เมื่อได้รับรู้ว่าไม่สามารถใช้ยาระงับปวด ในใจกุ้ยเฟยพลิกผันไปด้วยความเกลียดชัง
เฟิ่งเวยเฉียงนังสารเลวคนนั้น! ตั้งใจเอายาระงับปวดหัวที่มีปัญหาให้กับนาง ทำให้นาง...
เดิมก็เจ็บปวดทรมานอยู่แล้ว บวกกับอารมณ์กระตุ้นที่รุนแรงนี้ ทำให้กุ้ยเฟยหน้ามืด หมดสติไปอีกครั้ง
“พระนาง!” ชุนเหอร้องเรียกขึ้นมาอย่างตกใจ
พวกหมอหลวงแต่ละคนล้วนตกอยู่ในอาการหวาดระแวง
ยาวิเศษรักษาอาการปวดหัวในตอนนั้น พวกเขาเคยตรวจสอบแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร จึงให้กุ้ยเฟยใช้
สุดท้ายจนถึงวันนี้กุ้ยเฟยได้รับบาดเจ็บ ยามที่ต้องการใช้ยาหมาฝู่ส่าน ทันใดนั้นกลับพบว่า เมื่อใช้ยาหมาฝู่ส่าน ชีพจรของกุ้ยเฟยมีอาการถูกพิษทันที
จากนั้นจึงได้สืบรู้ว่า ยาระงับปวดหัวที่กุ้ยเฟยทานปกตินั้นมีปัญหา
เมื่อจัดการบาดแผลให้กุ้ยเฟยแล้วเสร็จ พวกหมอหลวงจึงไปขอประทานโทษจากฝ่าบาทด้วยกัน
“ฝ่าบาท พวกกระหม่อมบกพร่องในการตรวจสอบ จึงละอายใจที่จะอยู่ในสำนักหมอหลวงต่อไป!”
สายตาเซียวอวี้เยือกเย็น
ไม่สามารถตรวจพบว่าในยาระงับปวดหัวนั้นมียาจู้หุนส่าน ถือเป็นความผิดของหมอหลวงพวกนี้จริง
นี่ยังเป็นเพียงยาจู้หุนส่าน หากเป็นยาพิษร้ายแรงถึงชีวิต จะยิ่งไม่สามารถรักษาไว้ได้!
รุ่ยอ๋องที่อยู่ด้านข้างพูดโน้มน้าวขึ้นมาว่า
“ฝ่าบาท กระหม่อมก็เคยได้ยินชื่อยาจู้หุนส่าน”
“ยาชนิดนี้เป็นยาล้ำค่าหายาก เดิมเป็นยาอายุวัฒนะ
“และพบเห็นได้ยากมาก รูปร่างคล้ายกับยากล่อมประสาททั่วไปอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นหมอเทวดาที่มีทักษะทางการแพทย์สูงส่ง ก็ยากที่จะสืบรู้
“ยาที่ฮองเฮาให้มา โดยพื้นฐานนั้นไม่มีปัญหา
“บางทีปัญหาอาจจะอยู่ที่ กุ้ยเฟยรับประทานยาบ่อยครั้งเกินไป จึงทำให้ยาจู้หุนส่านสะสมอยู่ในร่างกายจนขับออกไม่ได้”
รุ่ยอ๋องมีน้ำใจ ช่วยพูดแก้ต่างให้กับพวกหมอหลวง และก็ช่วยพูดให้กับฮองเฮาอีกด้วย
ดวงตาเซียวอวี้สีเข้มลึกล้ำ
เขาถามว่า
“ยานั้น ต่อไปกุ้ยเฟยใช้ไม่ได้แล้วหรือ”
พวกหมอหลวงพยักศีรษะ
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท! ตอนนี้ต้องค่อยๆ ขับยาจู้หุนส่านออกมา”
ยาวิเศษนั้น ใช่ว่าทุกคนจะสามารถล้วนรับได้หมด
เพราะไม่มีผู้ใดสามารถรับประกันได้ว่า ตนเองจะไม่ได้รับบาดเจ็บไปตลอดชีวิต ไม่จำเป็นต้องได้ใช้ยาจำพวกยาหมาฝู่ส่าน ยาระงับปวด
หมอหลวงเฒ่าคนหนึ่งพูดเสริมขึ้นมาว่า
“เพียงแต่ว่า เดิมทีกุ้ยเฟยก็ป่วยมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงแล้ว มีเพียงยาวิเศษนั่นที่สามารถช่วยบรรเทาได้ ช่วงที่ผ่านมานี้ ใช้จนเสพติด หากต่อไปใช้อีกไม่ได้ เกรงว่าทุกครั้งที่อาการปวดศีรษะกำเริบขึ้นมา จะเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าที่ผ่านมา...”
แววตาเซียวอวี้เยือกเย็น กวาดมองดูหมอหลวงเหล่านั้น
“ตัดเบี้ยเลี้ยงครึ่งปี โบยตีคนละสิบที! พร้อมคิดค้นยาระงับปวดหัว ทำคุณทดแทนความผิด!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ไว้ชีวิต!” พวกหมอหลวงสั่นเทาอยู่อย่างหวาดกลัว
สาวใช้แสดงสีหน้าเป็นกังวล
“พระนาง ทุกคนล้วนพูดกันว่า มีคนแอบวางแผน คิดอยากกำจัดท่านกับกุ้ยเฟย กระทั่งยังมีคนสงสัยฮองเฮา...”
“ฮองเฮา? ไม่ ไม่มีทางเป็นฮองเฮาเด็ดขาด!” นางสนมเจียมั่นใจ
หากฮองเฮาต้องการทำร้ายนาง ทำไมถึงยังจะช่วยชีวิตนางอย่างไม่คำนึงถึงอันตราย?
ยิ่งไปกว่านั้น ฮองเฮากับหรงเฟยไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ซึ่งก็คือ ต่อให้กำจัดนางกับกุ้ยเฟย ฮองเฮาก็ไม่ได้เป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาท
คนร้ายจะต้องคล้ายกับหรงเฟย มีโอกาสแย่งชิงความโปรดปรานได้ เป็นคนที่ริษยานางกับกุ้ยเฟย คิดว่าหากกำจัดสองคนที่เหมือนที่สุด ฝ่าบาทก็จะสามารถมองเห็นตนเอง...
“พระนาง บ่าวยังได้ยินมาว่า ฝ่าบาทให้เวลาฮองเฮาเพียงสิบวัน ให้นางหาตัวคนร้ายมาให้ได้”
นางสนมเจียค่อนข้างตกตะลึง
สิบวัน?
จะเพียงพอได้อย่างไร
นี่ฝ่าบาทตั้งใจสร้างความลำบากใจให้กับฮองเฮา!
ในขณะเดียวกัน เหลียนซวงก็กำลังพูดบ่นว่า
“พระนาง ฝ่าบาทให้เวลาท่านแค่สิบวัน กุ้ยเฟยทำอะไรรอบคอบ พวกเราจะสืบรู้ได้อย่างไรว่า ใครทำกลิ่นดอกฟรีเซียติดมา? แล้วใครเป็นคนนำหินกรวดพวกนั้นไปวาง?”
เฟิ่งจิ่วเหยียนสงบสุขุม เงยหน้าขึ้นมามองดูขอบฟ้าด้านนอก พร้อมพูดขึ้นมาว่า
“ฝ่าบาทจะสืบให้ถึงที่สุด กุ้ยเฟยร้อนใจยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก”
ไม่กี่วัน คนที่เป็นคนร้ายก็จะปรากฏขึ้นมา...

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...