คืนนี้ถูกลิขิตไว้แล้วว่านางต้องถูกเอาเปรียบซักครั้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนคาดการณ์เรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว
ที่จริงเมื่อเทียบกับโดนฮ่องเต้ทรราชนี่พรากคืนแรกไป ให้ทำเองยังนับว่าดีกว่ามากนัก
อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนถูกคนกดไว้ข้างล่าง
เฟิ่งจิ่วเหยียนฉีกผ้าจากชายกระโปรงออกมาชิ้นหนึ่ง นำมาปูรองไว้เป็นผ้าพรหมจรรย์[1]
หลังจากนั้นก็ใช้มือหนึ่งถลกกระโปรงขึ้นมา อีกข้างพลิกมือจับกริชนั้น
ถึงแม้นางตัดสินใจแล้วว่าจะทำ แต่ร่างกายยังคงต่อต้านโดยสัญชาตญาณ
นางปลอบใจตัวเอง คิดเสียว่าโดนแทงหนึ่งทีแล้วกัน
ตั้งแต่เล็กจนโตนางบาดเจ็บมาน้อยหรือไร?
จากนั้นนางก็เริ่มออกแรง...
เพียงชั่วพริบตานั้นเองพละกำลังสายหนึ่งพุ่งเข้ามาจับข้อมือนางเอาไว้แน่น
เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว
เซียวอวี้แย่งกริชในมือนางไปอีกครั้ง ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก
“ช่างเป็นสตรีที่โง่เสียจริง”
เคร้ง!
กริชถูกโยนออกไปนอกม่านเตียงอักษรมงคล
“เจ้าจะบริสุทธิ์หรือไม่ เราไม่แยแสแม้แต่น้อย”
“ในเมื่อเจ้ากล้าแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเป็นฮองเฮาให้ได้ เช่นนั้นก็อย่าแกล้งโง่ไปเลย”
“ดังเช่นที่เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าเราอยู่ที่ตำหนักหลิงเซียว ยังจะกล้าบุกไปหาเรา”
เฟิ่งจิ่วเหยียนกัดฟันกรอด
ที่แท้ยามนั้นเขาก็คิดว่านางทำเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน ด้วยเหตุนี้จึงตั้งใจมาสั่งสอนเพื่อให้นางจดจำกฎระเบียบนี้ให้ดี
ดูท่าทีที่ยามนั้นบอกให้นางเตรียมร่วมบรรทม ก็เพื่อหลอกให้นางรอไปทั้งคืน
ช่างเป็นวิธีฆ่าคนไม่เห็นเลือดเสียจริง
แต่วิธีนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อใช้กับผู้ที่คิดอยากได้ความรักความโปรดปรานจากเขาเท่านั้น
เขาไม่คิดที่จะโปรดปรานนาง เรื่องนี้ตรงกับความต้องการของนางพอดี
เฟิ่งจิ่วเหยียนผูกสายรัดเอวกลับอย่างรวดเร็ว แล้วคุกเข่านั่งลงบนเตียง
สองมือรวบไว้ด้านหน้าลำตัว ก้มคำนับด้วยลักษณะท่าทางเคารพนบนอบตามแบบแผนของพระราชวัง
“ฝ่าบาท หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะ”
“หม่อมฉันจะไม่วางแผนเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานจากฝ่าบาทอีกแล้วเพคะ”
“หวงกุ้ยเฟยคือคนในดวงใจของฝ่าบาท หม่อมฉันจะปฏิบัติต่อนางราวกับเป็นพี่น้องแท้ ๆ รักถนอมนางดังเช่นฝ่าบาทเพคะ”
เมื่อนางกล่าวจบ เขาก็ไม่ตั้งแง่กับนางต่อจริง ๆ
เขามองมาที่นางด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก “สกุลเฟิ่งช่างอบรมสั่งสอนฮองเฮามาดีเสียจริง”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบยากที่จะคาดเดาอารมณ์ จากนั้นเขาก็พลันลุกขึ้นเปิดม่านแล้วจากไป
หลังจากนั้นเหลียนซวงก็ถือโคมไฟวิ่งเข้ามาในตำหนักทันที
เมื่อมีแสงสว่างแล้ว สภาพภายในม่านก็กระจ่างชัดขึ้น
พระแท่นบรรทมยุ่งเหยิง เสื้อผ้าของฮองเฮาก็หลุดลุ่ยอยู่บ้าง บนพระศอยังมีรอยแดงจาง ๆ ......
นี่คือรูปการณ์หลังจากได้รับความโปรดปรานอย่างนั้นหรือ?
เหลียนซวงฉงนอยู่ในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะสงสัย เหตุใดฮ่องเต้ทรราชจึงเสร็จกิจเร็วเช่นนี้ ในหนังสือที่ฮูหยินให้นางดูก่อนที่จะเข้าวังมาไม่ได้เขียนเช่นนี้นี่
“ฮองเฮา ให้ข้าน้อยปรนนิบัติท่านชำระกาย...”
“ไม่จำเป็น ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา เท้าเปลือยเปล่าก้าวลงพื้น เก็บกริชบนพื้นเล่มนั้นขึ้นมา
เหลียนซวงตกตะลึง
ด้านหนึ่งตกตะลึงที่ฮ่องเต้และฮองเฮาไม่ได้เข้าหอร่วมกัน
อีกด้านหนึ่ง......
ฮองเฮาซ่อนกริชไว้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? เอาไว้ลอบสังหารหวงกุ้ยเฟยหรือ?
ณ ตำหนักฉือหนิง
เมื่อไทเฮาได้ยินเรื่องเมื่อคืนวาน ร่องรอยที่หางตาและคิ้วก็ปรากฎ
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้? ฝ่าบาทไปถึงที่แล้วฮองเฮากลับคว้าโอกาสไว้ไม่ได้?”
กุ้ยหมัวมัวทอดถอนใจ
“บางทีอาจจะเป็นที่เฟิ่งฮูหยินอบรมสอนสั่งมาไม่เพียงพอ ฮองเฮาไม่เข้าใจเรื่องราวในห้องหอไม่อาจรั้งฝ่าบาทเอาไว้ได้”
แววตาของไทเฮาหม่นลง
“เอาเถิด ไม่ต้องไปคิดแทนฝ่าบาท”
“เรื่องที่เขาเมินเฉยต่อสตรีอื่นในวังหลังเพื่อหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเสียหน่อย”
“เฟิ่งเวยเฉียงไม่มีสิ่งใดเหมือนหรงเฟยแม้แต่ครึ่งส่วน ย่อมไม่อยู่ในสายตาของเขา ข้าคาดเดาได้แต่แรกแล้ว”
ในวันที่สองของพิธีอภิเษกสมรส ฮ่องเต้และฮองเฮาจะต้องมาคารวะไทเฮา
แต่กลับมีเพียงฮองเฮาเท่านั้นที่มาถึงก่อน
ทุกคนในตำหนักฉือหนิงล้วนกระจ่างแจ้งอยู่ในใจ
หลายปีมานี้คนที่สามารถเชิญให้ฝ่าบาทเสด็จมาเป็นเพื่อนได้ ก็มีเพียงหวงกุ้ยเฟยแล้ว
เมื่อยามนั้นหลังจากที่หวงกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานครั้งแรก ฝ่าบาทก็เป็นฝ่ายพานางมาคารวะไทเฮาเอง ความรักความโปรดปราน การสนับสนุนเชิดชูนี้ สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
ในความคิดของพวกเขา วันนี้ฮองเฮาจะต้องพ่ายแพ้สิ้นหวัง หมดสิ้นเกียรติยศเป็นแน่
แต่ทว่าหลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนมา ผู้คนในวังก็ล้วนตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง......
----------------------------------------------
[1] ผ้าที่ใช้รองเลือดในคืนแรกของหญิงพรหมจรรย์ เนื่องจากชาวจีนโบราณมีความเชื่อว่าคืนแรกของหญิงพรหมจรรย์จะมีเลือดไหลออกมา
[2] ห้องเครื่องในที่นี้ดูแลทั้งเรื่องอาหารและน้ำอาบ
[3] คำที่ใช้เรียกนางกำนัลอาวุโส มักเป็นผู้ดูแลหรือแม่นม
[4] สรรพนามแทนตนเองของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่มีตำหนักหรือที่พำนักเป็นของตนเอง เช่น ฮองเฮา หวงกุ้ยเฟย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...