณ์ความรู้สึกออกไป

“ฝ่าบาท ท่านปราบปรามเช่นนี้ ดูเหมือนข่าวลือในพระราชวังจะเงียบหายไปได้

“ทว่าภยันตรายของเรื่องนี้ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด ยังควรไปกระชากโจรภูเขาที่ลักพาตัวหม่อมฉันออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาปล่อยข่าวลือนอกพระราชวังอีก อีกทั้งยังยืนยันได้ยากว่าเบื้องหลังของพวกเขาไร้ซึ่งคนบงการ ขอให้ท่านโปรดตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเพคะ!”

ปัง!

เซียวอวี้ตบโต๊ะอย่างแรงทันที สายตาแฝงไปด้วยความโมโห

ทันใดนั้นสายตาอันแหลมคมของเขานั้นตกกระทบไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน

“จับกุมโจรภูเขา? ฮองเฮาอยากจะให้ทุกคนรู้ว่าเจ้าถูกโจรภูเขาลักพาตัวไปจริง ๆ งั้นหรือ นี่ต้องการให้พระราชวังเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน?”

ช่างโง่เขลาเบาปัญญา แกว่งเท้าหาเสี้ยนเสียจริง!

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เกรงกลัวต่ออำนาจบาตรใหญ่ของโอรสสวรรค์ พูดอย่างสัตย์จริง

“ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นบุตรีแห่งตระกูลเฟิ่ง และยังเป็นสะใภ้ที่รับการตั้งแต่งจากฮ่องเต้องค์ก่อน เริ่มแรกโจรภูเขาบังอาจลักพาตัวข้าไป ไม่เคยแตะต้องหม่อมฉันแม้แต่ปลายเล็บ

“เป้าหมายของพวกเขาคือต้องการทำลายชื่อเสียงของหม่อมฉัน เช่นนั้น พวกเขาหรือผู้ที่อยู่ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังนั้น มุ่งเป้าไปที่ตัวของหม่อมฉันเอง หรือตระกูลเฟิ่ง หรือถึงขั้นพระราชวังกันล่ะ?

“ถ้าหากเป็นเพียงแค่หม่อมฉันกับตระกูลเฟิ่ง ก็ยังพอทนได้ ทว่าหากเป้าหมายของพวกเขาคือบ่อนทำลายชื่อเสียงพระราชวังหนานฉีล่ะ?

“หากมุ่งเป้าไปที่พระราชวัง ก็เป็นการก่อกบฏที่แฝงเจตนาร้ายอยู่ หรือสายสืบของรัฐอื่น

“ดังนั้น เพื่อส่วนรวมและส่วนตน หม่อมฉันก็ต้องการค้นหาความจริง! หากฝ่าบาทไม่มีเวลามาจัดการเรื่องเหล่านี้ ได้โปรดอนุญาตให้หม่อมฉันไปสืบสอบเป็นการส่วนตัวด้วยเพคะ!”

คำพูดนี้ของนางมีเหตุผล และมีความหาญกล้า

เซียวอวี้เองก็คิดไม่ถึงว่า นางจะดึงจุดดีจุดเสียออกมาได้มากมายเช่นนี้ และยังพูดถึงสายลับของรัฐศัตรูอะไรนั้นอีก

ในตอนแรกที่นางไม่ให้ตัดหัวสาวใช้คนนั้น เขาคิดไปเองว่านางจงใจมุ่งเป้าไปที่หวงกุ้ยเฟย

นี่เป็นเขามองนางไปว่าแล้งน้ำใจเกินไปหรือกระไร...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย