“ดูซิว่าจะหนีไปไหนรอด” แล้วก็มีรถเบนซ์สีแดงเข้ามาจอดอีกคัน พ่อที่หัวล้านกลางหัวของฉิวฉิวลงมาจากรถ ชี้ไปที่พวกเสี่ยวเชี่ยน พวกเขาไล่ตามมาตลอดทางเพื่อที่จะมาจับฉิวฉิวกลับไป
“ครั้งนี้พวกเราไม่คิดหนีหรอก”
เสี่ยวเชี่ยนถอยลงไปสองก้าวอย่างเงียบๆแล้วรับกระเป๋าเป้ของอวี๋หมิงหลางมา
อวี๋หมิงหลางเริ่มวอร์มร่างกาย หลิวเหมยกับอาข่าเองก็เช่นกัน ฉิวฉิวเห็นพ่อตัวเองที่ยังคงไม่ยอมแพ้จึงมองบนใส่
“พ่อ ตัดใจเหอะ ชาตินี้ผมก็เป็นแบบนี้ไปตลอดแหละ รักษาไม่หายหรอก”
“ไอ้ลูกชั่ว รีบกลับไปกับฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ” พ่อฉิวฉิวเห็นท่าทางของลูกสาวก็ยิ่งหงุดหงิด
เวลานี้มีคนลงมาจากรถเบนซ์อีกสองคน หนึ่งในนั้นดูเหมือนเป็นชาวต่างชาติ กำลังพูดกับล่ามอยู่
เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางเลิ่กคิ้วขึ้นพร้อมกัน เสี่ยวเชี่ยนหัวเราะเสียงขึ้นจมูก ส่วนอวี๋หมิงหลางพูดจาแดกดัน
“เขาสั่งให้ล่ามบอกคุณว่า ถ้าอยากรักษาฉิวฉิวให้หายก็ต้องเพิ่มเงิน ตอนนี้คุณรีบร้อนถ้าเขาต้องการเท่าไรคุณก็ต้องให้…เนี่ยน่ะเหรอผู้เชี่ยวชาญ? ผมคิดว่าเมียผมหน้าเลือดแล้วนะ ตอนนี้เมียผมดูจิตใจมีเมตตาไปเลยทีเดียว อย่างน้อยก็ไม่เรียกเงินเพิ่ม”
“อะไรนะ?” พ่อฉิวฉิวอึ้ง
“พ่อ โดนขูดรีดขนาดนี้แล้วยังจะเชื่อคนแบบนี้อีกเหรอ?” ฉิวฉิวเองก็ฟังเข้าใจบ้าง ฟู่กุ้ยก็พยักหน้า
พวกเสี่ยวเชี่ยนฟังภาษาอังกฤษออก ผู้เชี่ยวชาญจอมปลอมคนนี้ถือว่าดวงซวยที่มาเจอแก๊งค์เด็กเรียนเข้า
ล่ามหน้าบึ้งพูดเสียงเบา อีกฝ่ายฟังเข้าใจโปรดระวังด้วย
ครั้นแล้วผู้เชี่ยวชาญจอมปลอมนั่นก็หน้าบึ้งทันที
“เรื่องพวกนี้กลับไปค่อยว่ากัน ฉิวฉิวกลับไปกับพ่อ ดูแกซิ ครึ่งชายครึ่งหญิงเหมือนตัวอะไรเนี่ย”
“ผมเป็นแบบนี้ให้โทษใคร? ตอนเด็กๆใครเป็นคนบอกผมว่าผู้หญิงสืบสกุลไม่ได้ ใครที่บอกผมว่า เรื่องที่ผิดหวังที่สุดก็คือการมีลูกสาว? ตอนนี้ผมไม่เป็นผู้หญิงแล้วพ่อควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ?”
“แก”
สองพ่อลูกพอเจอหน้ากันก็ต่อปากต่อคำ คุยกันดีๆไม่ได้
“ไปจับตัวมันมา” พอพ่อฉิวฉิวยกมือคนที่อยู่ข้างหลังก็ล้อมกันเข้ามา นอกจากคนก่อนหน้าที่เจอแล้วยังมีลูกน้องคนอื่นๆอีก
“พวกคุณคิดจะทำอะไร?” อวี๋หมิงหลางเดินเข้าไปหาพลางถาม พอเขาเดินออกมาก็ดูมีมาดน่าเกรงขามมาก
เสี่ยวเชี่ยนมองอวี๋หมิงหลางด้วยความสนใจ ดูจากท่าทางเอาเรื่องของเสี่ยวเฉียงในตอนนี้แล้ว หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาต้องทำได้ไม่เลวในการฝึกรวมแน่นอน
“ลูกสาวฉันหนีไป ฉันก็มีสิทธิ์จับเขากลับไปรักษา แล้วก็คนของพวกแกทำร้ายฉัน ฉันจะฟ้องให้หมด”
“มีสิทธิ์เหรอ? กฎหมายข้อไหนของบ้านเราที่อนุญาตให้พ่อกักขังหน่วงเหนี่ยวลูกสาวตัวเองได้?” มาพูดเรื่องกฎหมายกับอวี๋หมิงหลางที่จบกฎหมายมาเท่ากับพูดเพ้อเจ้อชัดๆ
“นี่มันเรื่องในครอบครัวของฉัน ฉันเป็นพ่อเขาฉันมีสิทธิ์สั่งสอน”
“เขาอายุเกินสิบแปดแล้ว ไม่ถือว่าเป็นเยาวชน ตอนนี้เขาไม่อยากกลับไปกับคุณ ใครก็บังคับเขาไม่ได้”
พ่อฉิวฉิวหรี่ตามอง “พวกแกนี่คุยดีๆไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลัง?”
อวี๋หมิงหลางตอบกลับแค่สองพยางค์
หึหึ
อวี๋หมิงหลางคิดไว้ว่าตัวเองควรเจรจาอย่างสันติ เถียงกันพอหอมปากหอมคอก็พอ เพื่อให้ดูเป็นคนมีอารยธรรม
แต่คนพวกนี้กลับคิดอยากพาตัวเองเข้าสู่ความป่าเถื่อน ถ้าอย่างนั้นเขาก็หมดทางเลือก
พ่อฉิวฉิวไม่อยากเสียเวลาอีก ตอนนี้เขาอยากจัดการพวกเสี่ยวเชี่ยนแล้วจับฉิวฉิวไป เขาสั่งลูกน้องให้ล้อมพวกอวี๋หมิงหลางไว้ ทันใดนั้นเสี่ยวเชี่ยนก็เห็นอวี๋หมิงหลางถีบร่วงไปหนึ่งคน แค่ชั่วพริบตาแขนซ้ายเขาก็ล็อคคอได้อีกคน ส่วนด้านขวาก็ถีบร่วงไปอีกคน


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย