หญิงสูงวัยคนนี้ไม่เคยสนใจเรื่องผลประโยชน์อะไรกับใครทั้งนั้น หากใครกล้ามายั่วโมโหก็พร้อมจะทำลายคนนั้น อย่าว่าแต่คณบดีเลย แม้แต่อธิการบดีเห็นเธอยังไม่กล้าทำอะไร ถึงชีวิตในมหาวิทยาลัยจะไม่ได้โอเคนัก แต่ก็เป็นเบอร์หนึ่งของบุคคลที่ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย
พอเห็นศาสตราจารย์หลิวแสดงท่าทีชัดเจนแบบนี้เสี่ยวจ้าวก็รู้สึกกลุ้มขึ้นมาทันที
“อันที่จริงเรื่องนี้จะว่าเล็กก็ไม่เล็กจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ ถ้าอีกฝ่ายต้องการทำให้เป็นปัญหาขึ้นมาสถานการณ์คงไม่ส่งผลดีกับพวกเราเท่าไร อาจารย์ต้องเข้าใจพวกเรานะคะ งั้นเอาแบบนี้ดีไหมคะ ให้เฉินเสี่ยวเชี่ยนไปเจอคนๆนั้นเอง? ถ้าเรื่องนี้ไม่เป็นเรื่องจริงก็จะได้คืนความบริสุทธิ์ให้กับเด็กด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง เราจะไม่สนเรื่องชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยไม่ได้นะคะ”
“สนเรื่องชื่อเสียงเหรอ? แล้วตอนที่พวกเธอทำเรื่องที่คนเป็นอาจารย์ไม่ควรทำเคยคิดถึงชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยไหม? เขาไม่ได้ทำไม่จำเป็นต้องไปเจอใครทั้งนั้น พวกเธอจัดการได้ก็จัดการไป จัดการไม่ได้ก็ต้องทำให้ได้ ถ้ารอให้ฉันออกหน้าล่ะก็เรื่องใหญ่แน่”
ศาสตราจารย์หลิวต้อนจนจนมุม เสี่ยวเชี่ยนแอบชื่นชมอาจารย์ที่ออกหน้าแทนอย่างเงียบๆ หญิงสูงวัยคนนี้พอทำแบบนี้แล้วเท่ห์ไม่เบา
“แต่ว่า คือ คือ…” เสี่ยวจ้าวจะมองไปทางไหนก็ลำบากใจ
เธอเป็นแค่คนกลาง จะล่วงเกินศาสตราจารย์หลิวก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้ากลับไปเผชิญหน้ากับอธิการบดี
เสี่ยวเชี่ยนดูอย่างสนุกสนานจนพอใจแล้วจึงยืนขึ้น
“เรื่องนี้ให้หนูจัดการเองค่ะ หนูรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
“เฉินเสี่ยวเชี่ยน เรื่องนี้เธอไม่จำเป็นต้องออกหน้า ฉันจัดการเอง” ศาสตราจารย์หลิวคิดว่าเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของเธอ อย่าว่าแต่เพราะเสี่ยวเชี่ยนเป็นเด็กที่เธอชอบเลย เสี่ยวเชี่ยนรักษาให้หวางย่าเฟยก็เพราะเธอเป็นคนอนุญาต จะให้ปล่อยไปไม่สนใจไม่ได้
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าหนูจัดการไม่ดีอาจารย์ค่อยออกหน้าก็ได้ค่ะ หนูบริสุทธิ์ใจ”
สาเหตุที่เสี่ยวเชี่ยนทำแบบนี้หนึ่งคือ เธออยากจัดการอาหญิงให้เด็ดขาด สองคือเธอสามารถจัดการปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน
แน่นอนว่าการหลบอยู่หลังอาจารย์นั้นย่อมปลอดภัยอยู่แล้ว แต่การไปผิดใจกับผู้บริหารคนอื่นด้วยไม่ใช่เรื่องที่ดี ต่อให้อีกฝ่ายไม่เล่นงานเธอเรื่องนี้ก็ยังมีโอกาสอีกเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องต้องเพิ่มความวุ่นวาย
“ใช่ค่ะใช่ เธอคิดได้แบบนี้ก็ดี ฉันเชื่อในความสามารถของเธอว่าจะต้องจัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน ทางที่ดีพวกเธอจัดการกันเองอย่างเงียบๆดีกว่า” เสี่ยวจ้าวพอใจกับท่าทีของเสี่ยวเชี่ยนมาก พยักหน้าไม่หยุด
เหมือนยกภูเขาออกจากอก โยนของร้อนออกจากมือได้แล้ว~
“งั้นเธอจัดการเรื่องเด็กที่สอบตกแบบเงียบๆด้วยหรือเปล่า? พวกเขาให้เครื่องสำอางหรือว่าให้กระเป๋าล่ะ?” ศาสตราจารย์หลิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า เสี่ยวจ้าวรู้สึกอายมาก
หญิงสูงวัยคนนี้ปกติไม่ยุ่งเรื่องแบบนี้ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรสามารถปกปิดเธอได้
“อาจารย์กินข้าวต่อเถอะนะคะ ฉันขอตัวก่อนค่ะ”
เสี่ยวจ้าวรีบออกไปทันที
เสี่ยวเชี่ยนแอบขำในใจ พอเห็นท่าทางที่ยังโมโหอยู่ของศาสตราจารย์หลิวเธอจึงพูดปลอบ
“อาจารย์จะไปโกรธพวกเขาทำไมคะ เรื่องแค่นี้เอง หนูมีวิธีจัดการค่ะ”
“เห็นคนพวกนี้แล้วหงุดหงิด วันๆทำงานขายผ้าเอาหน้ารอด พอเกิดเรื่องก็พูดจาผลักภาระให้คนอื่น หึ เรื่องแบบนี้อันที่จริงก็ไม่เห็นมีอะไร ทางมหาลัยทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ก็ได้แล้ว ยังจะให้เราจัดการ? เฮงซวย แสดงว่าคนที่มาร้องเรียนเป็นคนมีอิทธิพลพวกเขาถึงไม่กล้ามีเรื่องด้วย…เฉินเสี่ยวเชี่ยน นี่เธอไปก่อเรื่องไว้ใช่ไหม”
ศาสตราจารย์หลิวกำลังโมโห แต่ท่าทางที่โมโหคนนอกกับคนในนั้นไม่เหมือนกัน ประโยคช่วงแรกเป็นการระบายความไม่พอใจกับประชดโลกแห่งความเป็นจริง ส่วนประโยคช่วงหลังเป็นท่าทีของผู้อาวุโสที่โมโหเด็กดื้อที่ไปก่อเรื่องข้างนอกมา”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย