เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 606

เฉินจี๋บังคับรถม้าไปได้ไม่ไกลนัก พลันมีการเคลื่อนไหวขึ้นในรถม้าแล้ว

เขายังไม่ทันหยุดรถม้าเพื่อจะตรวจสอบ ก็ได้ยินเสียงคำรามดุจสายฟ้าฟาด

“หยุดรถ!”

เฉินจี๋ร่างกายแข็งทื่อโดยอัตโนมัติ

ซูฮ่วนใช้เข็มเงินอาบยามอมเมามิใช่หรือ? เหตุใดฝ่าบาททรงฟื้นขึ้นมาเร็วเช่นนี้!

ฟึบ——

เซียวอวี้เปิดม่านรถม้า นัยน์ตาสีรัตติกาลเปล่งประกายด้วยกลิ่นอายสังหาร ด้วยว่าฤทธิ์ยามอมเมายังไม่หมดสิ้นไปเสียทีเดียว ใบหน้าของเขายังดูอ่อนแรงเล็กน้อย

ทันใดนั้น เขาก็ยกเท้าเตะเฉินจี๋ตกลงไป!

อาการบาดเจ็บของเฉินจี๋ยังไม่หายดี การเตะครั้งนี้จึงสร้างความเจ็บปวดสุดแสนให้เขา

ทว่าเขาผุดลุกขึ้นมาทันที และคุกเข่าลง

“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมิอาจทนเห็นพระองค์เสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎต่อต้านผู้คน! หากโลหิตหงส์ถูกทำลาย...”

“หุบปากซะ!” ดวงตาของเซียวอวี้เต็มไปด้วยความเย็นชาสุดพรรณนา

“หากซูฮ่วนเป็นอันใดไป เจ้าก็อย่าหวังจะได้มีชีวิตอยู่!”

ทุกคนก็อย่ามีชีวิตอยู่อีก!

หัวใจของเฉินจี๋พลันบีบรัดแน่น

ฝ่าบาทจะให้ความสำคัญต่อซูฮ่วนขนาดนี้ได้อย่างไร!

เฉินจี๋เอ่ยทัดทาน

“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ! นั่นคือโลหิตหงส์ เป็นชะตาแว่นแคว้น และเกี่ยวพันกับบัลลังก์ของท่าน!! จักเอาไปเปรียบเทียบกับซูฮ่วนได้อย่างไร! กระหม่อมตายก็ไม่เสียดาย แต่จะไม่ยอมให้ท่านกลับไปพ่ะย่ะค่ะ!”

กระนั้น ฝ่าบาทประสงค์สิ่งใด เฉินจี๋จักขัดขวางได้อย่างไร

เวลาสามถ้วยชาให้หลัง เซียวอวี้ก็กลับไปถึงภูเขาอวี้หลิง

ครั้นหนานซานอ๋องเห็นเขากลับมา ก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที

ฮ่องเต้ทรราชองค์นี้ จักมาทำลายเจดีย์อีกแล้ว! ไฉนไม่ป้อนยามอมเมาให้เขามากกว่านี้เล่า!

เซียวอวี้ไม่ได้เหลือบมองหนานซานอ๋องด้วยซ้ำ เพียงทอดสายตามองในระยะไกล——เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังต่อสู้กับผู้หญิงทั้งสิบสองคนอย่างสูสีกัน

ร่างของพวกนางเคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางแมกไม้ บางครั้งก็เหินไปบนยอดไม้ บ้างก็พลัดตกลงมา บ้างก็กระโดดขึ้นไป...

เซียวอวี้รู้ดี สตรีทั้งสิบสองคนนั้น เป็นสิบสองเทพชะตาผู้เฝ้าพิทักษ์ภูเขาอวี้หลิง

วิทยายุทธของพวกนางมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งหมดล้วนเป็นปรมาจารย์ชั้นยอด

ทันใดนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนหลบการโจมตีด้วยดาบคมกริบของคนทั้งห้าพร้อมกัน กลับถูกรบกวนด้วยภาพซ้อนตรงหน้าอีกครั้ง สูญเสียการควบคุมใต้ฝ่าเท้า และพลัดตกจากที่สูง…

เซียวอวี้คิดจะไปช่วยเหลือนางโดยสัญชาตญาณ

ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงกายใช้เท้ายันกับลำต้นของต้นไม้ และลงเหยียบพื้นอย่างมั่นคง

เมื่อเขาเห็นเช่นนี้ ก็โล่งใจได้ชั่วครู่ ก่อนจะเร่งฝีเท้าก้าวไปข้างหน้า อย่างรวดเร็ว

สิบสองเทพชะตาหยุดกระบวนท่า กลับมารวมตัวเป็นคนเดียวกันอีกครั้ง

เฟิ่งจิ่วเหยียนยกมือคารวะไปทางหนานซานอ๋อง “ผู้น้อยแพ้แล้ว”

ดวงตาของต้วนเจิ้งแดงก่ำ

นี่คือการพ่ายแพ้หรือ?

นางมีวิทยายุทธล้ำเลิศมิใช่หรือ! หนึ่งต่อร้อยไม่เคยแพ้อย่างไรเล่า!

นั่นก็แค่สิบสองคนเท่านั้น!

หนานซานอ๋องมีสีหน้าเคร่งขรึม

“แพ้ชนะเป็นเรื่องปกติของการทหาร”

“บาดเจ็บหรือไม่?” เซียวอวี้เร่งรีบเข้ามาหา และยื่นมือหมายจะจับแขนของนางไว้

เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบเบี่ยงหลบมือของเขา ขณะเดียวกันก็เงยหน้าขึ้น ด้วยสีหน้าประหลาดใจ

เหตุใดเขาถึงกลับมาได้?

จากนั้นก็มองเลยไปที่เฉินจี๋ท่ามกลางฝูงชน

เฉินจี๋ละอายใจยิ่งนัก

ทว่าเขาก็ไม่รู้จริง ๆ ฝ่าบาทต้านทานฤทธิ์ของยามอมเมาได้อย่างไร

ธุระย่อมสำคัญกว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยถามหนานซานอ๋องอีกครั้ง

“ท่านอ๋อง เมื่อประมาณสี่เดือนก่อน มีผู้มาที่นี่บ้างหรือไม่?”

หนานซานอ๋องเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขาม

“กฎของภูเขาอวี้หลิง ห้ามเปิดเผยกับคนนอก

“คุณชายซู ในเมื่อแพ้แล้ว ก็เชิญกลับไป!”

สีหน้าของเซียวอวี้ทั้งเย็นชาและทรงอำนาจ

“หนานซานอ๋อง เราให้เวลาท่านแค่วันเดียว หากพรุ่งนี้ยังไม่เปิดเจดีย์เก้าชั้นอีก เราจะทำลายภูเขาอวี้หลิงของท่านให้ราบเป็นหน้ากลอง!”

หนานซานอ๋องหัวเราะอย่างโกรธเคือง

“ฝ่าบาท ภูเขาอวี้หลิงแห่งนี้ เป็นดินแดนของสกุลเซียวของพวกท่านพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ทรราช ทำเช่นนี้จะแตกต่างกับการขุดหลุมศพบรรพชนของพระองค์เองอย่างไร!

เซียวอวี้เอ่ยอย่างเย็นชา

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย