มีคนร้ายจับเด็กผู้หญิงเป็นตัวประกัน เธออยู่แถวนั้นพอดีจึงได้ไปช่วยเจรจา อาศัยความรู้ทางด้านจิตวิทยาอันแข็งแกร่งสยบคนร้าย จากนั้นก็ร่วมมือกับอวี๋หมิงหลางช่วยตัวประกันได้สำเร็จ ตอนนั้นมีนักข่าวฝึกงานคนหนึ่งแอบตั้งกล้องถ่ายทอดสดระหว่างที่เธอเจรจากับคนร้าย ด้วยเหตุนี้อวี๋หมิงหลางจึงโมโหมาก รู้สึกว่าเป็นการเปิดเผยตัวตนแฟนที่เขารักดั่งแก้วตาดวงใจ ดังนั้นจึงให้ลูกน้องจับโยนเข้าไปในลิฟท์
การถูกเปิดเผยตัวตนเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมาก แต่จากครั้งนั้นกลายเป็นความโชคดีมากกว่าความโชคร้ายของเสี่ยวเชี่ยน เพราะนักข่าวคนนี้ย้ำหนักมากว่าเธอเป็นสายของตำรวจ ทำให้เสี่ยวเชี่ยนไม่ต้องถูกเล่นงานประเด็นถูกลักพาตัวไปในหุบเขา
นึกไม่ถึงจริงๆว่าจะได้เจอกันอีก พรหมลิขิตแท้ๆ
“ไอดอลคะ! พอฉันฝึกงานที่เมืองQเสร็จก็ย้ายมาทำงานที่เมืองนี้ ได้เจอไอดอลฉันดีใจมากเลยค่ะ จริงสิ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ฉันชื่อไป๋จิ่นค่ะ เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์!”
หลายปีก่อนตอนที่รายงานข่าวเสี่ยวเชี่ยนไป๋จิ่นยังเป็นนักข่าวของสถานีโทรทัศน์ รายการนั้นยอดคนดูไม่ใช่น้อยๆก็แสดงว่าเธอคนนี้ฝีมือไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้กลับมาเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ก็แสดงว่าไปล่วงเกินคนมาไม่น้อย เสี่ยวเชี่ยนเห็นนิสัยก็รู้ได้เลยว่า คนๆนี้สายเลือดนักข่าวอย่างแท้จริง มีความกระตือรือร้น แต่คงไปรายงานข่าวที่ไม่สมควรเข้า ปกติพวกผู้บริหารไม่ชอบลูกน้องแบบนี้อยู่แล้ว
“ตอนนี้คุณรับผิดชอบเขียนข่าวด้านไหนอยู่เหรอคะ?” เสี่ยวเชี่ยนถาม
“ก่อนหน้านี้เป็นข่าวสังคม ต่อมาก็ข่าวพวกการใช้น้ำมันเก่า โรงงานเถื่อนอะไรแนวๆนี้ ตอนนี้เบื้องบนย้ายฉันมาทำข่าวครอบครัวแล้วค่ะ”
นักข่าวตอบได้ตรงกับการคาดเดาของเสี่ยวเชี่ยน เด็กคนนี้ลูกบ้าเยอะเกินไป เบื้องบนคงกลัวว่าความดันทุรังของเด็กคนนี้จะไปลากเอาเรื่องยุ่งยากที่ไม่สมควรเข้ามาสร้างความลำบาก จึงจับยัดใส่แผนกที่คิดว่าปัญหาน้อยที่สุดแล้ว
“ไอดอลคะ ตอนนี้ไอดอลยังทำงานให้พวกตำรวจไหมคะ ฉันติดตามข่าวอยู่ตลอด แต่ก็ไม่เห็นคุณไปเจรจากับคนร้ายที่ไหนเลย ตอนนั้นคุณเท่ห์มากเลยค่ะ ฉันอยากหาโอกาสสัมภาษณ์คุณมากๆเพื่อให้สังคมได้รับรู้ถึงเสน่ห์ของคุณค่ะ!”
พอเห็นเด็กคนนี้หลงตัวเธอเป็นอย่างมากประธานเชี่ยนก็วางใจ เรื่องเวยเวยมีทางลงแล้ว เธอจะเล่นใหญ่หน่อยก็ได้
“ฉันไม่ใช่คนของทางตำรวจ ไม่ใช่นักเจรจาด้วย ฉันขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแล้วกัน ฉันเป็นจิตแพทย์ชื่อเฉินเสี่ยวเชี่ยน ยินดีที่ได้รู้จักนักข่าวที่มีความยุติธรรมอย่างคุณนะคะ คุณนักข่าวไป๋จิ่น”
“หา! คุณเป็นจิตแพทย์?” ไป๋จิ่นคิดมาตลอดว่าการที่เสี่ยวเชี่ยนเจรจากับคนร้ายอย่างใจเย็นได้ขนาดนั้นจะต้องเป็นคนของทางตำรวจแน่ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นหมอ!
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นจิตแพทย์”
“ฉันยังคิดว่าคุณเป็นตำรวจ…” ไป๋จิ่นอึ้งเล็กน้อย
“ไม่ใช่แค่ตำรวจที่ลงโทษคนร้ายได้ นักข่าวไป๋จิ่นผู้รักความยุติธรรม คุณจะยอมร่วมมือกับฉันช่วยเยียวยาจิตใจของคนที่ถูกรังแกไหม?”
“หา? ฉันทำได้เหรอคะ?” แอบตื่นเต้นนะเนี่ย นึกไม่ถึงว่าอีกไม่กี่ปีต่อมาจะได้ร่วมมือกับไอดอลทำเรื่องที่ควรทำ!
เวยเวยกับเย่เสียวอวี่กลับมาหลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนดีลกับนักข่าวเสร็จ
เย่เสียวอวี่ไม่ได้สนิทกับไป๋จิ่นเท่าไรนัก เธอให้คนอื่นช่วยติดต่อให้ ได้ยินว่าลูกบ้าเยอะ เป็นคนตรงๆ สมองคิดแต่เรื่องความยุติธรรม แต่นักข่าวของหนังสือพิมพ์เมืองที่ทำข่าวคอลัมน์ครอบครัว นอกจากนักข่าวที่หลุ่ยจือติดต่อไว้ก็มีไป๋จิ่นนี่แหละ ไม่มีทางเลือกก็ต้องเอาคนนี้
ตอนที่เย่เสียวอวี่พาเวยเวยกลับมา ก็เห็นเสี่ยวเชี่ยนนั่งอยู่บนโซฟาดุจนางพญา ไป๋จิ่นนั่งเรียบร้อยอยู่ข้างๆ เอาสมุดกับปากกาจดในสิ่งที่เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างตื่นเต้น หลิวเหมยเป็นผู้มองเหตุการณ์อย่างเงียบๆ เธอลากเก้าอี้มานั่งฟังพลางกินแตงหวาน พี่สะใภ้บรรยายพิเศษเธอก็นั่งฟัง กำไรเห็นๆ
“ดังนั้นความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ท่าทีที่แม่ปฏิบัติต่อลูกเป็นตัวตัดสินชะตาทั้งชีวิตของลูก…” เสี่ยวเชี่ยนเห็นเย่เสียวอวี่กลับมาแล้วก็หยุดการบรรยายพิเศษ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย