“จะเป็นไงได้ล่ะ อยู่ในห้องฉุกเฉินโน่น เด็กคนนี้วันๆเอาแต่เก็บตัว ไม่พูดไม่จา ใครจะไปรู้ว่าคิดอะไรอยู่ เอาใจยากจริงๆ” หลุ่ยจือบ่น
“พูดน้อยๆหน่อยสิแม่!” เย่เสียวอวี่ขัดจังหวะแม่ตัวเอง แล้วหันไปถามพ่อด้วยความร้อนใจ “พ่อ น้องหนู—เหม่ยเหวย ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่?”
อ้อ ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคุ้นหน้าหลุ่ยจือ เหมือนเย่เสียวอวี่นี่เอง!
พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนมาปรากฏตัวที่นี่ ในใจของเย่เสียวอวี่ก็อยากจะบ้าตายพร้อมทั้งรู้สึกโมโห
ตอนนี้เธอหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมเวลาเห็นเสี่ยวเชี่ยน
เรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันมานี้ล้วนเกี่ยวข้องกับเสี่ยวเชี่ยน ต่อให้ตัวเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ก็ทำให้คนที่มีอคติโยนเรื่องทุกอย่างไปที่ศัตรูได้
ดังนั้นเวลาเย่เสียวอวี่เห็นเสี่ยวเชี่ยนจึงรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นพิเศษ
“น้องเธอโทรเข้ามาที่รายการฉันเป็นครั้งสุดท้าย ฉันรู้สึกว่าเขามีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้าก็เลยแจ้งให้ครอบครัวของเขาทราบ เกือบจะไม่ทันแล้ว” เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองหน้าเย่เสียวอวี่
ไม่ได้แต่งหน้า
เย่เสียวอวี่เวลาไม่แต่งหน้าก็ไม่ได้ดูดีเท่าไร
ใบหน้าซีดเซียวดูหม่นหมอง ขอบตาดำคล้ำ ไม่ได้กรีดตาไม่ติดขนตาปลอม ตาชั้นเดียว มีกระเล็กๆที่ใบหน้า ปากไม่มีความชุ่มชื่นเลยแม้แต่น้อย ไม่มีราศี
เครื่องสำอางเป็นใบหน้าที่สองของผู้หญิง สามารถทำให้ผู้หญิงที่ดูธรรมดากลายเป็นดาวเด่นขึ้นมาได้
และสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเสี่ยวเชี่ยนก็คือ เย่เสียวอวี่ที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำเสพติดการแต่งหน้ารีบร้อนมาถึงที่นี่เพื่อน้องสาวที่ไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่าในสภาพที่ไม่ได้แต่งหน้า
สำหรับคนทั่วไปแล้ว การไม่แต่งหน้านั้นเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำแบบเย่เสียวอวี่แล้ว การไม่แต่งหน้าเป็นเรื่องที่พบเจอได้ยาก มันแทบจะคล้ายกับให้คนที่สายตาสั้น1000ไม่ใส่แว่นตาออกจากบ้าน
เอาแค่เรื่องนี้เสี่ยวเชี่ยนก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดเย่เสียวอวี่เท่าไรแล้ว ถึงคนๆนี้จะชอบทำตัวให้คนอื่นไม่พอใจ แต่ความรู้สึกที่มีให้น้องสาวนั้นเป็นเรื่องจริง คนต่อให้เลวกว่านี้ก็ย่อมมีมุมที่อ่อนโยนแม้เพียงนิดเดียวก็ตาม เย่เสียวอวี่เองก็เหมือนกัน
“เธอเป็นคนบอก…ใช่ เวยเวยเคยบอกฉันว่าอยากได้ลายเซ็นเธอ!” เย่เสียวอวี่จากที่สายตาเหม่อๆก็ได้สติทันที สายตาที่มองเสี่ยวเชี่ยนเปลี่ยนไป
เปลี่ยนเป็นสับสน เธอมีเหตุผลเป็นหมื่นที่จะเกลียดเหม่ยเหวย
เกลียดที่เหม่ยเหวยเก่งกว่า เกลียดที่เอาชนะใจอวี๋หมิงหลางได้ เกลียดที่แย่งอันดับหนึ่งของพิธีกรยอดนิยมประจำสถานีไป…
เหตุผลที่เกลียดเหม่ยเหวยนั้นมีมากพอให้เธอเขียนออกมาเป็นหน้าๆได้ แต่คนที่เธอเกลียดคนนี้กลับช่วยชีวิตน้องสาวเธอ…
หลังจากที่ความคิดในสมองตีกันสักพักเย่เสียวอวี่พูดเสียงลอดตามไรฟัน
“ขอบ…คุณ!”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันเป็นหมอน่ะ”
เสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็แอบสะใจอยู่ในใจ ประโยคนี้มันเจ๋งสุดๆ ให้ความรู้สึกทั้งใจกว้างทั้งดูดี คงทำให้เย่เสียวอวี่หงุดหงิดใจไปได้ครึ่งปี ได้ผลดีกว่าด่าตรงๆอีก
ตามคาด เย่เสียวอวี่หน้าบึ้งมากกว่าเดิม
ศาสตราจารย์หลิวมองเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนรีบทำหน้าไร้เดียงสาหนูไม่รู้เรื่องนะ แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น
ศาสตราจารย์หลิวรู้สึกขำ ท่าทางของเสี่ยวเชี่ยนที่แสร้งทำเป็นเด็กโง่เป็นเรื่องสนุกที่สุด น้อยคนนักจะเข้าใจการกลั่นแกล้งคนของเธอ เรื่องนี้คงไปเรียนมาจากอวี๋ไข่เหล็ก ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งดีหรือไม่ดี
ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก มีหมอเดินออกมา พ่อเย่กับหลุ่ยจือรีบรุดเข้าไปหา ท่าทางของหลุ่ยจือดูร้อนใจยิ่งกว่าพ่อเย่
“ลูกฉันเป็นไงบ้างคะ?”
“โชคดีที่เจอทันเวลา ล้างท้องไปแล้วตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณดูแลลูกกันยังไง?”
หลุ่ยจือรีบพุ่งเข้าไปในห้องฉุกเฉินก็เห็นเย่เสียวเวยนอนให้น้ำเกลืออยู่ สิ่งแรกที่ทำก็คือเงยหน้ามองขวดน้ำเกลือ
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย