ศาสตราจารย์หลิวให้สมุดบันทึกของตัวเองกับเสี่ยวเชี่ยนเท่านั้น เสี่ยวเชี่ยนก็เอาสมุดบันทึกของตัวเองให้ต้าอีเท่านั้น แต่บุคคลลึกลับคนนี้กลับเอาของสำคัญแบบนี้ให้เสี่ยวเชี่ยน
เคสการรักษาต่างๆที่อยู่ในเอกสารเสี่ยวเชี่ยนอ่านแล้วก็รู้สึกทึ่ง เธอรู้สึกได้เลยว่าคนเขียนต้องเป็นคนที่ฝีมือไม่ธรรมดา หรืออาจจะเก่งกว่าศาสตราจารย์หลิวด้วยซ้ำ!
มีการวิเคราะห์เคสใหญ่ๆระดับโลก สามารถเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้วิจัยได้ก็แสดงว่าคนที่ส่งอีเมลฉบับนี้จะต้องมีสถานะที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แถมแหล่งข้อมูลของเขาก็ใช่ว่าศาสตราจารย์หลิวจะมาเทียบได้
ความกลุ้มใจของเสี่ยวเชี่ยนได้รับการเยียวยาไปเกินครึ่ง เธออ่านเอกสารเหล่านั้นซ้ำไปซ้ำมากว่าสิบรอบ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น
ความรู้ความสามารถของหมอจะพัฒนาขึ้นก็ด้วยการสั่งสมประสบการณ์การรักษา เพื่อหาแนวทางของตัวเอง
แต่หมอแต่ละคนโดยเฉพาะจิตแพทย์จะมีข้อจำกัดเรื่องเคสคนไข้ที่เจอ อาการหรือโรคบางอย่างไม่มีทางได้พบเลยก็มี ต่อให้เสี่ยวเชี่ยนจะเก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางแก้ปัญหาในเรื่องที่เธอยังไม่เคยเจอมาก่อนได้ ความรู้ของเธอมีจำกัด เคสรักษาที่มาถึงมือเธอก็มีขอบเขตที่จำกัดเช่นกัน
ถึงศาสตราจารย์หลิวจะค่อนข้างเก่งในเรื่องอาการจิตเวชที่พบบ่อยในสังคม แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องจิตวิทยาอาชญากรรมเธอก็ยังมีความรู้ไม่มากนัก แต่คนที่ส่งอีเมลให้เสี่ยวเชี่ยนคนนี้นั้นไม่เหมือนกัน เขาไม่เพียงแต่จะรอบรู้เรื่องอาการจิตเวชที่พบบ่อยในสังคม ยังเก่งเรื่องจิตวิทยาอาชญากรรมด้วย เคสรักษาที่เขาให้เสี่ยวเชี่ยนมาเป็นตัวอย่างที่ดีมาก
เมื่อภาวะบกพร่องด้านบุคลิกปรากฏในตัวคนทั่วไปจะส่งผลอย่างไร เมื่อภาวะบกพร่องด้านบุคลิกปรากฏในสภาพแวดล้อมหนึ่ง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผลที่ได้จากยี่สิบเคสนี้แตกต่างกัน อีกทั้งข้อมูลก็เป๊ะมาก ดูก็รู้ว่าเป็นประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่นั่งเทียนเขียน
คนที่เขียนได้ละเอียดขนาดนี้มีอยู่แค่ไม่กี่คนแทบจะนับนิ้วได้เลย
และในบรรดาคนไม่กี่คนนั้น คนที่เสี่ยวเชี่ยนนึกได้และมีความเกี่ยวข้องกับตัวเองคงหนีไม่พ้นชีอวี่เซวียน บวกกับก่อนหน้านี้ชีอวี่เซวียนยังได้ให้หนังสือฟาร์มเจ็ดหมู่กับเธอมาเพื่อสอนการสะกดจิตแบบแทรกซึมด้วย…
เสี่ยวเชี่ยนลังเลเล็กน้อย เธอเคยแสดงออกไปอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ขอข้องเกี่ยวด้วย ถ้าแน่จริงก็ต้องลบเอกสารพวกนี้ทิ้งและเลิกดู แต่ว่าเอกสารพวกนี้มันสำคัญกับเธอมากในตอนนี้
แต่มือที่วางอยู่บนเม้าส์กลับคลิกลงไปไม่ได้
คิดไปคิดมา เธอจึงตัดสินใจตอบอีเมลกลับ ซึ่งพิมพ์ลงไปแค่ว่า ขอบคุณ
ไม่ว่าอย่างไร ยามที่เธอสมองตันไปหมดก็ได้อีเมลฉบับนี้ของชีอวี๋เซวียนนี่แหละที่ไขข้อข้องใจให้กับเธอ
นี่เป็นการช่วยเหลือครั้งที่สองจากชีอวี่เซวียน น้ำใจนี้เสี่ยวเชี่ยนไม่รับไม่ได้
อีกฝ่ายแทบจะตอบกลับในทันที มีเพียงอีโมติคอนหน้ายิ้มอันเดียว
คนๆนี้ฉลาดจริงๆ รู้ว่าถ้าคุยต่อยืดยาวอีกฝ่ายจะรำคาญ ไม่ได้เรียกร้องขอคำชมแต่กลับทำให้เสี่ยวเชี่ยนประทับใจ
กว่าอวี๋หมิงหลางจะกลับมาก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว เขาเห็นเสี่ยวเชี่ยนยังใส่ชุดเดียวกับเมื่อตอนกลางวัน แม้แต่ชุดอยู่บ้านก็ไม่เปลี่ยนไปใส่ ถึงขนาดที่ว่าไม่เปิดไฟห้องรับแขกด้วย ภายในห้องที่มืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ส่องสว่าง
“ลูกเชี่ยน อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้กินข้าวเย็น?”
เห็นได้ชัดว่าใช่
“ฉันไม่มีเวลากิน…” เสี่ยวเชี่ยนเงยหน้าที่ซีดเซียว เธอกำลังอินกับเอกสารที่เหมือนมีมนต์สะกดพวกนี้
“มันคืออะไรเหรอ?” อวี๋หมิงหลางรู้ว่าเมียเขาไม่ใช่คนที่หมกมุ่นดูสิ่งที่ไม่ควรจนลืมกินข้าว สิ่งที่อยู่ในคอมพิวเตอร์จะต้องสำคัญมากแน่ๆ
“ถึงฉันจะไม่อยากยอมรับ แต่ปรมาจารย์ก็ยังเป็นปรมาจารย์อยู่วันยังค่ำ” เสี่ยวเชี่ยนปิดคอมพิวเตอร์
“ใคร?”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย