สิบวันให้หลัง
ณ ชายแดนแคว้นหนานฉี
เฟิ่งจิ่วเหยียนหันกลับไปมองด้วยความเหงาครู่หนึ่ง ซึ่งตกอยู่ในสายตาของอู๋ไป๋
เขาจึงอดพูดไม่ได้
“แม่ทัพน้อย ถ้าหันกลับไปตอนนี้ ก็ยังไม่สายเกินนะขอรับ”
เขารู้ชัดเจน แม่ทัพน้อยมิใช่คนเย็นชาไร้น้ำใจ ตรงกันข้ามคือให้ความสำคัญกับมิตรภาพเป็นพิเศษ
หากมีบ้านให้กลับไป เหตุใดจะต้องแยกย้ายไปสุดฟ้า
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงความลำบากใจของแม่ทัพน้อย เหมือนกับที่เขารู้
ในมุมหนึ่ง จากคำพูดของคนชุดคลุมดำ บัดนี้แม่ทัพน้อยตกเป็นเป้าหมายของสมาชิกพรรคเทียนหลง ไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นรู้จักโฉมหน้าแท้จริงภายใต้หน้ากากของแม่ทัพน้อย ตั้งแต่เมื่อใด และยังรู้ด้วยว่าฮองเฮาองค์ปัจจุบันเคยเป็น “เมิ่งสิงโจว”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเบาะแสที่สืบได้ล่าสุด พรรคเทียนหลงแอบฟื้นคืนความรุ่งโรจน์มานานแล้ว อีกทั้งประมุขพรรคของพวกเขา จะออกจากที่ซ่อนในเร็ววันนี้
ในอีกด้านหนึ่ง “เมิ่งสิงโจว” กลายเป็นหนามยอกอกของพวกเขา กอปรกับตัวตนของซูฮ่วน——เป็นหนึ่งในผู้นำที่กวาดล้างพรรคเทียนหลงในปีนั้น เกรงว่าพรรคเทียนหลงจะรู้ความจริงในไม่ช้าก็เร็ว และชำระแค้นเก่าแค้นใหม่ไปพร้อมกัน
เมื่อถึงเวลานั้น ตามวิถีทางของพรรคเทียนหลง จักต้องลากคนรอบกายของแม่ทัพน้อยมาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน
ตอนนี้แม่ทัพน้อยไม่กลับไปที่จวนตระกูลเฟิ่ง ก็เพราะไม่อยากให้คนตระกูลเฟิ่งเดือดร้อน
กับฝ่าบาทก็เช่นเดียวกัน ที่ต้องใจร้ายและไร้ไมตรีเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น
แท้จริง หากแม่ทัพน้อยต้องการจากไปจริง ๆ แล้วไซร้ องครักษ์เหล่านั้นในวังก็ขวางไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้คนในใต้หล้ารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องเต้ฮองเฮาร้าวฉาน และถึงขั้นต้องหย่าร้างกัน...
อู๋ไป๋นึกทอดถอนใจ
คำจำกัดความของแม่ทัพน้อยคือ พูดน้อยแต่ทำมาก
แม้ว่าเขาจะติดตามนางมานานหลายปี ก็มิอาจทราบความคิดของนางได้ทั้งหมด
แต่เขากลับคิดว่า การตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเฟิ่ง และสร้างปัญหากับฝ่าบาทเช่นนี้ ช่างทำรุนแรงเกินไปจริง ๆ
ทว่า แม่ทัพน้อยยินดีเสียสละตัวเองไปเผชิญหน้ากับความตายก่อน เพื่อปกป้องผู้คนที่ตนเองห่วงใยเสมอ
เขาปรารถนาให้แม่ทัพน้อยวางภาระเหล่านั้นลง และอย่าแบกรับมันไว้เพียงลำพัง แม้จะเป็นเพียงครั้งเดียวก็ยังดี
อู๋ไป๋ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“ขอเพียงท่านอธิบายให้ฝ่าบาทได้กระจ่างว่า เศษเดนเหล่านั้นของพรรคเทียนหลงหมายจะกำจัดท่าน ข้าน้อยเชื่อว่าฝ่าบาทจะปกป้องท่าน และจับคนเหล่านั้นเป็นแน่ เหตุใดท่านต้องแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียวด้วย”
เฟิ่งจิ่วเหยียนกระชับสายบังเหียนในมือแน่น พลางมองไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว
“หากข้าปกป้องตนเองยังไม่ได้ แล้วจะปกป้องคนรอบข้างได้อย่างไร”
ตั้งแต่เล็กจนโตนางไม่เคยถูกเลี้ยงดูให้เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
เมื่อสตรีอื่นประสบปัญหา สิ่งแรกที่นึกถึงคือการพึ่งพาผู้แข็งแกร่ง อย่างเช่น บิดา พี่ชาย สามี หรือแม้แต่บุตรชาย
มิใช่ว่าสิ่งนี้ไม่ดี ในทางตรงกันข้าม นี่คือวิถีชีวิตหาทางรอดของผู้หญิงจริง ๆ
และสิ่งที่นางต้องมีตั้งแต่เล็กคือความรับผิดชอบ เช่นเดียวกับบุรุษ ที่จะต้องรับผิดชอบภาระอันหนักหน่วงด้วยตนเอง เพื่อปกป้องคนในครอบครัว
พึ่งพาผู้อื่นนั้นอันตราย และมีแต่จะตกต่ำ
กล่าวอีกนัยคือ แม้เซียวอวี้จะสามารถปกป้องนางได้ ทว่าคนในครอบครัวของนางเล่า?
เซียวอวี้จะสามารถส่งคนมาคุ้มกันพวกเขาได้ตลอดเวลาหรือไร?
สิ่งเดียวที่ผู้คนสามารถพึ่งพาได้ ก็คือตนเอง
อู๋ไป๋ลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า “แม่ทัพน้อย ท่านไม่รู้สึกชอบฝ่าบาทสักนิดเลยหรือขอรับ?”
สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
คนมิใช่ผักหญ้า จักได้ไร้ความรู้สึก
ทว่า ความคาดหวังที่เซียวอวี้มีต่อนาง คือให้นางเป็นฮองเฮาที่ดี——คอยจัดการกิจการทั่วไปในวัง แสดงความกตัญญูต่อผู้อาวุโส รับผิดชอบงานเลี้ยงเล็กใหญ่ในวัง กระทั่งให้กำเนิดลูก ๆ แก่เขาด้วย...
หากนางต้องใช้ชีวิตที่เหลือส่วนใหญ่ไปเช่นนี้จนตาย แล้วการที่นางฝึกฝนวิทยายุทธอย่างหนักตั้งแต่เล็ก จะยังมีความหมายอันใด? นี่จะแตกต่างจากการบอกให้นางทำลายวิทยายุทธอย่างไร
และในยามนี้นางมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังมิได้สะสาง ย่อมจะอยู่ในวังตลอดไปไม่ได้


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...