เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนเดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมของที่สืออวี้ต้องการ รวมถึงอาหารเย็น เธอก็เห็นสืออวี้ที่บอกว่าตัวเองลงจากเตียงไม่ได้กำลังยืนส่องกระจกสำหรับแต่งตัวอยู่ ใบหน้าก็ฉีกยิ้มหวานอยู่คนเดียว
หน้าต่างถูกเปิดทิ้งไว้ ดังนั้นจึงไม่ได้กลิ่น ‘ดอกเกาลัด’ ‘ดอกโพทิเนีย’ ไม่อย่างนั้นจะยิ่งเสียดแทงใจมากกว่าเดิม
ห้องแบบสองเตียง เตียงหนึ่งราบเรียบเหมือนไม่เคยถูกแตะต้อง ส่วนอีกเตียงสภาพเหมือนผ่านสงครามมา จินตนาการได้เลยว่าสงครามเมื่อคืนดุเดือดแค่ไหน
“ส่องดูอะไรน่ะ ก็แค่เยื่อหายไปใช่ว่าจะมีเนื้อส่วนไหนเพิ่มเข้ามา มองก็มองไม่ออกหรอก มากินยาได้แล้ว”
เสี่ยวเชี่ยนเอาของวางตรงหัวเตียง แล้วเรียกสืออวี้มา
ลูกคุณหนูสุดต๊องยังคงฝึกยิ้มอยู่หน้ากระจก “ประธานเชี่ยน สังเกตเห็นไหมว่าฉันดูไม่เหมือนปกติ?”
“อืม ดูโง่กว่าเดิม”
“ไม่ใช่นะ มันเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง” เธอยืนส่องกระจกมองตัวเอง อันที่จริงในใจรู้สึกซับซ้อนบอกไม่ถูก ที่แท้พอมีความคืบหน้าแบบเห็นได้ชัดมันรู้สึกแบบนี้เอง ดูแล้วตัวเธอก็ยังเป็นเธอ แต่มันเหมือนมีตรงไหนที่ไม่เหมือนเดิม
กำลังคิดว่าคนข้างนอกจะเป็นเหมือนกับเธอเมื่อคืนหรือเปล่า ความรู้สึกแบบในใจมีเรื่องที่อยากพูดแต่ก็พูดไม่ออก คล้ายกับว่าเธอยังคงเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็เหมือนกับมีตรงไหนที่แตกต่าง รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนละคนกับเมื่อวาน คล้ายกับโตขึ้น ถึงกับรู้สึกว่าสง่าราศีเปลี่ยนไป
อันที่จริงเสี่ยวเชี่ยนก็ดูออก การเปลี่ยนแปลงจากเด็กเป็นผู้ใหญ่จะมากจะน้อยก็ย่อมมีความเปลี่ยนแปลง แต่เนื่องจากมีความอิจฉาตาร้อนที่คนอื่นได้กินอิ่มแต่ตัวเองยังหิวอยู่ เธอตัดสินใจแล้วว่าจะขัดสืออวี้ ยัยคนนี้จะได้ไม่ได้ใจจนเกินไป
หลายวันนี้กลับหอไม่ได้ จึงมานอนกับสืออวี้ มีสองเตียงพอดี สืออวี้ที่เพิ่งเสร็จภารกิจโตข้ามคืนเห็นได้ชัดว่ามีอะไรอยากเม้าท์มอยมากมาย เอาเสี่ยวเชี่ยนเป็นโพรงไม้ ส่วนเสี่ยวเชี่ยนเองก็สงสัย สืออวี้กับเฉียวเจิ้นความสัมพันธ์เย็นชากันมาตั้งนาน ทำไมอยู่ๆกลายเป็นแบบนี้?
“อันที่จริงจะว่าไปฉันว่าสวรรค์ให้โอกาสฉัน ตอนจะก้าวออกรู้สึกยากลำบากมาก แต่พอได้ก้าวออกไปแล้วจริงๆกลับพบว่าความลังเลก่อนหน้านี้ทำให้เสียเวลาไปมาก ฉันไม่เสียใจเลย”
สามารถพูดออกมาได้แบบมีหลักการขนาดนี้ โตขึ้นแล้วจริงๆ เสี่ยวเชี่ยนกับสืออวี้ขึ้นไปนอนเอนกันคนละเตียง เสี่ยวเชี่ยนฟังเพื่อนสนิทเล่าถึงความคิดของตัวเองแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนเด็กสาวในครอบครัวโตขึ้น พลางคิดถึงตัวเองในตอนนั้น
ชาติที่แล้วตอนเธอกับอวี๋หมิงหลางมีอะไรกันครั้งแรก เธอคิดอะไรบ้างนะ?
ไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นเธอเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจสูง หน้าที่การงานประสบความสำเร็จไปแล้ว เธออยากทำอะไรก็กล้าทำ หากจะว่ากันโดยแก่นแท้ เธอเป็นฝ่ายทำให้อวี๋หมิงหลางหลับนอนกับเธอ ทั้งๆที่ไม่ได้คิดจะให้รับผิดชอบอะไร
แต่ตอนนั้นพอเห็นเขาตื่นขึ้นมาแล้วเดินหน้าบึ้งออกไป เธอกลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ผู้หญิงเป็นสัตว์ที่แสนประหลาด ตอนที่ยังมาไม่ถึงขั้นนี้ สาวน้อยจะไม่ค่อยคุยกันเรื่องนี้ บางครั้งไม่ทันระวังพูดขึ้นมาก็จะรู้สึกเขินอาย
แต่พอกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วมาคุยกันเรื่องนี้ก็จะเริ่มไม่แคร์อะไรทั้งนั้น กล้าถามกล้าพูดหมด
“จริงสิประธานเชี่ยน ฉัน…อยากขอความรู้จากเธอหน่อย คือว่า เรื่องนั้นน่ะ…”
ฟังจากน้ำเสียงที่อ้ำๆอึ้งๆ เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกได้ทันทีว่าไม่น่าจะใช่เรื่องดี
“มีอะไรก็พูดมาตรงๆ”
“ตอนเธอกับหัวหน้าอวี๋ทำอย่างนั้นกัน เธอร้องยังไงเหรอ? ฉันรู้สึกว่า…หนังที่เคยดูเมื่อก่อนมันร้องเว่อร์ไปหน่อย”
ทำยังไงก็รู้สึกอายแบบบอกไม่ถูก
เสี่ยวเชี่ยนมองบน เห็นไหมล่ะ? ว่าแล้วว่ายัยนี่ต้องถามอะไรไม่ดี
เธอแทบไม่ได้ทำอะไรเลย จะร้องอะไรล่ะ?
“มอตโตะมอตโตะยาดะ ไดเทะไดเทะคิมูจิ อิไตอิไตฮายาคุ ไอคุไอคุสุโก้ย ท่องอันนี้ไปแล้วกัน” เสี่ยวเชี่ยนจงใจสอนแบบผิดๆ



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย