ต้วนเจิ้งถูกพาไปยังกระโจมที่พัก และที่นั่นมีเพียงฮ่องเต้พระองค์เดียวเท่านั้น
เขาถามอย่างโกรธเคืองโดยไร้ซึ่งความเกรงกลัว
“จักต้องทำอย่างไร...ท่านถึงจะยอมปล่อยนางไป!”
คิ้วกระบี่ของเซียวอวี้ขมวดแน่น ในยามที่อยู่ต่อหน้าผู้อื่น เขามิได้อัธยาศัยดีเหมือนอยู่ต่อหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียน ร่างกายแผ่รัศมีความเป็นศัตรู ประสงค์จะฆ่าคนสารเลวที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำได้ทุกเวลา
เซียวอวี้เผชิญหน้ากับต้วนเจิ้งผู้เกรี้ยวกราด ด้วยการเอ่ยเหน็บแนม
“พวกเจ้าสองคนพี่น้อง นิสัยช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว”
คนหนึ่งอ่อนโยนใจดี อีกคนหนึ่งเห็นแก่ตัวและเลวทราม
ต้วนเจิ้งหรี่ตาลง “ตอบข้ามาสิ! ท่านจะปล่อยนาง และกลับไปที่วังหลวงของท่านได้หรือไม่!”
เซียวอวี้ได้ฟังเช่นนี้ แค่รู้สึกว่ามันน่าตลกสิ้นดี
สีหน้าแววตาของเขาทั้งน่าเกรงขามและเย็นชา
“เจ้าควรจะนึกโชคดี ที่เจ้ามีพี่ชายที่ดี”
ต้วนเจิ้งเอ่ยจี้ใจดำเขาในคำเดียว “ท่านกล้าทำร้ายข้ารึ? เชื่อหรือไม่ว่า หากท่านกล้าทำร้ายข้า นางก็จะทิ้งท่านไปทันที!”
เซียวอวี้กำหมัดที่อยู่ใต้แขนเสื้อกว้างจนแน่น
ไอ้เด็กนี่...
ต้วนเจิ้งก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว เบ้าตาแดงระเรื่อ เอ่ยวาจายั่วยุถากถาง
“ท่านเองก็รู้อยู่เต็มอก คนที่นางรักมากที่สุดคือพี่ชายของข้า
“หากมิใช่เพราะพี่ชายของข้าด่วนจากไปก่อน ท่านก็ไม่มีวันได้เห็นแม้แต่เงาของนางด้วยซ้ำ!
“ท่านเคยได้ยินชื่อเซียวเหยาจวีหรือไม่ นั่นเป็นบ้านที่นางซื้อให้พี่ชายของข้า นางกล่าวว่า ในอนาคตพวกเขาสามีภรรยา รวมทั้งข้า พวกเราทั้งสามคนจักอาศัยอยู่ที่นั่นเป็นครอบครัวเดียวกัน
“นางทำเพื่อพี่ชายของข้ามากมายนัก แล้วนางได้ทำสิ่งใดเพื่อท่านบ้าง?
“ท่านก็เพียงเป็นผู้ปรากฏตัวเข้ามาพอดี และบังเอิญได้เติมเต็มความว่างเปล่าของนาง!
“ท่านก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆ ! ที่จะถูกนางทิ้งขว้าง มีเพียงข้า มีแค่ข้าเท่านั้นที่จะอยู่กับนางตลอดไป!”
เปลือกตาของเซียวอวี้พลันกระตุกอย่างแรง
อยากฆ่าคนนัก...
โชคดีที่ เหตุผลได้ฉุดรั้งเขาไว้
เขาใช้วาจาโต้กลับ
“เจ้าอยากยั่วยุให้เราลงมือกับเจ้ารึ? นี่เป็นวิธีเดียวที่เจ้าจะได้รับความเป็นห่วงจากนางกระมัง”
ดวงตาของต้วนเจิ้งแดงก่ำโดยสิ้นเชิง
เขาชักดาบสั้นออกมา และโจมตีเซียวอวี้ทันที
เซียวอวี้เห็นดาบสั้นพุ่งเข้ามา ทำเพียงก้าวถอยหลังก้าวเดียว คมมีดจึงบาดโดนที่แขน
ทว่าเขาไม่โกรธเลย กลับเอ่ยเย้ยหยันอย่างเย็นชา “โง่เขลา”
……
หนึ่งชั่วยามให้หลัง
ณ จวนแม่ทัพ
ต้วนเจิ้งนั่งคุกเข่าอยู่ในลานกว้าง
ในห้อง เซียวอวี้นั่งอยู่ข้างโต๊ะ โดยมีหมอกำลังพันแผลให้เขาอยู่
และมืออีกข้างหนึ่งกำลังจับมือของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้แน่น
“จู่ ๆ เขาก็วิ่งไปที่ค่ายทหาร ยังมิทันได้เอ่ยอันใดก็หยิบดาบสั้นออกมาแทงคนแล้ว”
เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นบาดแผลที่แขนของเขา ไม่ลึก แต่ก็ไม่ตื้น ทว่ามองแล้วก็น่าตื่นตระหนกตกใจ
“เป็นหม่อมฉันที่มิได้ควบคุมต้วนเจิ้งให้ดีเอง”
หลังจากที่หมอออกไปแล้ว เซียวอวี้ก็ใช้ปลายนิ้วเขี่ยฝ่ามือของนางเบา ๆ นัยน์ตาอ่อนโยนขึ้นอีก
“เจ้าอย่าได้คิดมาก เราไม่ถือสาเขาหรอก
“ไปบอกให้เขาลุกขึ้นเถิด ไม่มีใครสั่งให้เขาคุกเข่าทั้งนั้น”
เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายศีรษะ
“ไม่ได้เพคะ เขาสมควรคุกเข่าแล้ว”
การทำร้ายพระวรกายมังกร กล่าวอีกนัยคือ เป็นการลอบปลงพระชนม์และก่อกบฏ
การกระทำของต้วนเจิ้งนั้นเหลวไหลสิ้นดี!
มุมปากของเซียวอวี้ยกโค้งขึ้นอย่างจับสังเกตไม่ได้
ครึ่งชั่วยามต่อมา

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...