คล้ายกับว่าหลังจากที่ได้กินหมูน้ำแดงกัน โลกก็สวยงามขึ้นมาทันตา กลิ่นหอมของอาหารได้พัดพาเอาเรื่องน่าปวดหัวไปด้วย
เรื่องแรกก็คือทางเสี่ยวซีส่งข่าวมาว่า เธอกับไห่เจาได้ข้อตกลงร่วมกันแล้ว พอเสี่ยวเชี่ยนรักษาเธอเสร็จก็จะคิดเรื่องคบกับไห่เจา
ต่อมาก็เรื่องคนร้ายที่ต้องรับผลกรรมที่ตัวเองก่อ พอตอนดึกไฟป่าก็คุมได้หมด เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่มีแต่เรื่องให้จดจำ และสุดท้ายก็คงเป็นการปิดท้ายด้วยการกินหมูน้ำแดงรสเลิศ
อวี๋หมิงหลางฉวยจังหวะที่ไม่มีใครเห็นแอบป้อนเธอ
มีทุกข์ร่วมต้าน หลังจากผ่านพ้นความลำบากความสุขก็เข้ามาแทนที่
วันต่อมาไฟป่าก็ดับสนิท กองกำลังเสริมต่างๆพากันเก็บของออกจากที่นั่น เหลือเพียงหน่วยพิทักษ์ป่าที่อยู่ตรวจตราพื้นที่ หลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนได้ผ่านเหตุการณ์นี้ก็ประทับใจพี่น้องทหารทุกคนมากกว่าเดิม
ตอนมาพวกเขาไม่พูดอะไรมาก มาถึงก็ทำงานกันอย่างรวดเร็ว ตอนกลับก็เช่นกัน ไม่มีการโห่ร้องยินดีกับความสำเร็จให้เอิกเกริก นี่ก็แค่เป็นภารกิจที่แสนจะธรรมดามากสำหรับพวกเขา ทหารทุกคนต่างเตรียมพร้อมตลอดเวลาอยู่แล้ว ภัยพิบัติไม่รู้ตั้งกี่ครั้งที่ถูกพวกเขาควบคุมไว้ได้ อย่าคิดว่าเวลาไร้สงครามทหารไม่ทำอะไร จริงๆแล้วพวกเขาเป็นผู้รักษาความสงบให้ประเทศอย่างเงียบๆ
ตอนมาเสี่ยวเชี่ยนนั่งเครื่องบินที่ขนอุปกรณ์ ตอนกลับเธอนั่งรถขนทหาร ขามารีบร้อน ขากลับไม่รีบไม่จำเป็นต้องนั่งเครื่องบิน รถขนทหารด้านหลังเป็นกระบะ เธอได้เห็นการออกมายืนส่งอย่างอบอุ่นของชาวบ้านระหว่างทาง
พวกชาวบ้านรู้ว่าทหารมาช่วยดับไฟจึงรวมตัวกันออกมาส่ง หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ใกล้จุดที่ไฟไหม้ที่สุด ถ้าควบคุมไฟป่าไม่ได้ บ้านเรือนเรือกสวนไร่นาของพวกเขาก็ต้องเสียหายไปด้วย เหล่าทหารช่วยพวกเขาไว้แต่กลับไม่รับสิ่งตอบแทน พวกเขาจึงได้แค่ยืนส่ง
สองข้างทางเต็มไปด้วยชาวบ้าน ตอนที่รถขับผ่านชาวบ้านก็พากันปรบมือ ระหว่างนั้นรถขนทหารก็ขับช้าๆ ใช้การบีบแตรเป็นสัญญาณขานรับ
มีกฎว่าพวกเขาห้ามลงจากรถ แต่เมื่อเจอการมาส่งอย่างอบอุ่นแบบนี้ พวกเขาก็ต้องยืนแล้วทำความเคารพแบบทหารเพื่อเป็นการลาชาวบ้าน ภาพแบบนี้เสี่ยวเชี่ยนไม่เคยเห็น เธอนั่งอยู่ตรงนั้นยังรู้สึกได้ถึงเกียรติอันน่าภาคภูมิใจ
อวี๋หมิงหลางยืนอยู่ข้างเธอในท่าเดียวกับทหารคนอื่นๆเพื่อบอกลาชาวบ้าน ท่าทางของเขาทำให้เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกภูมิใจ
มีเด็กน้อยที่ไร้เดียงสาบางคนพอเห็นรถทหารขับผ่านก็ยกมือทำท่าเลียนแบบทหาร พวกเขายังเล็กอาจทำท่าเลียนแบบโดยไม่คิดอะไร แต่แท้จริงแล้วมันอาจเป็นพลังบวกที่ทำให้เด็กเหล่านั้นอยากเอาเป็นแบบอย่างในอนาคต
ไม่เป็นทหารก็ไม่มีทางสัมผัสได้ถึงเกียรติที่มีเพียงแค่ทหารเท่านั้นที่จะได้รับแบบนี้ เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกได้ว่าถึงเหล่าทหารจะเหนื่อยล้า แต่พวกเขาดูภาคภูมิใจ เกียรติภูมิที่ได้รับจากการปกป้องประเทศเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน
รถขับไกลออกไปจนมองไม่เห็นชาวบ้านแล้ว ทุกคนถึงได้นั่งลง มีทหารคนหนึ่งพูดขึ้น
“ผมได้ยินเด็กคนหนึ่งพูดว่า โตไปอยากเป็นทหาร”
เสี่ยวเชี่ยนหัวเราะ อวี๋หมิงหลางมองเธอ เธอจึงกระซิบ “ฉันว่าอีกหน่อยถ้าพวกเรามีลูกชายเขาคงเหมือนนาย”
ยีนเป็นสิ่งสำคัญ แต่พลังของต้นแบบนั้นสำคัญกว่า
เสี่ยวเชี่ยนไม่คิดเลยว่า คำพูดที่เธอพูดลอยๆในเวลานี้ จะกลายเป็นปริศนาที่ยากจะหาคำตอบทำเธอกลุ้มมากในอีกหลายวันต่อมา
เรื่องดับไฟป่าได้ถูกสื่อหลายสำนักรายงานข่าวออกไปอย่างใหญ่โต รวมถึงเรื่องความกล้าหาญของนักร้องดัง ทหารหน่วยรบพิเศษช่วยจับคนร้าย ก็ถูกรายงานออกไปด้วย ช่วงหลายวันนี้มีแต่ข่าวพวกนี้ตามสื่อใหญ่ๆ
เรื่องภายนอกพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเสี่ยวเชี่ยนรวมถึงคนที่ไปช่วยดับไฟ พอจบงานทุกคนก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ใครต้องฝึกก็ไปฝึก ใครต้องวิจัยก็วิจัย ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป
ก่อนหน้านี้งานของพวกเสี่ยวเชี่ยนคือศึกษาพฤติกรรมคนร้ายที่สติปัญญาดีคนนั้น เดิมต้องไปประชุมกับนักวิชาการที่ศูนย์วิจัย แต่มีเรื่องไฟป่าเข้ามาทำให้ต้องเลื่อนออกไป ตอนนี้ดับไฟเสร็จแล้ว เช้าวันต่อมาพวกเธอจึงไปที่ศูนย์วิจัยเพื่อเตรียมประชุม
หลังจากผ่านเหตุการณ์ดับไฟป่า บรรยากาศภายในทีมจิตวิทยาก็ดูสนิทกันมากขึ้น เสี่ยวเชี่ยนได้แสดงความสามารถให้คนในทีมเห็นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนยังขุดประเด็นเรื่องเสี่ยวเชี่ยนผสมแป้งทำหมั่นโถวผิดมาล้อ เมื่อมีความลับร่วมกันแบบนี้ ก็ไม่เห็นใครขัดหูขัดตาอีก
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย