เธอแค่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นาน ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
“พี่จะไปดูบ้านด้วย” เลี่ยวฟู่กุ้ยพูดกับหลิวเหมยด้วยสายตามุ่งมั่น
สุ่ยเซียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหลิวเหมยยกนิ้วโป้งให้เสี่ยวเชี่ยน เธอไม่เคยรู้สึกนับถือใครในความเก่งเท่าเสี่ยวเชี่ยนมาก่อน
เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็พูดล้างสมองผู้ชายได้แล้ว ถ้าจะบอกว่าก่อนสุ่ยเซียนเข้าไปในห้องยังมองท่าทีของเลี่ยวฟู่กุ้ยไม่ออก แต่หลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนคุยกับเขาแค่ครู่เดียว พอสุ่ยเซียนออกจากห้องมาก็เห็นสายตาของเลี่ยวฟู่กุ้ยที่มองหลิวเหมยเปลี่ยนไป
สมกับเป็นประธานเชี่ยนจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดเกลี้ยกล่อมเลี่ยวฟู่กุ้ยได้ ยังได้ทลายกำแพงในใจของเลี่ยวฟู่กุ้ยอีกด้วย สุดยอด
กำหนดการวันนี้คือไปดูบ้าน แต่สิ่งที่แฝงอยู่ก็คือจัดการเรื่องครอบครัวหม่าให้จบ
เดิมอวี๋หมิงหลางก็อยากไปด้วย แต่เขายังมีงานที่ต้องทำ จึงได้มอบหมายภารกิจกำจัดครอบครัวหม่าให้เสี่ยวเชี่ยน ภารกิจปีศาจอุทกภัยที่เบื้องบนมอบให้เขานั้น ให้สิทธิ์ออกมาทำแค่ตอนที่เขาว่าง มาคอยสอดส่องอาเหม็ด ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องกลับไปทำงานที่หน่วย ตอนนี้ที่หน่วยยังมีอีกหลายเรื่องต้องจัดการ
สุ่ยเซียนเองก็ไม่ได้ตามไป เธอรู้สึกว่ามีประธานเชี่ยนคนเดียวก็พอแล้ว จึงกลับโรงแรมไปนอนพักอย่างสบายใจ
เนื่องจากครอบครัวหม่ามีสมาชิกหลายคน เสี่ยวเชี่ยนกับฟู่กุ้ยจึงแยกกันขับรถไปรับครอบครัวนั้น
เมื่อวานครอบครัวหม่าไม่พอใจที่หลิวเหมยออกมาก่อนที่จะจ่ายเงินซื้อของให้ ดังนั้นวันนี้จึงยืนรอหน้าโรงแรมด้วยสีหน้าไม่พอใจ หม่าลุ่ยลางานมาเพื่อไปดูบ้านพร้อมกับทุกคน สีหน้าของเขาเองก็ไม่ค่อยดีเท่าไร
ถึงจะรู้ว่าหลิวเหมยออกไปเพราะที่บ้าน ‘มีธุระ’ แต่ก็ไม่มีใครพยายามเข้าใจหลิวเหมย ถึงขนาดที่คิดว่าหลิวเหมยเป็นคนที่ ‘ไร้มารยาท’
ในสายตาของครอบครัวหม่า ผู้หญิงไม่เหมือนกับผู้ชาย ควรรู้จักให้ลำดับความสำคัญก่อนหลัง รู้ว่าตัวเองกำลังจะแต่งงานทำไมยังคิดจะยุ่งกับเงินซื้อบ้านของ ‘ทั้งครอบครัว’
เรื่องบ้านต้องล่าช้าเพราะย่าเพียงคนเดียวถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ครอบครัวหม่าลงมติกันแล้วว่าจะไม่ไว้หน้าหลิวเหมย ต้องทำให้หลิวเหมยกลับไปคิดทบทวนตัวเอง
สีหน้าของคนพวกนี้อยู่ในสายตาของเลี่ยวฟู่กุ้ย ยิ่งเป็นการยืนยันคำพูดที่เสี่ยวเชี่ยนพูดกับเขา ครอบครัวนี้ไม่ดีกับหลิวเหมย ฟู่กุ้ยเป็นผู้ชายตรงๆก็มีสีหน้าไม่ดีเช่นกัน ตอนที่หม่าลุ่ยจ้องหน้าหลิวเหมยด้วยความไม่พอใจ เขาที่ยืนอยู่ข้างหลังหลิวเหมยก็ถลึงตาใส่กลับไป
มองหาXXXเหรอ อั๊วะตาสองชั้นเฟร่ยตาโตกว่าไอ้ตี๋อย่างเอ็งเยอะ
น่าเสียดายที่การจ้องอย่างอาฆาตของเลี่ยวฟู่กุ้ยนั้นถูกอีกฝ่ายมองข้ามโดยสิ้นเชิง หม่าลุ่ยไม่เห็นท่าทางของเลี่ยวฟู่กุ้ย เขาถามหลิวเหมย
“เรื่องที่ผมบอกเมื่อวานคุณคิดได้หรือยัง”
หลิวเหมยรู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องที่ให้เอาเงินมาซื้อบ้านไม่ให้เอาเงินไปรักษาย่า ถึงจะรู้ว่าเรื่องนี้อวี๋หมิงหลางพี่ชายเธอแกล้งลองใจหม่าลุ่ย แต่พอได้ยินหม่าลุ่ยพูดกดดันแบบนี้ หลิวเหมยก็รู้สึกอึดอัดใจ
ย่าเสียไปแล้วแต่ปู่ยังอยู่ แถมยังมีผู้ใหญ่อยู่อีกตั้งหลายคน หม่าลุ่ยทำแบบนี้กับย่าของเธอ ก็เท่ากับแสดงท่าทีต่อทุกคนในครอบครัวแบบเดียวกัน—ถึงแม้หลิวเหมยจะรู้สึกว่าคงไม่มีใครในครอบครัวเธอเดือดร้อนเรื่องเงินถึงขนาดไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี
หลิวเหมยยังไม่ตอบ แต่ฟู่กุ้ยทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว กล้าดียังไงใช้น้ำเสียงแบบนั้นพูดกับน้องนุ่มนิ่ม พูดจากับผู้หญิงจะอ่อนโยนหน่อยไม่ได้หรือไง
อันที่จริงวันนี้ถือว่าหม่าลุ่ยพูดจาเกรงใจแล้ว ปกติไม่เกรงใจยิ่งกว่านี้
“เรื่องในครอบครัวหลิวเหมยซับซ้อนกว่าที่คุณคิด เรื่องบางอย่างต้องมองระยะยาวครับ” เลี่ยวฟู่กุ้ยจงใจพูดขึ้น
เสี่ยวเชี่ยนขยิบตาให้ ไอ๊หยา ไม่มีที่ให้เธอลงอาวุธเลยนะเนี่ย ดูสีหน้าเอาเรื่องของพี่ใหญ่ฟู่กุ้ยสิ
ในที่สุดหม่าลุ่ยก็สังเกตเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังหลิวเหมย รูปร่างไม่ถือว่าสูงมาก—อันที่จริงเลี่ยวฟู่กุ้ยสูง176ซม.ก็ยังสูงกว่าหม่าลุ่ย 1 ซม. แต่หม่าลุ่ยเห็นแล้วรู้สึกว่าเลี่ยวฟู่กุ้ยไม่สูงเท่าไร มองข้ามความจริงที่ว่าตัวเองก็ไม่สูงเหมือนกัน เห็นเลี่ยวฟู่กุ้ยใส่แว่นท่าทางเหมือนคนมีการศึกษาสูง เขาก็รู้สึกได้ถึงอันตราย
“เขาเป็นใคร” หม่าลุ่ยถามหลิวเหมย


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย