“พี่เหม่ยเหวยคะ! เขาอยู่ เขาอยู่ตรงนั้น!” เวยเวยชี้ไปที่มุมหนึ่งของห้องด้วยอาการตกใจกลัว
เสี่ยวเชี่ยนเดินไปกอดเธอไว้แล้วตบหลังเบาๆเพื่อปลอบ
“ไม่เป็นไรนะ มันก็แค่ฝัน”
อาการในตอนนี้ของเวยเวยเรียกว่าเดจาวู หลังจากที่คนปกติถูกทำร้าย สมองก็จะปรากฏภาพตอนที่ถูกทำร้ายไประยะหนึ่งไม่หยุด ช่วงระยะนี้ไม่เพียงแต่เวยเวยจะฝันร้าย บางครั้งใครไปถูกตัวเธอก็จะกรีดร้อง ซึ่งก็เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของอาการเดจาวู
ผู้หญิงที่ถูกคุกคามโดยใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะในวัยที่ยังไม่เติบโตมากนักก็จะอยู่ในภาวะซึมเศร้าหรือชินชาเป็นเวลานาน ถ้าไม่รีบดำเนินการรักษาทางจิตเวชอย่างทันท่วงที ความโหดร้ายนี้ก็จะติดอยู่กับพวกเขาไปตลอดชีวิต
ถึงขนาดที่สามารถส่งผลต่อการมีชีวิตคู่ในอนาคต เสี่ยวเชี่ยนเคยเจอเคสคนไข้ผู้หญิงที่เป็นแบบนี้มามากมาย หลังจากที่ผู้หญิงบรรลุนิติภาวะแล้วแต่งงานไปก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยต่อการใช้ชีวิตคู่ เห็นเพศชายเป็นศัตรู รู้สึกหวาดระแวง หรืออาจไม่สามารถเปิดใจยอมรับโลกภายนอกได้เลยด้วยซ้ำ เพราะในส่วนลึกจิตใจของพวกเขามักจะมีเสียงพูดขึ้นมาว่า โลกนี้เต็มไปด้วยความโหดร้าย
“พี่เหม่ยเหวยคะ หนูรู้สึกอยู่ไปก็ทรมาน แค่หลับตาก็จะเห็นเขา เขาตีหนู ทำให้ตัวหนูสกปรก…”
“เด็กน้อย นี่ไม่ใช่ความผิดของหนูเลยนะ”
เสี่ยวเชี่ยนใช้คำว่าเด็กน้อย นี่เป็นวิธีเข้าถึงจิตใจที่จิตแพทย์ใช้กับผู้ป่วยประเภทนี้ ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนเรียกว่าเด็กน้อย ดวงตาของเวยเวยก็เริ่มแดง
“ความผิดของหนูเอง ถ้าหนูไม่เกิดมาก็คงดี ถ้าหนูถูกลุงคนอื่นรับไปเลี้ยงก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ความผิดของหนูเอง…”
ปฏิเสธการมีตัวตนของตัวเอง นี่ก็คือหนึ่งในความรู้สึกของผู้หญิงที่ถูกทำร้าย
เดิมเสี่ยวเชี่ยนคิดว่านี่ก็แค่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ใช้เกมกระบะทรายรักษาก็ได้แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าโรคซึมเศร้าจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของภูเขาน้ำแข็ง ภายใต้ภูเขาลูกนั้นยังแฝงไว้ด้วยเรื่องอีกมากมายที่คนไม่รู้
ดูท่าจะต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นรักษาแล้ว
ตอนนี้ต้องทำให้ความหวาดกลัวของเวยเวยที่มีต่อเรื่องนี้ได้ระบายออกมา ไม่อย่างนั้นเธอจะเอามันไปทำร้ายตัวเอง ไม่เพียงแต่จะรักษาโรคซึมเศร้าไม่ได้แล้ว วันข้างหน้าอาจพัฒนากลายเป็นโรคประสาทได้อีกด้วย
พอเห็นเวยเวยอยู่ในสภาพนี้เสี่ยวเชี่ยนก็ไม่ได้มีความสงสารสัตว์เดรัจฉานตัวนั้นสักนิดต่อเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
ทุกคนต่างคิดว่าทำร้ายให้ร่างกายเจ็บเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดแล้ว แต่ใครจะเข้าใจบ้างว่าการทำร้ายถึงจิตใจมันเจ็บเพียงใด?
อย่างเช่น เดินอยู่บนถนนดีๆอยู่ๆก็ถูกคนต่อยเข้าหนึ่งหมัด บาดแผลภายนอกแบบนี้พอรักษาก็หาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนถูกทำร้ายไม่เพียงแต่จะเป็นการบอบช้ำทางกาย สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือการทำร้ายที่มาจากในจิตใจและการวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม การถูกทำร้ายจากสังคมนั้นมาจากโลกภายนอก แต่บาดแผลในใจกลับเหลือทิ้งไว้อยู่ที่ตัวเอง
หัวใจของคนๆหนึ่งบาดเจ็บ มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ มีแค่ตัวเองเท่านั้นที่รู้ ทำได้แค่ปล่อยให้อาการบาดเจ็บในส่วนลึกของจิตใจลุกลามจนสุดท้ายหมดทางเยียวยา เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งได้จริงๆเหรอ?
บาดแผลบางอย่างได้ แต่บางอย่างไม่ได้ อาการบาดเจ็บของเวยเวยถ้าไม่ได้ผู้เชี่ยวชาญช่วยก็ไม่มีทางดีขึ้นไปตลอดชีวิต
คนอื่นๆจะเห็นแค่ว่านี่คือคนปกติคนหนึ่ง เธอมีลักษณะภายนอกที่เหมือนคนอื่น สิบกว่าปีหรือหลายสิบปีผ่านไป หัวใจที่บอบช้ำเป็นรูพรุนของเธอไม่มีใครรับรู้ หรือถึงขนาดที่ว่าการทำร้ายจิตใจที่แสนน่ากลัวนี้อาจส่งต่อไปยังรุ่นถัดไป
ผู้หญิงที่เคยถูกใช้ความรุนแรงหลังจากที่มีลูกของตัวเองแล้ว บางส่วนจะมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายลูกโดยที่ตัวเองควบคุมไม่ได้ นี่คือผลพวงมาจากการที่จิตใจไม่ได้ถูกเยียวยาจนหายดี
เสี่ยวเชี่ยนเห็นเด็กผู้หญิงที่ตัวสั่นเทาคนนี้แล้วก็ยิ่งแน่วแน่ต่อแผนขจัดทุกข์ให้ประชาชนของตัวเอง ขณะเดียวกันเธอก็ได้ตัดสินใจจะเปลี่ยนวิธีรักษาเวยเวย โดยเริ่มจากทำให้ปลดล่อยอารมณ์ออกมาก่อน
อวี๋หมิงหลางพาฉิวฉิวที่หน้าตาปูดบวมกับอวี๋หลิวเหมยที่นวดแขนมาตลอดทางกลับมา
หลิวเหมยเปลี่ยนรองเท้าพลางบ่น “พี่หลาง พี่นี่ใจร้ายจริงๆ พี่กล้าทำร้ายผู้หญิงด้วย!”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย