เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันมองไปยังฮูหยินผู้สูงศักดิ์นางหนึ่งที่กำลังเดินลงบันไดมา
ใบหน้าของฮูหยินนั้นดูซีดเซียวเล็กน้อย คงเป็นเพราะว่าเร่งเดินทางมานานหลายวัน เมื่อเห็นมีคนยืนอยู่ด้านหน้าเซียวเหยาจวีนั้น นางจึงเหลือบตามองครู่หนึ่ง พลางเผยท่าทีผู้สูงศักดิ์ออกมา
“บุตรชายของข้า ซ่งหลีอยู่ที่ใด”
เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงรับรู้ได้ในทันทีว่า คนผู้นี้คือมารดาของซ่งหลีอย่างแน่นอน ใบหน้ามีความคล้ายคลึงเจือไปด้วยความฉลาดเฉลียว ใบหน้าเรียวเล็ก ดูผอมบาง หากแต่ดวงตาทั้งสองข้างนั้นกลับเจือไปด้วยความดุดันเข้มงวด ราวกับอาจารย์ที่ใบหน้ามิค่อยยิ้มแย้ม ในมือพลันถือไม้เรียวเอาไว้
ภายในเซียวเหยาจวีนั้น
ด้านหน้าห้องโถง
ถึงแม้ว่าแม่ซ่งจักเป็นแขก ทว่า เนื่องด้วยนางมีสถานะเป็นผู้อาวุโสจึงได้รับเกียรติให้นั่งหัวโต๊ะในทันที
ซ่งหลีจับมือเฟิ่งเวยเฉียงเอาไว้ พลางแสดงความเคารพต่อแม่ซ่งพร้อมกัน
ฮูหยินซ่งมิได้เหลือบตามองดูพวกเขาแม้แต่น้อย นางพลันหลุบสายตาลงเพื่อก้มหน้าดื่มชาด้วยท่าทีสำรวม
บรรยากาศภายในห้องพลันตกสู่ความเงียบงันไปในทันที
เฟิ่งจิ่วเหยียนที่นั่งอยู่ด้วยนั้น ดวงตาของนางพลางทอประกายความเย็นชาออกมา
แม่ซ่งผู้นี้ เกรงว่าจะมาร้ายอย่างแน่นอน
ซ่งหลีเองก็รับรู้ได้ในทันทีว่ามารดาของตนนั้น มีจุดประสงค์ร้ายอย่างแน่นอน เขาจึงจับมือเฟิ่งเวยเฉียงให้แน่นยิ่งขึ้น พลางหันไปส่งสายตาให้กับนางด้วยแววตาที่อ่อนโยน ราวกับจะบอกว่า “ข้าจะจัดการเอง”
เฟิ่งเวยเฉียงพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย สายตาของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความเชื่อใจ
ซ่งหลีที่รวบรวมสติอารมณ์ได้แล้วนั้น หลังจากที่ปรับสีหน้าของตนเองเรียร้อยแล้ว จึงเอ่ยทักทายแม่ซ่งของตน
“ท่านแม่รีบเร่งเดินทางมาเช่นนี้ ท่านอยากจะไปพักผ่อนที่ห้องรับรองก่อนหรือไม่?”
ฮูหยินซ่งวางถ้วยชาในมือลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบุตรชายของตนเอง
สายตาเลื่อนลงมามองสองมือที่ซ่งหลีและเฟิ่งเวยเฉียงยังจับกันเอาไว้แน่น
“ยังมิทันได้ตบแต่งแต่มายื้อยื้อฉุดฉุดกันเช่นนี้ เหมาะสมที่ใดกัน!”
เฟิ่งเวยเฉียงที่มีนิสัยขี้กลัวนั้น จึงรีบร้อนชักมือกลับในทันที
ทว่า ซ่งหลีกลับมีท่าทีเด็ดเดี่ยว
เขาพลางเอ่ยอธิบายให้แม่ซ่งฟังด้วยท่าทีจริงจังว่า “เวยเฉียงกับลูกต่างก็มีใจพร้อมต้องกัน ในใจของลูกนั้น เวยเฉียงถือว่าเป็นภรรยาที่ลูกยังมิได้รับนางตบแต่งเข้ามา”
ขอบตาของเฟิ่งเวยเฉียงพลันร้อนผาวขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองดูซ่งหลีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระยิบระยับ
มุมปากของฮูหยินซ่งยกขึ้นมาด้วยการเยาะเย้ยประชด
“ภรรยา?
“ซ่งหลี หลักคำสอนมารยาทและคุณธรรมที่เจ้าได้ร่ำเรียนมานั้น เจ้าเอาไปไว้ที่ใดแล้ว?
“ไร้แม่สื่อไร้เทียบเชิญเช่นนี้ เจ้าแต่งภรรยาอะไรกัน?”
“ท่านแม่ ข้า...”
“เป็นดั่งที่ฮูหยินว่าไว้ไม่ผิด ท่านสมควรที่จะต้องอบรมสั่งสอนบุตรของตนเองให้มากกว่านี้” เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันลุกขึ้นยืน พร้อมด้วยนัยน์ตาเฉียบคม ทั้งยังมิมีท่าทีว่าจะถอยให้อีกด้วย
ฮูหยินซ่งเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้าเป็นใครอีก?”
“ข้าเป็นพี่ชายของเวยเฉียง”
ใบหน้าของฮูหยินซ่งพลันเปลี่ยนมามีท่าทีเคร่งขรึมในทันที “ในฐานะพี่ชาย เหตุใดถึงยินยอมให้น้องสาวของตนเองที่ยังมิตบแต่งเข้ามาพัวพันกับบุรุษเช่นนี้”
เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางโค้งกายคำนับ พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะสำรวมท่าทีเคารพผู้หลักผู้ใหญ่เอาไว้ “มิเหมาะสมดั่งที่ฮูหยินว่าจริง ๆ ฉะนั้นแล้ว ทั้งข้าและฮูหยินต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ต้องการมาหยุดเรื่องนี้”
พูดจบ นางหันไปกล่าวกับเวยเฉียงว่า “น้องสาว เจ้าออกมากับข้าก่อนเถอะ”
เฟิ่งเวยเฉียงมีท่าทีลังเลใจไปเล็กน้อย นางมิอยากทิ้งซ่งหลีไป
ซ่งหลีที่รู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังคิดอะไรอยู่นั้น - มารดาของเขามาด้วยท่าทีเลือดลมร้อนรุ่มเช่นนี้ มิสมควรให้เวยเฉียงถูกลากเข้ามาพัวพันด้วย
ซ่งหลีจึงหันไปเอ่ยกับนางด้วยท่าทีอ่อนโยน: “ข้ามิเป็นอันใด เจ้ากับ...พี่ชายออกไปก่อนเถอะ”
เฟิ่งเวยเฉียงจึงพยักหน้าลงเล็กน้อย
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...