ผู้บริหารใหญ่หน้าบึ้งอย่างหนัก
คนอื่นๆพากันปาดเหงื่อแทนเสี่ยวเชี่ยนกับเลี่ยวฟู่กุ้ย ทั้งสองคนไม่ไว้หน้าผู้บริหารเลยแม้แต่น้อย ต่อให้เสี่ยวเชี่ยนแก้ปัญหาได้แล้ว อีกหน่อยถ้าผู้บริหารหาข้ออ้างมาเล่นงานเลี่ยวฟู่กุ้ยล่ะจะทำไง? ยิ่งถ้าแก้ปัญหาไม่ได้แบบนั้นยิ่งมีเหตุผลจัดการกับเลี่ยวฟู่กุ้ย
เลี่ยวฟู่กุ้ยเป็นผู้ชายซื่อๆที่ตรงไปตรงมา เพิ่งจบออกมาได้ไม่นาน ยังไม่รู้วิธีการอยู่รอดในสังคมทำงานเท่าไร เขาคิดว่าตัวเองมีเหตุผลอยู่ที่ไหนก็ไม่ต้องกลัว เขาไม่ได้คิดเรื่องผู้บริหารจะแก้แค้นเลยด้วยซ้ำ
เสี่ยวเชี่ยนไม่เหมือนกับเขา เธอคิดไว้แล้วเรื่องที่ผู้บริหารอาจจะแก้แค้นเพราะเรื่องนี้ ไม่ว่าเธอจะทำสำเร็จหรือไม่ยังไงพี่ชายเธอก็ต้องโดน แต่เธอไม่กลัวหรอก
อยากจะแก้แค้นเลี่ยวฟู่กุ้ยก็ช่วยดูภูมิหลังของเขาด้วย รวมถึงภูมิหลังของเธอ เธอมั่นใจมากว่าหลังจากที่เธอเข้าไปแล้วตาแก่คนนี้จะต้องรีบสั่งคนไปเช็คประวัติเธอกับเลี่ยวฟู่กุ้ยแน่นอน
ถึงตอนนั้นก็จะพบว่าคนหนึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของหัวหน้าศาล ส่วนอีกคนเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของตระกูลอวี๋อันเก่าแก่ ถ้าอยากจะเล่นด้วยก็ต้องกล้าพอตัว
ดังนั้นเสี่ยวเชี่ยนจึงไม่กลัวเลยสักนิด แรงมาแรงกลับ หลังจากที่ยั่วโมโหแล้วเธอยังหันไปพูดด้วย
“ฉันเห็นคุณหน้าแดงๆ ลมหายใจก็ถี่เร็ว รอยยิ้มดูแข็งๆ ฉันขอแนะนำในฐานะจิตแพทย์นะคะ คนอื่นโกรธคุณอย่าโกรธ โกรธจนเป็นโรคจิตเวชขึ้นมาก็ต้องมาหาพวกเราอีก อย่าเห็นว่าครั้งนี้ฉันมาทำโดยไม่คิดเงิน นั่นก็เพราะฉันเห็นแก่หน้าเลี่ยวหยุนฉาง คุณไม่ได้มีเกียรติขนาดนั้น ถ้าคุณมาให้ฉันรักษา สลึงเดียวฉันก็ไม่ลดให้”
พูดจบก็เดินเข้าห้อง ผู้บริหารใหญ่หันไปกัดฟันพูดกับเลขา
“ไปสืบ!”
เลขาออกไปโทรศัพท์สักพักก็กลับมา
เสี่ยวเชี่ยนในเวลานี้ได้เข้าไปในห้องเพื่อใช้วิธีพิเศษในแบบของเธอปลุกบุคลิกที่สองของผู้ป่วย ทุกคนต่างรุมล้อมดูสถานการณ์ภายในผ่านกล้องวงจรปิด เลขากระซิบข้างหูผู้บริหารระดับสูง
“สืบมาแล้วครับ เธอเป็นนักศึกษาจิตวิทยาคลินิกของมหาวิทยาลัยBD มีใบอนุญาตของนักจิตวิทยาระดับสามครับ—”
“คนที่ผ่านแค่ระดับสามยังกล้าข่มฉันเลยเรอะ?!” ผู้บริหารใหญ่คิดหาวิธีแก้แค้นได้เป็นร้อยวิธีแล้ว
“เธอยังมีสถานะเป็นลูกสะใภ้คนที่สี่ของตระกูลเก่าแก่อย่างตระกูลอวี๋ด้วยครับ”
“ตระกูลอวี๋ไหน คงไม่ใช่ที่ฉันคิดหรอกนะ?”
“น่าเสียดายที่ใช่ครับ…”
“…!!!” มิน่าล่ะถึงได้ดูกล้าเสียขนาดนั้น
ในใจของผู้บริหารใหญ่มีแต่คำว่า แย่แล้ว
ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นบ้างเสี่ยวเชี่ยนไม่รู้ เธอหิ้วงูตัวนั้นเข้าไปในห้องสอบสวน แสงไฟในห้องถูกปรับให้มืดตามต้องการของเธอ นั่นก็เพราะกลัวจือหมิงจะรู้ว่านี่เป็นงูปลอม
จือหมิงถูกใส่กุญแจมือนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เอาหน้าซุกกับมือ ตรงหัวใส่อุปกรณ์ที่ทำจากโลหะครอบไว้ ซึ่งก็คืออุปกรณ์ตรวจเช็คคลื่นสมองที่เสี่ยวเชี่ยนบอก
“จือหมิงจำฉันได้ไหม?” เสี่ยวเชี่ยนพูดขึ้น
จือหมิงได้เข้าสู่ความหวาดกลัวขั้นสุดแล้ว คนพวกนี้สอบสวนเขาไม่หยุด เขากลัวมาก…
ทันใดนั้นพอได้ยินเสียงคุ้นเคยเขาก็เงยหน้าขึ้นมา เขาจำได้ทันทีว่านี่เป็นผู้หญิงที่เคยมาพักบ้านเขา
“พี่! พาผมออกไปหน่อย ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ทำไมพวกเขาต้องจับผมด้วย…” จือหมิงร้องไห้พลางอ้อนวอน
เสี่ยวเชี่ยนเห็นท่าทางน่าสงสารของเขาแล้วก็พยายามข่มใจ
สำหรับคนไข้อย่างจือหมิงแล้ว เพื่อตัวเขา เพื่อเหยื่อที่ถูกทำร้าย เธอจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ควรทำ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย