ณ ตำหนักหลิงเซียว
ยามที่กุ้ยเฟยได้ยินเรื่องนี้ หัวคิ้วพลันขมวดแน่น
“ฮองเฮาบ้าไปแล้วหรือไร! บังอาจมาบังคับให้ข้าเข้าร่วมแข่งขันด้วยเชียวหรือ?
“นี่นางคิดว่า พอมีตราประทับทองแล้ว จะสามารถทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ แม้แต่ข้าก็ต้องเชื่อฟังนางอย่างนั้นหรือ!”
หากไม่ใช่เพราะเมื่อคืนฝ่าบาทเพิ่งกล่าวเตือนนาง ว่าห้ามก่อเรื่องในช่วงระยะนี้ นางกับฮองเฮาก็คงได้เห็นดีกันแล้ว!
เรื่องการแข่งขันขี่ม้าโปโล ไม่ได้มีเพียงกุ้ยเฟยที่ไม่พอใจ
หลังจากการชุมนุมยามเช้าเสร็จสิ้นลง เหล่านางสนมก็มารวมตัวกัน ทั้งยังพร่ำบ่นออกมาไม่หยุด
“เข้าร่วมแข่งขันขี่ม้าโปโลบ้าบออะไรกัน! ฮองเฮานี่ก็ช่างแปลกประหลาด ถึงได้คิดเรื่องพิลึกเช่นนี้ออกมาได้!”
“แม้นฮองเฮาจะพูดจาฟังดูสวยหรู แต่ข้าก็ไม่เต็มใจเข้าร่วม ยามนั้นกับยามนี้ไม่เหมือนกันเสียสักหน่อย ปัจจุบันกองกำลังของแคว้นหนานฉีเราก็แข็งแกร่งมากพอแล้ว ไฉนสตรีอย่างเรา ๆ ต้องไปปกป้องแคว้นด้วย”
“ฮองเฮาเพิ่งรับตำแหน่งก็แผลงฤทธิ์เสียแล้ว คิดจะทรมานกันชัด ๆ ข้าล่ะอยากจะเห็นเหลือเกิน ว่าการแข่งขันขี่ม้าโปโลนี่จะถูกจัดขึ้นได้หรือไม่”
อีกด้านหนึ่ง หนิงเฟยตรงดิ่งไปกล่าวฟ้องที่ตำหนักฉือหนิง
“ท่านป้า ท่านคงไม่รู้ ว่าฮองเฮาจองหองมากเพียงใด นางบังอาจมาเคลือบแคลงคำสอนของตระกูลเรา! แม้แต่ท่านป้านางก็ไม่เห็นในสายตา!”
แรกเริ่มไทเฮาเองก็คิดว่าการแข่งขันขี่ม้าโปโลไม่เหมาะสม
แต่เพราะนางไม่ได้ดูแลควบคุมวังหลังอีกต่อไป ซ้ำยังหวังให้ฮองเฮาขึ้นแท่นแย่งชิงกับกุ้ยเฟย ด้วยเหตุนี้จึงไม่อยากเข้าไปถ่วงขาฮองเฮา
ทว่า นางยังต้องสนใจหลานสาวของตนเองด้วย
“กุ้ยหมัวมัว ประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักหย่งเหอ แล้วบอกทางนั้นว่าระยะนี้ หนิงเฟยต้องเข้าเฝ้าข้า คงไม่มีเวลาไปฝึกการแข่งขันขี่ม้าโปโล”
หนิงเฟยได้ยินเช่นนั้น ก็รีบโค้งคำนับ
“ขอบพระทัยท่านป้า!”
ไทเฮาลูบหัวของนาง
“เจ้าเป็นหลานสาวของข้า เรื่องไหนในวังที่ข้าพอช่วยได้ ก็จะช่วยเป็นแน่ แต่เจ้าต้องจำให้ขึ้นใจ อย่าแสดงตัวต่อต้านฮองเฮาอย่างเปิดเผย ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนที่มีศักดิ์สูงสุดในหกตำหนัก”
“เพคะ ท่านป้า”
เส้นสายที่คอยเป็นหูเป็นตาให้ฮ่องเต้กระจายอยู่ทั่ววัง
หลังจากเกิดเรื่องโจรภูเขาขึ้น เซียวอวี้ก็ส่งคนมาจับตามองทุกการกระทำของฮองเฮา
ด้วยเหตุนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า จึงมาถึงหูของเขาอย่างรวดเร็ว รวมถึงบทสนทนาของนางกับหนิงเฟยด้วย
เดิมทีเซียวอวี้ก็คิดว่า ที่ฮองเฮาต้องการจัดการแข่งขันขี่ม้าโปโลขึ้นมา เป็นเพราะนางว่างไม่มีอะไรทำ จึงอยากสร้างความวุ่นวายในวังหลัง
แต่พอได้ยินคำพูดที่นางตอกกลับหนิงเฟย เขาก็ค่อนข้างประหลาดใจ
ณ ปัจจุบันกำลังทหารของแคว้นหนานฉีแข็งแกร่ง ผู้หญิงที่รู้จักหอวีรสตรี ซ้ำยังอยากเรียนขี่ม้ายิงธนูเหมือนบุรุษ จึงมีอยู่น้อยนิด
“แข่งขันขี่ม้าโปโลงั้นหรือ…” เขาพึมพำเสียงเบา
แปลกใหม่ดี
นางสนมเหล่านั้นกำลังหาอะไรให้ทำอยู่พอดีเลย ดีเหมือนกันวัน ๆ พวกนางจะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่าน
……
ฮองเฮามีคำสั่ง ให้นางสนมที่มียศศักดิ์ระดับห้าขึ้นไปเข้าร่วมฝึกการแข่งขันทุกคน
ทว่าวันต่อมา คนที่มาลานฝึกกลับมีแค่สองคน
คนหนึ่งคือเสียนเฟย
“พระนาง ฮองเฮาจงใจทรมานท่านชัด ๆ!
“นางรู้ทั้งรู้ว่าท่านขี่ม้าไม่คล่อง ก็ยังจะให้ท่านขี่”
เสียนเฟยส่ายหน้าเบา ๆ
“อย่าพูดแบบนั้น การแข่งขันขี่ม้าโปโลเป็นกิจกรรมแรกที่ฮองเฮาจัดขึ้น เพื่อนพ้องสตรีในวังหลังควรเข้าร่วมเป็นธรรมดา น่าเสียดายที่ร่างกายข้าไม่ได้เรื่อง”
นางเผยสีหน้าโทษตัวเองออกมา
ตงเซี่ยฟึดฟัดไม่หยุด
“ทีพระสนมนางอื่นยังอ้างป่วยไม่ยอมมา มีแต่ท่านที่ซื่อสัตย์เกินไป”
ณ ตำหนักหลิงเซียว
ชุนเหอรายงานกุ้ยเฟยพลางยิ้ม
“พระนางเพคะ พูดแล้วช่างน่าขบขัน มีคนไปแค่สองคนเองเพคะ”
“เสียนเฟยก็ขี้โรค นางสนมเจียก็มักทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ สองคนนั้นจะไปได้เรื่องอะไร? ดูท่าแล้วคงไม่น่าจะมีใครเก็บคำพูดของนางมาใส่ใจ เป็นถึงฮองเฮาแต่มีสภาพเช่นนี้ ช่างเป็นการสร้างเรื่องอับอายให้คนรุ่นหลังของตระกูลเฟิ่งจริง ๆ”
สิ้นคำพูด ก็มีข้าหลวงเข้ามากราบทูล
“พระนาง ฮองเฮาเสด็จไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
กุ้ยเฟยเลิกคิ้วขึ้น
ชุนเหอรีบเอ่ยขึ้นว่า “ฮองเฮาคงรู้ว่าคำพูดของตัวเองไม่ได้ผล จึงอยากให้ฝ่าบาทออกหน้าแทนแน่ ๆ เพคะ”
กุ้ยเฟยแสยะยิ้ม
“งั้นก็มาดูกัน ว่าฝ่าบาทจะทรงช่วยนางหรือไม่”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...