กัดจมูก กัดหู ใช่ว่าเรื่องพวกนี้จะไม่เคยเกิดขึ้น
กว่าจะรอคนข้างนอกเข้ามาเสี่ยวเชี่ยนก็อาจกลายเป็นคนไร้จมูกไม่ก็ไร้หูไปแล้ว
คนที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์อย่างประธานเชี่ยนมีเหรอจะปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น จังหวะที่จือหมิงกำลังจะกระโจนเข้ามา เสี่ยวเชี่ยนก็รีบล้วงสเปรย์พริกไทยออกมาแล้วฉีดเข้าไปที่หน้าเขา
“อ๊าก!” เสียงร้องโหยหวน!
คนที่เข้ามาในห้องรีบแยกชายคนบ้าให้ห่างจากเสี่ยวเชี่ยน จือหมิงที่ถูกปลุกอีกบุคลิก ไม่สิ ตอนนี้ควรเรียกว่าจือฮู! เขาเอามือจับตาที่แสบจนลืมตาไม่ขึ้น แต่ร่างกายก็ไม่หยุดดิ้น แรงเขาเยอะมากจนไม่เหมือนกับแรงคน ตำรวจสองคนเอาเขาไม่อยู่ มีคนหนึ่งถูกกัดแล้วด้วย
“นังแพศยา! ฉันจะกรีดหน้าแก ฉันจะฆ่าแก!” จือฮูตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ตำรวจที่คุมตัวเขาพากันหวาดกลัว ตอนนี้สภาพของจือฮูไม่เหมือนมนุษย์เลยจริงๆ
สีหน้าท่าทางคล้ายกับที่คนแก่ชอบพูดว่าผีสิง หน้าตาบิดเบี้ยว แรงเยอะจนน่าตกใจ
“ฆ่าฉันตาย งั้นน้องชายนายก็ต้องตายด้วย ตอนนี้ฉันเป็นคนที่ยืนยันว่านายมีอาการป่วยได้ นายไม่แคร์น้องชายเลยหรือไง?”
ตามคาด พอได้ยินคำว่าน้องชายจือฮูก็สงบลงไปมาก
แต่ไม่นานเขาก็กลับมามองเสี่ยวเชี่ยนด้วยสายตาอาฆาต “ฉันไม่ได้ป่วย! พวกแกนั่นแหละป่วย โลกนี้มันป่วยกันไปหมด! พวกแกรังแกน้องชายฉัน เป็นพวกแก ไอ้คนหน้าตาดีทั้งหลาย แต่กลับทำเรื่องที่สัตว์เดรัจฉานมันทำ พวกแกดูถูกน้องชายฉัน เหยียดหยามน้องชายฉัน ในเมื่อพวกแกมันไร้ยางอาย ฉันก็จะกรีดหน้าพวกแกทุกคน ฮ่าๆๆๆๆ!”
เขาหัวเราะเสียงดัง
ก่อนหน้านี้เสี่ยวเชี่ยนได้ให้ความรู้กับทุกคนไปถึงความแตกต่างระหว่างผู้ป่วยจิตเวชกับผู้ป่วยโรคประสาทอย่างแรกคือรู้ว่าตัวเองป่วยแต่กลับควบคุมพฤติกรรมของตัวเองไม่ได้ ส่วนอย่างหลังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองป่วย ถึงขนาดที่คิดว่าคนที่ไม่เหมือนตัวเองสิเป็นคนบ้า
ฟู่กุ้ยเข้าไปในห้องพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน ทุกคนตื่นเต้นมาก หัวหน้าใหญ่ศูนย์วิจัยยกนิ้วโป้งให้เสี่ยวเชี่ยน
“เยี่ยมมากจริงๆ!”
ปัญหาที่รบกวนทุกคนมานาน พอถึงมือเธอก็ถูกจัดการอย่างง่ายดาย!
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มอย่างเหนื่อยล้า ‘ความเยี่ยม’ แบบนี้อันที่จริงเธอไม่อยากได้หรอก
“หัวหน้าคะ พวกคุณทำการวินิจฉัยขั้นต่อไปได้เลยค่ะ บุคลิกที่สองของหวางจือหมิงชื่อหวางจือฮู เขาจินตนาการว่าตัวเองเป็นพี่ชายที่ตายไปแล้ว บุคลิกจือฮูมีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง เป็นคนสุดโต่ง ส่วนเขายังมีบุคลิกอื่นๆแฝงอีกหรือไม่พวกคุณคงต้องวินิจฉัยต่อไป แต่จากการวิเคราะห์ของฉัน 80%ของเรื่องนี้เป็นฝีมือของบุคลิกจือฮูค่ะ”
ใครจะไปคิดว่าการไปเที่ยวภูเขากับความทรงจำขอแต่งงานแสนลำบากกับอวี๋หมิงหลางนั้นจะนำพาให้มาไขคดีใหญ่แบบนี้ได้ เรื่องต่างๆบนโลกใบนี้ยากจะคาดเดาจริงๆ
เสี่ยวเชี่ยนประสบความสำเร็จในการปลุกอีกบุคลิกของหวางจือหมิงออกมาได้ ไม่ใช่เพราะเธอเก่งกว่าคนอื่นในที่นี้ ความชำนาญของทุกคนไม่เหมือนกัน ฟู่กุ้ยกับเพื่อนร่วมงานเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ตัวเธอก็แค่ได้เปรียบตรงที่เคยเจอเรื่องราวบนเขามาก่อน บวกกับเธอมีความสามารถมีความมั่นใจในวิชาของตัวเอง ถึงได้ประสบความสำเร็จในเรื่องที่ทุกคนทำไม่ได้
เธอถอยออกมาแล้วเดินไปที่ริมหน้าต่างระเบียงอย่างเงียบๆ เปิดหน้าต่างออกไปดูท้องฟ้าด้านนอก ไม่ได้มีความรู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อย
การใช้วิธีนี้บีบให้อีกบุคลิกในตัวหวางจือหมิงออกมา อันที่จริงเธอไม่ค่อยชอบเท่าไร แต่มันเป็นเพียงวิธีเดียว
ทุกคนต่างเห็นแค่ด้านที่เธอแสดงความสามารถ แต่กลับไม่เห็นด้านที่เธอรู้สึกว่างเปล่าหลังจากจัดการคดีได้

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย