เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 6

เมื่อเหลียนซวงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็รีบเข้าไปในตำหนัก

“ฮองเฮา เกิดอะไรขึ้นเพคะ...”

เหลียนซวงพูดยังไม่ทันจบ ก็มีเสียงสายหนึ่งดังออกมาจากม่านอักษรมงคล [1] “ไสหัวไป”

เป็นเสียงของบุรุษ!

เหลียนซวงตระหนักว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว คิดจะตะโกนเรียกคนเข้ามา

ทันใดนั้นขันทีคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาขวางนางไว้อย่างรีบร้อน เสียงที่พยายามกดความโกรธเกรี้ยวเอาไว้กล่าวว่า

“ไม่รู้จักเบิกตาดูซะบ้าง! นั่นคือฮ่องเต้!”

เหลียนซวงตกตะลึงจนพูดไม่ออก

ฝ่ะ ฝ่ะ ฝ่า...ฝ่าบาท? ฮ่องเต้ทรราชผู้ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาผู้นั้น?

มืดค่ำถึงเพียงนี้แล้ว เหตุใดอยู่ ๆ พระองค์ถึงเสด็จมาเล่า!!

ภายในม่าน

ฝ่ามือใหญ่ของบุรุษกดไหล่ข้างหนึ่งของเฟิ่งจิ่วเหยียนเอาไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งจับข้อมือข้างที่นางถือกริช โน้มร่างอยู่เหนือนาง ราวกับสิงโตที่กำลังโถมเข้าหาเหยื่อ

เดิมเฟิ่งจิ่วเหยียนสามารถลองสลัดให้หลุดได้ แต่เมื่อรู้สถานะของอีกฝ่ายนางจึงไม่ได้ลงมือ

ในความมืดมิด นางไม่อาจมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัด

แต่รังสีฆ่าฟันบนร่างของเขาเข้มข้นยิ่ง

“ฮองเฮา ไม่อธิบายซักหน่อยหรือ?”

น้ำเสียงทุ้มอันราบเรียบของบุรุษทำให้คนรู้สึกกลัวเกรง

หากเป็นสตรีทั่วไปคงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดไม่เป็นคำไปนานแล้ว

เฟิ่งจิ่วเหยียนหายใจอย่างสงบนิ่งไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย

“หม่อมฉันพกกริชติดตัวเพื่อปกป้องตนเอง มิได้เจตนาทำให้พระองค์ตกพระทัยเพคะ ”

เดิมทีนางก็ไม่ใช่สตรีที่สุภาพอ่อนโยนเช่นน้องสาว เฟิ่งเวยเฉียง น้ำเสียงนางไม่ได้อ่อนหวานเลยสักนิด แต่กลับราบเรียบราวกับเส้นตรงเส้นหนึ่ง

ฟังดูแล้วไม่เหมือนพูดกับพระสวามีของตน กลับเหมือนพูดกับคนแปลกหน้าที่ไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อยเสียมากกว่า

ครั้นแล้วก็ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะเย็น ๆ ของบุรุษ

จากนั้นเขาก็แย่งกริชของนางไปแล้วลุกขึ้นนั่ง

ภายในตำหนักไม่ได้จุดโคมไฟ มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องสว่างเข้ามาเล็กน้อย แลดูมืดสลัว

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเห็นร่างบุรุษนั่งอยู่ที่ขอบเตียงอย่างเลือนราง เสื้อคลุมตัวนอกคลายออก ดูดิบเถื่อนอยู่หลายส่วน

ดูเหมือนเขาจะกำลังตรวจดูกริชเล่มนั้นอยู่

ภายในม่านเงียบสงัด

เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ลุกขึ้นมานั่งตาม รักษาระยะห่างจากเขา ศัตรูไม่เคลื่อนข้าก็ไม่ขยับ

ทันใดนั้นเขาก็หันมาด้านข้าง กุมกริชจี้ใบมีดไว้ใต้ลำคอของนาง

เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยังไม่เคลื่อนไหว อีกทั้งยังไม่หลบเลี่ยง

“คนประเภทที่เราฆ่าไปมากที่สุด ก็คือพวกคนอวดฉลาด”

ยังดีที่เป็นนาง

หากเปลี่ยนเป็นเวยเฉียง เกรงว่าจะได้รับบาดเจ็บแล้ว

ทันใดนั้นเองก็มีวัตถุแข็ง ๆ ดุนอยู่ใต้ส่วนท้องของนาง

ที่น่ารังเกียจยิ่งกว่าคือชายผู้นี้จับมือของนางให้กุมมันเอาไว้ด้วยตัวเอง

สิ่งนั้น....ด้ามกริชที่เย็นเฉียบราวน้ำแข็ง

เขากระซิบด้วยเสียงต่ำปานปีศาจร้ายอยู่ข้างหูของนาง

“เราไม่ชอบความสกปรก ฮองเฮา เจ้าลงมือเองเถิด”

เฟิ่งจิ่วเหยียนกรุ่นโกรธยิ่ง

ที่แท้เจ้าทรราชก็ไร้มนุษยธรรมถึงเพียงนี้!

นางรู้สึกปิติยินดีอีกครั้งที่เวยเฉียงไม่ต้องมาประสบพบเจอเรื่องเหล่านี้

นางกุมกริชนั้นเอาไว้ด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย แต่การสั่นนี้ล้วนมาจากความโกรธ

“ฮองเฮา หากเจ้ายังไม่ลงมืออีก เราไม่ถือสาที่จะเรียกคนมาช่วยเจ้า” เสียงของทรราชดังขึ้น ไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผาเลยแม้แต่น้อย

เฟิ่งจิ่วเหยียนตัดสินใจคลายสายรัดเอวของตนอย่างเด็ดขาด...

----------------------------------------------

[1] เป็นผ้าม่านคลุมเตียงสำหรับคืนเข้าหอโดยจะปักอักษรคำว่า'มงคล'เอาไว้เพื่ออวยพรให้คู่บ่าวสาว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย