เซียวอวี้ถ่ายทอดคำสั่ง
“จงเร่งรุดไปที่หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ และลอบสืบหา ผู้ที่คิดต่อต้านราชสำนัก”
“น้อมรับพระบัญชา!”
ในขณะนี้
เมืองตงซิ่น
ณ หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่
เหล่าศิษย์จากสำนักต่าง ๆ ได้เข้าปิดล้อมแน่นขนัดจนแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ผ่านไปไม่ได้
ในหมู่พวกเขามีคนที่ยืนอยู่บนตำแหน่งสูง ปากก็ร้องตะโกน
“ท่านทั้งหลาย ครั้งนี้พวกเราจะต้องมีใจเด็ดเดี่ยว ร่วมแรงร่วมใจกัน! ผู้นำพันธมิตรจะต้องให้คำอธิบายแก่พวกเรา!
“สหายชาวยุทธ มีหลายคนถูกราชสำนักบีบบังคับถึงขั้นจนตรอก เหตุผลในการก่อตั้งพันธมิตรอู่หลิน คือการต่อสู้กับความอยุติธรรมทุกรูปแบบของราชสำนัก! ยุทธภพคือแดนแห่งความผาสุกของพวกเรา มิควรถูกแปดเปื้อน!
“พวกเราฝึกฝนวิทยายุทธ เพื่อปล้นคนรวยช่วยคนจน กระทำการกล้าหาญชอบธรรม อย่าลดศักดิ์ศรีเพื่อไปเป็นสุนัขรับใช้ของราชสำนัก!”
ทุกคนที่อยู่ด้านล่างพลันขานรับเสียงดังลั่น
“ถูกต้องอย่างที่ว่า! อย่าเป็นสุนัขรับใช้ของราชสำนัก!”
“บรรดาเจ้าสำนักได้เข้าไปหารือกับผู้นำพันธมิตรอีกครั้ง และนี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพันธมิตรอู่หลิน หากพวกเขายังต้องการจะเป็นขุนนาง ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีพันธมิตรอู่หลินอีกต่อไป!”
“ถูกต้อง! ไม่จำเป็นอีก!”
อีกด้านหนึ่ง
ในหมู่บ้านเสิ่นเจียอู่
ณ หอประชุม
เจ้าสำนักต่าง ๆ ได้ล้อมตงฟางซื่อเอาไว้ และเอ่ยข่มขู่
“ตงฟางซื่อ พันธมิตรอู่หลินมีไว้เพื่อปกป้องสหายในยุทธภพ มิใช่ทำตามคำสั่งของท่านผู้เดียว! ท่านเข้าไปแทรกแซง ในศึกที่เมืองเซวียน แล้วเคยถามความคิดเห็นของพวกเราหรือไม่!”
“ราชสำนักและยุทธภพ เปรียบเสมือนสองแผ่นดิน ท่านช่วยพวกเขา แต่พวกเขาไม่เคยช่วยเหลือพวกเรา!”
“ถูกต้อง! ท่านลืมไปแล้วรึ ในปีนั้นสำนักต่าง ๆ ถูกคุกคามโดยพรรคมาร ล้มตายกันไปตั้งกี่คน! ราชสำนักกลับนั่งอยู่บนหอคอยมองดูผู้คนรบกัน เอ่ยว่า ‘ปล่อยให้พวกคนชั่วกัดกันเอง’ เหตุใดจะต้องช่วยเหลือ ราชสำนักแบบนี้ด้วย!”
ยิ่งเอ่ยยิ่งกระตุ้นโทสะ ผู้อาวุโสของพรรคกระยาจกจึงเริ่มตีอกชกหัว
“ผู้นำพันธมิตร! ท่านกำลังเลอะเลือน! ราชสำนักไม่เคยให้ทางรอดกับพวกเรา และพวกเขาไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด ไม่คุ้มที่จะพึ่งพา!
“หากราชสำนักมีประโยชน์จริง ไยถึงมีขอทานมากมายในหนานฉีอีกเล่า!
“ผู้นำพันธมิตร ท่านดูเด็กคนนี้สิ!”
ขณะที่เอ่ย เขาก็ผลักเด็กร่างผอมแห้งแขนขาดคนหนึ่งให้ออกมาอยู่ต่อหน้าของตงฟางซื่อ
“ผู้นำพันธมิตร ท่านลองดูสิ เด็กคนนี้ กำลังขอทานอยู่บนท้องถนนดี ๆ กลับถูกลูกชายของขุนนางสุนัขนั่นทรมาน และตัดแขนทิ้งทั้งหมด
“พวกเราเคยฟ้องร้องไปทางการ แล้วราชสำนักจะช่วยออกหน้าพูดแทนพวกเรารึ?
“พวกเขาคิดเพียงว่าพวกเราเป็นขอทานตัวเหม็น สมควรแล้วที่จะถูกทุบตี
“คนในราชสำนักเหล่านั้น รู้จักแต่รังแกคนอ่อนแอ และขูดรีดภาษีแพงขึ้นทุกปี เหตุใดพวกเราจะต้องเสี่ยงอันตรายเพื่อพวกเขาด้วย!
“ผู้นำพันธมิตร หากท่านยอมสวามิภักดิ์ต่อราชสำนัก เช่นนั้นก็เท่ากับเหยียบย่ำหัวใจของพี่น้องศิษย์พรรคกระยาจกเรา!”
ตงฟางซื่อมองดูเด็กน้อยไร้เดียงสาคนนั้น ด้วยสีหน้าที่เผยความรู้สึก
ทว่าเขายังคงยืนหยัด
“ศัตรูต่างแดนและความวุ่นวายในแว่นแคว้น มิใช่เรื่องของราชสำนักเท่านั้น
“ข้าไม่เคยคิดที่จะพาพันธมิตรอู่หลินไปสวามิภักดิ์ต่อราชสำนัก ขณะเดียวกันก็ไม่คิดว่าจะต้องกำหนดขอบเขตชัดเจนกับราชสำนักด้วย
“สำหรับเรื่องของพรรคชิงอวี่นั้น ไม่ใช่ฝีมือของข้า ดังนั้นข้าจะส่งคนออกไปตรวจสอบเรื่องนี้...”
ในขณะนี้ รองประมุขพรรคชิงอวี่แผดเสียงก้อง


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...