“ตอนนี้ถ้าคนสวยไม่ได้อยู่กับผมก็จะซึมเศร้า ผมจะทิ้งเพื่อนทหารของตัวเองก็ไม่ได้ แต่เรื่องที่รับปากเมียไว้ถ้าไม่ทำก็ไม่เหมาะ ผมกะว่าจะเลี้ยงคนสวยไปก่อนรอให้สภาพจิตใจมันดีกว่านี้แล้วดูว่าจะพากลับไปอยู่ที่หน่วยได้ไหมหรือไม่ก็ให้เพื่อนทหารคนอื่นเอาไปเลี้ยง”
จริงๆแล้วเขาอยากเลี้ยงคนสวยมาก แต่เขารู้ว่าจะขังสุนัขทหารไว้ที่หนึ่งนานๆไม่ได้ มันจะส่งผลต่อสภาพจิตใจของคนสวย
แล้วต้องทำยังไงถึงจะโอเคทั้งเมียเขาและคนสวย?
“พูดจบแล้ว?” เสี่ยวเชี่ยนกอดอก มองอวี๋เสี่ยวเฉียงด้วยสายตาเย็นชา “นายเห็นฉันเป็นคนที่เผด็จการไม่เป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนนายทำเรื่องนี้เคยถามความเห็นฉันไหม?”
“งั้นผมขอถามคุณตอนนี้คุณยอมให้ผมเลี้ยงไหม?” เขามองเสี่ยวเชี่ยนอย่างมีความหวัง
แน่นอนว่าไม่! เสี่ยวเชี่ยนแกล้งไอ “ฉันยังไม่ขอออกความเห็น มาพูดเรื่องพฤติกรรมของนายที่แอบทำเรื่องนี้ลับหลังฉันก่อน แบบนี้มันไม่ดีต่อความมั่นคงและความปรองดองในครอบครัว เป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบเอามากๆ”
อวี๋หมิงหลางเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลม ใช้หัวเข่าคิดก็รู้ว่าเธอไม่เห็นด้วย
คนสวยที่กินอิ่มดื่มจนหนำใจเดินโต๋เต๋เข้ามานัวเนียที่ขาอวี๋หมิงหลางคล้ายกับให้กำลังใจ อวี๋หมิงหลางนวดหัวให้มัน
“คนสวยเคยทำผลงานมากมาย ถึงแม้บางครั้งเบื้องบนจะไม่ได้ให้รางวัลมัน แต่มันเป็นสุนัขที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ผมทนเห็นสุนัขที่เคยทำความดีให้ประเทศชาติมากมายต้องมาตายไปเสียดื้อๆหลังปลดประจำการไม่ได้หรอก”
เสี่ยวเชี่ยนแอบไม่พอใจเล็กๆ นี่เขาคิดจะบังคับให้เธอยอมรับมันเหรอ?
“ถ้าคุณไม่ชอบมันจริงๆผมก็จะไม่พากลับบ้าน แต่ให้มันอยู่ที่นี่ได้ไหม?”
ยิ่งเขาขอร้องแบบนี้เสี่ยวเชี่ยนยิ่งโกรธ
“ได้! นายรักพวกพ้องมาก ลืมเพื่อนทหารของนายไม่ได้! ฉันมันก็แค่คนใจร้าย คนที่เอาแต่ใจ!”
อวี๋หมิงหลางไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงโกรธมากกว่าเดิม เขายอมอ้อนวอนสุดๆแล้วก็ยังไม่ได้อีกเหรอ?
“ตกลงคุณจะเอายังไง ทำยังไงคุณถึงไม่โกรธ พูดมาตรงๆได้ไหม?”
เธอเดาความคิดของเสี่ยวเชี่ยนไม่ออกจริงๆ เขาไม่อยากให้เธอโกรธ แต่ดูเหมือนยิ่งระวังเธอยิ่งโกรธ?
คำพูดจนปัญญาแบบนี้แต่เสี่ยวเชี่ยนฟังแล้วเหมือนหมดความอดทน คล้ายกับกำลังประกาศสงคราม
เดิมทียังไม่ได้โมโหมาก แต่พอได้ฟังน้ำเสียงที่เหมือน ‘หมดความอดทน’ของเขา ไฟโกรธก็โชติช่วงขึ้นมาทันที
กระบวนการคิดที่แตกต่างระหว่างชายหญิงสร้างความขัดแย้งได้ง่ายๆ จุดประสงค์ของเขาคือต้องการให้เธอหายโกรธ แต่กลับไม่รู้ว่าคำพูดของตัวเองเป็นตัวกระตุ้นให้เธอยิ่งโกรธ
ขณะที่สงครามระหว่างทั้งสองคนกำลังจะปะทุขึ้นโทรศัพท์ของอวี๋หมิงหลางก็ดังพอดี
“เข้าใจแล้ว ผมจะรีบกลับไป”
มีภารกิจพิเศษอะไรอีก? เสี่ยวเชี่ยนทำท่าควงหมัดอยู่ด้านหลังเขา
อยากชกโว้ย!
“ลูกเชี่ยน ผมคงยุ่งไปอีกหลายวัน” พอวางสายเขาก็ทำหน้าเครียด
“รู้แล้วไปเถอะ” ไม่ว่าจะทะเลาะอะไรกันในบ้านก็ต้องพักเอาไว้ก่อนเมื่อมีเรื่องงานของเขาเข้ามา มันคือเรื่องใหญ่
ถึงเสี่ยวเชี่ยนจะหงุดหงิดอยู่บ้างก็ไม่มีทางทำให้เขาไม่สบายใจก่อนไปทำภารกิจ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตได้
“ช่วงนี้คุณพยายามอย่าออกนอกบ้าน ถ้าจะไปมหาลัยเดี๋ยวผมสั่งคนมารับส่ง คุณอย่าขับรถ ให้รีบกลับบ้านก่อนฟ้ามืด”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” ฟังจากน้ำเสียงของเขาเหมือนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
“คนๆนั้นแหกคุก นักโทษที่มีบุคลิกต่อต้านสังคมที่คุณเคยไปวิจัยน่ะ”
“ว่าไงนะ?!” เสี่ยวเชี่ยนตกใจมาก
“ทหารเฝ้าอย่างแน่นหนาแบบนั้นยังหนีได้ พวกนายหละหลวมขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“หนีได้ยังไงผมไม่รู้ แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ในความดูแลของพวกผม คงเป็นหน่วยอื่นที่ประมาท เอาเป็นว่าถ้าฟ้ามืดแล้วคุณห้ามออกจากบ้าน คนแบบนี้รู้ว่าตัวเองยังไงก็ตายแน่หนีไปได้ไม่ไกล ไม่แน่เขาอาจมาแก้แค้นสังคม ตอนนั้นคุณเคยไปเจอเขาในฐานะคนของทีมวิจัย ไม่แน่เขาอาจจำคุณได้”
ถึงแม้โอกาสที่จะเจอกันในเมืองนี้จะมีไม่มาก แต่อวี๋หมิงหลางก็กำชับเสี่ยวเชี่ยนอยู่หลายที
หลังจากวันนี้คงต้องทำงานล่วงเวลาไปอีกหลายวัน จะได้กลับไปนอนบ้านหรือเปล่ายังไม่รู้ เวลาที่เกิดเรื่องแบบนี้พวกอวี๋หมิงหลางต้องทำงานกันอย่างต่อเนื่อง
เวลาที่เกิดเรื่องที่เป็นภัยต่อสังคมส่วนใหญ่จะเป็นคนที่น่ารักเหล่านี้แหละที่คอยรักษาความสงบและปกป้องทุกคนอย่างเงียบๆ
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย