เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 44

เซียวอวี้หัวเราะเยาะอย่างเยือกเย็น

“ได้ เพื่อส่วนรวมและส่วนตน”

“ในเมื่อฮองเฮาพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว ย่อมมั่นใจแล้วว่าเราจะอนุญาตให้เจ้าไปสืบสอบเพื่อความสงบสุขของสังคม?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบกลับอย่างนอบน้อม : “หม่อมฉันเชื่อว่าฝ่าบาทเป็นจักรพรรดิที่มีพระปรีชาสามารถ ห่วงใยราษฎรทั่วหล้า จะมิเพิกเฉยกับภยันตรายใด ๆ ที่จะคืบคลานเข้ามาทำลายแคว้นหนานฉีเป็นแน่”

น้ำเสียงเซียวอวี้เย็นชา

“ไม่จำเป็นต้องประจบสอพลอหรอก”

“หากเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ เหตุใดเราต้องส่งไม้ต่อให้เจ้าไปสืบสอบ? หรือผู้ใต้บังคับบัญชาเราไม่มีใครที่มีน้ำยาหรือกระไร!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้ปฎิเสธ

“ใช่เพคะ ความสามารถของหม่อมฉันมีขีดจำกัด ทว่าหม่อมฉันเป็นผู้ได้รับความเสียหายในเรื่องนี้ ไม่มีผู้ใดร้อนใจที่อยากจะสืบสอบความจริงไปมากกว่าหม่อมฉัน และไม่มีผู้ใดระมัดระวังตัวกว่าหม่อมฉันแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เรื่องลุกลามใหญ่โต ทำให้ทุกคนรู้ว่าราชสำนักกำลังไล่ล่าโจรภูเขา

“ฝ่าบาทจะให้คนอื่นไปสืบสอบก็ย่อมได้ ทว่าทางที่ดีก็หวังคนเหล่านั้นแต่ละคนจะปิดปากเงียบสนิท”

เซียวอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่อยากต้องการคนรู้เรื่องนี้มากนักจริง ๆ

“ได้ ฮองเฮา เราให้เวลาเจ้าหนึ่งเดือน หลังจากนั้นหนึ่งเดือน หากเจ้ายังจับโจรภูเขาไม่ได้ สืบหาคนที่ชักใยไม่เจอ เช่นนั้นเรื่องนี้ก็อย่ามาพูดถึงอีก

“เปรียบเทียบกับข่าวลือไม่มีมูลเหล่านั้น เราเอือมระอากับเจ้าที่ชอบแส่หาเรื่องมากกว่า!”

พูดจบเขาก็เดินออกไป

เฟิ่งจิ่วเหยียนถวายบังคมให้กับเงาร่างของเขาอีกครั้ง

“หม่อมฉันน้อมรับคำสั่งเพคะ”

หลังจากที่ฮ่องเต้จากไป เหลียนซวงราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก

“พระนาง ในที่สุดฝ่าบาทก็ตกปากรับคำแล้ว และยังยกเลิกการกักอาณาเขตของท่าน ทว่าให้เวลาท่านแค่หนึ่งเดือน จะทันกาลหรือเพคะ?”

แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งดั่งวารี

“หนึ่งเดือนเพียงพอแล้ว คืนนี้ข้าจะออกไปนอกตำหนักเสียหน่อย”

“อะไรกัน พระนางท่านจะออกจากตำหนัก?!” เหลียนซวงกระวนกระวายใจอย่างมาก

......

หลังจากฮ่องเต้เสด็จออกจากตำหนักหย่งเหอ เซียวอวี้เรียกองครักษ์มาประชุม

สายตาของเขาเต็มไปได้ความเย็นยะเยือก

“หาคนที่ไว้ใจมาสองสามคน แอบไปไล่ล่าโจรภูเขาที่ลักพาตัวฮองเฮาอย่างลับ ๆ สืบสอบให้ชัดเจน เบื้องหลังของพวกเขามีคนบงการหรือไม่”

การสอบสวนไม่ใช่เรื่องง่าย เขาไม่ได้คาดหวังว่าฮองเฮาจะสืบสอบความจริงได้อยู่แล้ว

ทว่าเรื่องนี้จะปล่อยผ่านโดยมองดูเฉย ๆ ไม่ได้ ยอมเปลืองแรงเสียหน่อย ก็ไม่สามารถพลาดพลั้งไปได้

......

เวลาเคลื่อนคล้อยเข้าสู่ยามค่ำคืน

ด้านนอกตำหนัก

ในซากวัดที่ปรักหักพังแห่งหนึ่ง

หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนปรากฏกายแล้ว ผู้ใต้บังคับบัญชาอู๋ไป๋เองก็ปรากฏกายเช่นกัน

“แม่ทัพน้อย! ข้าน้อยรอคอยท่านมานานแล้วพะยะค่ะ!

“คนที่ท่านหามาเหล่านั้นล้วนเก่งกล้าสามารถ แม้คนของพันธมิตรยุทธภพก็มากันแล้ว พวกเราจับกุมโจรภูเขาเหล่านั้นไว้ให้ครบทุกคนแล้ว! จริงสิ มีหญิงสาวนางหนึ่งเค้นถามข้าว่าท่านอยู่ที่ใด ยืนกรานที่จะพบหน้าท่านให้ได้...”

“โจรภูเขาล่ะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดคำพูดของเขา ถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

อู๋ไป๋ยกมือชี้ทันที

“อยู่ตรงนี้พะยะค่ะ! สถานที่แห่งนี้ก็เป็นที่สหายรักของท่านจัดหาให้!”

ทว่าคนเหล่านั้นก็สมควรโดนแล้ว!

อู๋ไป๋พินิจพิเคราะห์จริงจังเป็นอย่างมาก อีกประเดี๋ยวจะทาเกลือให้พวกเขา หรือใช้น้ำผสมพริกดีนะ?

......

พระราชวัง

ตำหนักหลิงเซียว

หวงกุ้ยเฟยขว้างถ้วยชาด้วยความโมโห แววตาทอประกายไปด้วยรังสีแห่งความเคร่งเครียด

“นางสารเลว! นางสารเลวเฟิ่งเวยเฉียงนั้น ในช่วงเวลาสั้น ๆ สามวันสามารถหาตัวคนปล่อยข่าวลือได้อย่างไรกัน!”

ตามแผนการของนาง ข่าวลือในพระราชวังแพร่งพรายไปทุกสารทิศ เมื่อฮ่องเต้ทราบว่าชื่อเสียงของฮองเฮาได้รับความเสียหาย ก็ควรจะทำตามสิ่งที่วังหน้าควรทำ ถอดถอนฮองเฮาออก!

ไหนเลยจะรู้ว่าวิธีโง่เง่าเช่นนี้ กลับได้ผลที่สุด

ข่าวลือแพร่กระจายจากหนึ่งเป็นสิบจากสิบเป็นร้อย ดูแล้วคงไม่ง่ายที่จะหาว่าใครคือคนที่ป่าวประกาศข่าวลือคนแรก กฎหมายไม่สามารถเอาผิดกับราษฎรได้ ที่จริงแล้วสืบสอบไปทีละคน ก็สามารถหาสืบสอบไปถึงจุดกำเนิดได้

มิหนำซ้ำเฟิ่งจิ่วเหยียนก็จับตามองตำนานหลิงเซียวมานานแล้ว...

ตำหนักหย่งเหอ

ซุนหมัวมัววิ่งเข้ามาในตำหนัก ทว่ากลับไม่เจอพระนาง

นางคว้าตัวเหลียนซวงมาถาม

“ฮองเฮาล่ะ? ฮ่องเต้เสด็จมาแล้ว ยังไม่รีบไปเรียกพระนางมาต้อนรับอีก!”

“อะไรนะ? ฮ่องเต้เสด็จมาแล้ว?!” เหลียนซวงหน้าซีดเล็กน้อย

แย่แล้ว!

ตอนนี้พระนางยังไม่กลับมาน่ะสิ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย