เซียวอวี้โอบกอดคนที่อยู่ในอ้อมแขนไว้ ไม่อยากให้นางเห็นน้ำตาที่ควบคุมไม่ได้นั้น
โธ่เอ๊ย!
บุรุษไม่ควรหลั่งน้ำตาง่าย ๆ แล้วเขาร่ำไห้ได้อย่างไร!
ช่างอับอายขายหน้าจริง ๆ !
ทว่า...รู้สึกอิ่มเอมใจ
ในที่สุดจิ่วเหยียนก็บอกว่ารักเขา
ความรู้สึกของเซียวอวี้ผสมปนเปกัน เขาหอมที่แก้มนาง
“เจ้าพูดอะไร? เมื่อครู่เราไม่ได้ยิน”
เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่างจริงจัง
“ไม่ได้ยินหรือ ถ้าเช่นนั้นก็แล้วไปเถิด”
มือสองข้างของเซียวอวี้ประคองใบหน้านางขึ้นมาทันที “ใจร้ายนัก เจ้าตั้งใจ เราก็แค่อยากได้ยินเจ้าพูดอีกครั้ง มิได้หรือ?”
เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงมือของเขาออก จากนั้น เงยคางขึ้น แตะลงไปที่ข้างริมฝีปากเขาเบา ๆ
“เพคะ หม่อมฉันรักท่าน…”
ในสมองของเซียวอวี้ราวกับพลุดอกไม้ไฟระเบิดขึ้น โชติช่วง สุกสกาว ไม่มีวันร่วงโรย
แขนสองข้างของเขาโอบตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ ราวกับได้กินน้ำผึ้งมิปาน รู้สึกมีความสุข
“จิ่วเหยียน เราดีใจจริง ๆ ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ ตายก็ไม่เสียใจจริง ๆ!”
ต่อมาฟังนางเล่าเรื่องราว ถึงรู้ว่าสิ่งที่นางประสบพบเจอนั้นเสี่ยงอันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ขณะที่หิมะถล่มใกล้เข้ามา ตามสามัญสำนึก ควรจะวิ่งไปด้านข้าง ทว่าในตอนนั้นความเร็วของหิมะถล่มรวดเร็วมาก ทั้งนางก็ได้รับบาดเจ็บ จึงยากที่จะใช้วิชาตัวเบา วิ่งออกมาจากขอบเขตที่มีหิมะถล่มได้ แน่นอนว่าหนีไม่ทันแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีนักฆ่าเหล่านั้นอยู่ด้วย
ดังนั้นนางจึงแสร้งจงใจไม่วิ่งหนี ต่อสู้กับพวกเขาจนตาย ที่จริงได้เจอหินภูเขาลูกหนึ่ง ขณะที่หิมะถล่มใกล้จะมาถึงเท้า นางก็รีบถอยหนี และซ่อนตัวอยู่หลังหินภูเขา---ทางออกของหิมะถล่ม อาศัยหินภูเขาที่สูงราวสามฉื่อ และลึกลงไปในพื้น ใช้แส้ที่อยู่กับตัว ผูกตนเองไว้กับหิน
นี่เป็นวิธีเอาตัวรอดเพียงอย่างเดียวที่นางทำได้
หินภูเขาป้องกันการปะทะของหิมะถล่มแทนนาง ทำให้นางไม่ถูกหอบไป และถูกฝังลงไปลึก
รอจนถึงส่วนท้ายของหิมะถล่มมาถึง ความเร็วเริ่มลดลง นางพยายามทำท่าว่ายน้ำ ประคองให้ร่างกาย “ลอย” อยู่บนผิวหิมะ และยื่นศีรษะออกไปอย่างเต็มที่ เพื่อให้คนที่ช่วยเหลือพบตัวนาง
ทว่าภายใต้แรงปะทะ บวกกับพละกำลังที่หมด นางจึงหมดสติไป
เมื่อนางฟื้นขึ้นมา ถึงรู้ว่าได้รับการช่วยเหลือจากหมอเทวดาอาวุโสผู้หนึ่ง
คนที่ได้รับการช่วยเหลือพร้อมกับนาง ยังมีนักฆ่าดวงแข็งอีกไม่กี่คน
เซียวอวี้คิดจะตอบแทนหมอเทวดาผู้นั้นเป็นอย่างดี แต่เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยว่า: “หมอเทวดาไม่ชอบคนนอก อีกทั้งเขาเดินทางไปทั่วสารทิศ ไม่ได้อยู่ที่เดิมนานแล้ว”
“เขาช่วยชีวิตเจ้าไว้ เรื่องใหญ่เช่นนี้ เราจักต้องตอบแทนเขาอย่างดี รอขับไล่กองทัพเยี่ยน สังหารหยางเหลียนซั่ว และกลับวังหลวง เราจะสั่งให้คนไปติดประกาศตามหาเขา เพื่อให้รางวัลเขาอย่างงาม”
หมอเทวดาผู้นั้นไม่เพียงแต่ช่วยจิ่วเหยียน แต่ยังช่วยเขาด้วย
บุญคุณยิ่งใหญ่เช่นนี้ จักต้องตอบแทน
เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้เล่าอย่างละเอียด
ที่จริงแล้ว ในบรรดาคนไม่กี่คนที่หมอเทวดาช่วยไว้ นางเป็นคนแรกที่ฟื้นขึ้นมา
หลังจากฟื้นขึ้นมา ทันทีที่เห็นนักฆ่าเหล่านั้น จึงสังหารพวกเขาทีละคน
ด้วยเหตุนี้หมอเทวดาจึงเกิดความเข้าใจผิดต่อนาง เข้าใจว่านางคือปีศาจคลั่งสังหาร ในคืนนั้นจึงหนีไปพร้อมกับเด็กส่งยา
นางก็คิดจะตามหาพวกเขา เพื่อขอบคุณพวกเขา และอธิบายให้ชัดเจน ทว่าก็หาไม่พบ แต่กลับพบอาจารย์หญิงกับอู๋ไป๋ที่ค้นหาอยู่ละแวกใกล้ ๆ
คิดดูแล้วหากมีวาสนาต่อกัน นางก็อาจจะได้พบกับหมอเทวดาอาวุโสผู้นั้น...
เฟิ่งจิ่วเหยียนยกมือขึ้น และแตะเส้นผมสีเงินบนขมับของเซียวอวี้เบา ๆ
“ช่วงหลายวันมานี้ ท่านคงทุกข์ใจมากกระมัง”
เซียวอวี้จับข้อมือของนาง นัยน์ตาล้ำลึกยากจะหยั่งถึง
“เจ้ารังเกียจที่เราชราแล้ว หากไม่ต้องการเรา ก็สายเกินไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียน เจ้ารับปากแล้ว รอพวกเรากลับไป ก็จะแต่งงานกัน”
ในดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแฝงรอยยิ้มจาง ๆ
“อืม แต่งงานกัน”
หลังจากนางผ่านทุกข์ภัยครั้งนี้ ยิ่งเข้าใจลึกซึ้งว่า ควรทะนุถนอมคนที่อยู่ตรงหน้า
เซียวอวี้ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็ดึงศีรษะนางเข้ามาในอ้อมแขน และจุมพิตที่หน้าผากนาง
“หากเจ้าทนดูไม่ได้จริง ๆ หลังจากเรากลับไปจะใช้เหลียนจื๋อเฉ่าย้อมมันเป็นสีดำ หรือว่า จะดึงมันออกมาเลย ดีหรือไม่?”
ที่จริงเขาก็ไม่ชอบสภาพตนเองเช่นนี้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...