ชายชุดดำสองคนพอเห็นอาเหม็ดก็รีบหนี ขับรถออกไประยะหนึ่งแล้วถึงกล้าโทรหาลูกพี่
“ได้ตัวไหม”
“ไม่ครับ พี่ใหญ่ พวกเราเจอคุณชายด้วย ไม่กล้าให้คุณชายเห็นพวกเราก็เลยออกมาก่อน”
“ทำให้นังนั่นมันเห็นฤทธิ์เดชหรือเปล่า”
“เปล่าครับ…” คนโทรหันไปมองเพื่อนที่สภาพดูไม่ได้อยู่บนเบาะหลังพลางพูดในใจว่า ไม่เพียงแต่พวกเขาจะทำอะไรเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้แล้ว ยังถูกเล่นงานกลับซะน่วม
“พวกแกสองคนเล่นงานผู้หญิงคนเดียวมันยากนักเหรอ” น้ำเสียงผู้ชายที่ราบเรียบจนน่ากลัว
ลูกน้องสองคนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ยิ่งพี่ใหญ่เป็นแบบนี้ยิ่งน่ากลัว
“เขามีผู้หญิงผมทองที่ฝีมือดีมาด้วย แถมตัวเขาเองก็มีสนับมือแปลกๆอันนึง แอบลอบทำร้ายพวกเราครับ”
“สนับมือเหรอ” ปลายสายอึ้ง จากนั้นก็พูดพึมพำ “สนับมือที่ฉันให้เอาไปให้ผู้หญิงคนอื่นงั้นเหรอ”
“พี่ใหญ่ว่าอะไรนะครับ”
“ฉันบอกว่าพวกแกสองคนมันไม่ได้เรื่อง กลับมาได้แล้ว”
ชายฉกรรจ์สองคนเห็นข้างหน้ารถติดยาวเป็นหางว่าง จึงพูดด้วยความลำบากใจ
“ขอโทษด้วยครับพี่ใหญ่ พวกเราอาจจะกลับไปช้าหน่อย ไม่รู้ว่าการจราจรที่นี่มันเป็นอะไร ด้านหน้ารถติดหนัก ด้านหลังก็ต่อแถวกันยาว ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกัน…ว้าก”
ผู้ชายคนที่คุยโทรศัพท์รู้สึกว่าหลังคารถสั่นสะเทือนอย่างแรง เหมือนกับมีวัตถุหล่นใส่ เขาเงยหน้ามองผ่านกระจกประทุน รองเท้าบู๊ทแบบเฉพาะของทหารหน่วยรบพิเศษเหยียบอยู่ด้านบน นี่มัน…อะไรกัน
หนึ่งนาทีก่อนหน้านี้เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางมาถึงสะพานหลินเหมิน พูดให้ถูกก็คือไม่ถึงกับมาถึงสะพาน เพราะรถติดหนักมากจนมองไม่เห็นสะพาน รอบๆเต็มไปด้วยรถหนาแน่น
หลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนบอกลักษณะรถและเลขทะเบียนรถของสองคนนั้นแล้ว ต่อมาก็เป็นเวลาโชว์เดี่ยวของอวี๋หมิงหลาง เขาเอาผ้าพันคอตัวเองมาปิดครึ่งหน้า ถอดเครื่องประดับยศออก ใส่แว่นดำ ส่งจูบให้เสี่ยวเชี่ยนจากนั้นก็ลงจากรถแล้วกระโดดขึ้นหลังคารถ
ถึงเสี่ยวเชี่ยนจะไม่ได้เห็นคนโรยตัวลงมาจากสะพานแบบในหนัง แต่อวี๋หมิงหลางทำให้เธอได้เห็นอีกแบบหนึ่ง เขากระโดดวิ่งบนหลังคารถอย่างรวดเร็ว
จากหลังคารถคันหนึ่งไปยังอีกคันหนึ่ง มีอยู่คันเป็นรถบรรทุกแกะ เขาจึงเกาะขอบข้างไปแล้วถือโอกาสลูบหัวแกะที่โผล่ออกมา ไม่ดื้อนะลูก
คนขับรถถึงกับเบิกตาโพลง นี่เขาตาฝาดไปหรือเปล่า
ทำไมมีคนวิ่งอยู่บนหลังคารถด้วย
ฉากแบบไหนหนังที่ตำรวจไล่ล่าผู้ร้ายกลายเป็นเรื่องจริงแล้ว
รถหลายสิบคันติดอยู่ตรงนั้น บรรดาคนขับรถทั้งหลายพากันงง นี่มันเรื่องอะไรกัน เวลานี้ไม่ใช่เวลายกสะพานเสียหน่อย พอเห็นคนปิดหน้าวิ่งบนหลังคารถยิ่งงงเข้าไปใหญ่
หรือจะมีการจับโจรเกิดขึ้น หรือจะมีการไล่ล่าคดีใหญ่ๆอยู่
พอเชื่อมโยงกับเวลานี้ไม่ใช่เวลายกสะพานยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้ที่จะมีการจับโจรอยู่ บรรดาคนขับจึงตื่นเต้นกันยกใหญ่
น่าเสียดายที่ยุคนี้ไม่เจริญเท่าอีกสิบกว่าปีให้หลังที่ทุกคนต่างพกโทรศัพท์มือถือ สามารถนำมาถ่ายทอดสดได้ พวกเขาจึงได้แต่มองมนุษย์โพกหน้ากระโดดไปมาบนหลังคารถ ถ้าเป็นสิบกว่าปีให้หลังน่ะเหรอ คงถ่ายทอดสดแล้วมีคนมากดไลค์ร่วมแสดงความคิดเห็นกันมากมาย กลายเป็นประเด็นร้อนในชั่วพริบตา



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย