พี่หลางเกรี้ยวกราด
“เอาล่ะ พวกเรามากลับเข้าประเด็น คุณช่วยเล่าเหตุการณ์ตอนที่รู้ตัวว่ามีอาการผิดปกติเป็นครั้งแรกให้ฟังหน่อยค่ะ ยิ่งละเอียดยิ่งดี พอเล่าเสร็จฉันจะลองสะกดจิตคุณดูว่าต้นตอของปัญหาอยู่ที่ไหน…”
ขณะที่เสี่ยวเชี่ยนกำลังรักษาคนไข้อยู่นั้น อวี๋หมิงหลางหลังจากตรวจสนามทดสอบเสร็จก็นั่งพักที่ศูนย์บัญชาการชั่วคราว ทำงานยุ่งตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจนถึงตอนนี้
“One รายชื่อคนที่เข้าร่วมการคัดเลือกอยู่นี่นะ นายลองดู…นายอารมณ์ไม่ดีเหรอ?” เฉียวเจิ้นยื่นเอกสารให้พลางถาม
สีหน้าของหัวหน้าเขาดูอึมครึมมาก
อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน ฝึกด้วยกัน คนอื่นอาจมองไม่ออก แต่เฉียวเจิ้นเห็นปุ๊บก็รู้ได้ทันทีว่าเวลานี้อวี๋หมิงหลางอารมณ์ไม่ดี
ปกติถ้ามีการคัดเลือกคนใหม่ อวี๋หมิงหลางจะดูตื่นเต้นมาก เขาจะศึกษาผู้เข้าร่วมทุกคนเป็นอย่างดี แต่วันนี้หลังจากทำสนามทดสอบเสร็จ เขากลับมานั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงนี้
“ตาเหยี่ยว นายอารมณ์ดีเหรอ?” อวี๋หมิงหลางถามเฉียวเจิ้นกลับ เฉียวเจิ้นดูออกว่าเขาไม่สบอารมณ์ อวี๋หมิงหลางเองก็ดูออกว่าเฉียวเจิ้นดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ดวงตางี้เป็นประกาย ออกอาการสุดๆ หน้าตาอิ่มเอิบมีความสุข เห็นแล้วมันน่าหมั่นไส้มาก
“ก็ประมาณนึง ฮี่ๆ One เดี๋ยวปิดเทอมหน้าร้อนนี้ฉันอาจจะแต่งงานนะ” เฉียวเจิ้นเกาหัว อวี๋หมิงหลางกำลังยกแก้วน้ำดื่ม พอได้ยินเฉียวเจิ้นพูดแบบนี้ก็พ่นน้ำพรวด
“แต่งงาน?”
“อืม แต่งงาน” เข้าหอไปล่วงหน้าก่อนแล้ว ไม่แต่งงานก็คงไม่ได้ พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนเฉียวเจิ้นก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้ามีความสุขสุดๆ เสียดแทงเข้าไปในจิตใจอวี๋หมิงหลางเต็มๆ
“กับใคร?” อวี๋หมิงหลางเหมือนถูกโจมตีอย่างรุนแรง
แต่งกับผีสิ เขาเพิ่งจะหมั้นกับลูกเชี่ยน แม้แต่จะกินตับกันยังไม่สำเร็จ เฉียวเจิ้นเป็นชายโสดที่อวี๋หมิงหลางชอบอวดความรักใส่มาตลอด อยู่ๆจะมาสละโสด อีกทั้งยังข้ามขั้นตอนเป็นแฟน ขั้นตอนหมั้น ไปแต่งงานเลยเหรอ?
อ๊าก…นี่มันเหมือนปาระเบิดใส่ชัดๆ
“กับเสี่ยวยวี่ ฮี่ๆ…อ้อมกันมาตั้งไกล เพิ่งจะรู้ว่าคนที่เหมาะสมที่สุดอยู่ข้างตัว ปิดเทอมหน้าร้อนนี้เขาอายุยี่สิบพอดี ฉันจะไปยื่นคำร้องขอแต่งงาน พวกเราจะแต่งงานกัน”
เจ็บ ใจ โว้ย
อวี๋หมิงหลางนวดขมับ นี่เขาไม่ได้ฟังผิดจริงๆเหรอ?
“ก่อนหน้านี้พวกนายสองคนเล่นเกมพี่ชายน้องสาวกันอยู่ดีๆไม่ใช่เหรอ? ทำไมอยู่ๆจะมาแต่งงานล่ะ?”
ข้ามขั้นไปขนาดนี้ ไม่มากไปหน่อยเหรอ?
“อันที่จริงก่อนหน้านี้ก็มีความรู้สึกดีๆ แต่มันติดตรงที่พวกเราโตกันมาแบบพี่ชายน้องสาวเลยค่อนข้างลังเล แต่เมื่อคืนในเมื่อทำเรื่องแบบนั้นแล้วก็ต้องรับผิดชอบ แต่ทำไมฉันถึงได้ทำแบบนั้นนะ ฮี่ๆ…ก็ชอบอยู่หรอก…”
ความลับของลูกผู้ชาย เล่าให้หัวหน้าฟังเท่านั้น
หัวหน้าสะเทือนใจ
“เมื่อคืน? นายทำอะไร”
“ฉันไปจัดการเรื่องโรงแรมให้เสี่ยวยวี่ใช่ไหมล่ะ จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์นิดหน่อย เสี่ยวยวี่ดื่มจนเมา จากนั้นฉันก็ช่วยเขาจับหนูแฮมเตอร์ ปรากฏว่าจับไปจับมา…”
“จับไปจับมาก็เลยจับขึ้นเตียง เมาแล้วเลยลงมือได้? เมาแล้วไม่ต้องเห็นเป็นน้องก็ได้?” อวี๋หมิงหลางทนไม่ไหว เขาหักนิ้ววอร์มมือ ไม่ได้ วันนี้คนๆนี้มันต้องโดน
ถ้าจะบอกว่ากินตับได้ไม่ถึงสิบห้านาทีก็คืนห้องสร้างความเจ็บแค้นให้อวี๋หมิงหลางหนึ่งตัน ถ้าอย่างนั้นการที่เฉียวเจิ้นไปกินตับกันสำเร็จแบบเหนือความคาดหมายแบบนี้ก็คงสร้างความเจ็บแค้นอย่างน้อยห้าตัน
“อ่อ…เตรียมการไว้แล้ว?” อวี๋หมิงหลางวอร์มมือเสร็จก็เริ่มวอร์มขา
“อืม เสี่ยวยวี่พูดถูก เรื่องของเราสองคนพ่อกับแม่คงรับไม่ได้แน่นอน ถึงจะเรียกว่าพ่อแม่มาหลายปี แต่อยู่ๆจากลูกชายจะให้มาเป็นลูกเขย ผู้ใหญ่ทั้งสองคนจะขัดใจก็ใช่เรื่องแปลก ฉันต้องกำจัดอุปสรรคให้หมด ในเมื่อกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ผู้ชายต้องมีความรับผิดชอบ กลัวแค่จะดูแลเขาได้ไม่ดีจนเขาหนีไปนี่แหละ”
แอลกอฮอล์กับหนูอันที่จริงเป็นแค่ข้ออ้าง
ถ้าในใจไม่ได้คิดอะไรแล้วจะทนรับบททดสอบแบบนี้ไม่ไหวได้ยังไง?
ก่อนหน้านี้สับสนเรื่องบทบาทสถานะ พอผ่านค่ำคืนไปด้วยกันทุกอย่างก็กระจ่าง ตอนนี้เฉียวเจิ้นมีความเชื่อมั่นอยู่อย่าง เขาเป็นคนทำ ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด สู้ไปให้สุด
อวี๋หมิงหลางยืนขึ้น ถามด้วยน้ำเสียงที่อันตราย “แล้วนายได้เตรียมใจที่จะถูกฉันอัดไว้ไหม?”
“หืม? นายจะอัดฉันทำไม?” ในที่สุดเฉียวเจิ้นก็เดินออกมาจากจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดได้ เขามองอวี๋หมิงหลางด้วยความไม่เข้าใจ
อวี๋หมิงหลางเหวี่ยงขาเข้าไป เฉียวเจิ้นหลบขาของเขาได้แต่กลับถูกหมัดที่เหวี่ยงเข้ามาที่หน้าแทน อยู่ดีๆมาลงไม้ลงมือทำไมเนี่ย?
“One ต่อยฉันทำไมเนี่ย?”
“เห็นแล้วหงุดหงิด ต้องจัดการ”
“ฉันใช้ถุงยางนะ ไม่ปล่อยให้ท้องหรอก” เฉียวเจิ้นคิดไปเป็นอื่น หัวเตียงตามห้องโรงแรมมีของแบบนี้ทั้งนั้น
ไม่พูดยังดีเสียกว่า พอพูดขึ้นมายิ่งโมโห อวี๋หมิงหลางยิ่งเพิ่มแรง “ฉันมันไม่ได้เรื่อง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย