หลิวเหมยรับโทรศัพท์ แม่แท้ๆของเธอโทรมา
“หลิวเหมยกินข้าวหรือยัง?”
“ยังค่ะ มีอะไรเหรอคะ?”
“พ่อเราน่ะสิ เมื่อวานตรวจเจอบางอย่าง อาทิตย์นี้ต้องผ่าตัดเราจะกลับมาไหม?”
“หา” หลิวเหมยช็อค
“ตรวจเจออะไรคะ? ร้ายแรงไหม?”
“ติ่งเนื้อ ไม่ร้ายแรง แค่เอาเครื่องไปจี้ติ่งเนื้อในกระเพาะออก ไม่หนักหนาหรอก จริงๆพ่อเขาก็ไม่อยากให้บอก กลัวจะทำเราเสียการเสียงาน แม่เห็นเรายังไม่เริ่มกิจการ ถึงพ่อเขาจะผ่าตัดเล็ก แต่ถ้าเรากลับมาเขาก็มีกำลังใจรักษาตัว แม่เลยโทรหานี่แหละ”
หลิวเหมยพอได้ฟังแม่พูดก็แสบจมูก อยากร้องไห้
“เดี๋ยวหนูกลับไปนะคะ”
“ถ้าฟู่กุ้ยงานไม่ยุ่งก็ให้มาด้วยกันสิ แต่ถ้าเขางานยุ่งก็ไม่เป็นไรนะ”
เลี่ยวฟู่กุ้ยค่อนข้างเป็นที่ยอมรับของครอบครัวนี้ พ่อแม่บุญธรรมของหลิวเหมยกับพ่อแม่แท้ๆต่างชอบฟู่กุ้ย เป็นคนที่หนักแน่น ถึงจะไม่ใช่คนร่ำรวยแต่เป็นคนมั่นคง จะใช้ชีวิตคู่ก็ต้องหาคนแบบนี้นี่แหละ แต่งกับคนรวยคนชาติตระกูลดียังไม่มีความสุขเท่าแต่งกับฟู่กุ้ยที่ขยันขันแข็ง เอาใจใส่แบบนี้เลย”
พวกเขามองว่าเป็นลูกเขยไปครึ่งตัวแล้ว
“พี่เขา…ยุ่งมากค่ะ” หลิวเหมยมองขาฟู่กุ้ยแล้วปฏิเสธ
“หลิวเหมยพ่อเป็นอะไรเหรอ?” แม่อวี๋อยู่ข้างๆได้ยินเข้าจึงเดินเข้ามาถาม
หลิวเหมยจึงยื่นโทรศัพท์ให้ ส่วนตัวเองเดินเข้าไปเก็บเสื้อผ้าในห้อง จะพูดว่าเก็บเสื้อผ้าก็ไม่ถูก เรียกว่าหยิบกระเป๋าตังค์กับบัตรสำคัญๆไปดีกว่า
“หลิวเหมย เดี๋ยวพี่ไปด้วย” ฟู่กุ้ยที่นั่งอยู่บนรถเข็นพูดขึ้น
“อย่าไปเลยค่ะ ถ้าพ่อกับแม่เห็นพี่บาดเจ็บจะยิ่งกังวล ฉันไปคนเดียวได้ค่ะ”
หลิวเหมยพูดเสร็จก็เดินออก เสี่ยวเชี่ยนรีบส่งสายตาให้อวี๋หมิงหลาง เขาจึงรีบตามไป
“เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่ง”
ฟ้ามืดแล้ว ต่อให้เป็นคนมีวิชาป้องกันตัวก็ไม่ปลอดภัย ผู้หญิงเวลาไปข้างนอกต้องคอยระวังตัว
“ไม่ต้องหรอกพี่หลาง พรุ่งนี้พี่ยังต้องทำงานอีก เดี๋ยวฉันขับรถกลับไปเอง”
“อย่าพูดมาก ไป”
อวี๋หมิงหลางเดินตามออกไป เดิมเสี่ยวเชี่ยนก็อยากตามไปด้วย แต่เสี่ยวเฉียงดันเธอกลับมา
ระยะทางไปกลับตั้งหลายชั่วโมง เธอไปก็ทำอะไรไม่ได้มาก
ฟู่กุ้ยเห็นหลิวเหมยออกไปก็ร้อนใจ
เขารู้จักนิสัยของหลิวเหมยดี เธอไม่ให้เขาไปด้วย ถ้าเขาดึงดันจะไป เธอได้ถีบทั้งคนทั้งรถเข็นกลับเข้ามาแน่
แต่ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆพิกล?
แม่อวี๋ที่วางสายไปแล้วพอเห็นเสี่ยวเชี่ยนกับฟู่กุ้ยดูร้อนใจจึงพูดปลอบ
“ฟู่กุ้ยไม่ต้องเป็นห่วงนะ น้าถามแล้ว อาการไม่ได้ร้ายแรง หลิวเหมยแค่กลับไปให้กำลังใจพ่อ ไม่ต้องร้อนใจนะ”
ฟู่กุ้ยเกิดความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก เขาเป็นห่วงหลิวเหมยอยู่ดี ครั้นแล้วจึงหันไปมองเสี่ยวเชี่ยน
“ช่วงสองวันมานี้หลิวเหมยอารมณ์ไม่ดี ผมคิดว่าเกี่ยวกับที่ผมบาดเจ็บด้วย ตอนนี้พ่อเขาก็มาป่วยอีก ผมเป็นห่วงว่าเขาจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้น่ะครับ” ฟู่กุ้ยเคยศึกษานิสัยของหลิวเหมย เธอเป็นคนที่นิสัยตรงไปตรงมา อ่อนไหวง่าย ตอนนี้เธอยังมาเจอปัญหาในชีวิตพร้อมๆกัน ทำให้หัวใจเธออาจอ่อนล้า ช่วงเวลาแบบนี้ฟู่กุ้ยจึงไม่อยากห่างเธอเท่าไร
“ไม่เป็นอะไรหรอก หลิวเหมยไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ไม่มีทางเกิดเรื่อง วางใจเถอะ”
คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนก็ยังปลอบฟู่กุ้ยไม่ได้ แต่กลับทำให้เขายิ่งกังวล
แม่อวี๋เข้าครัวไปทำกับข้าวง่ายๆมาสองอย่างเป็นอาหารเย็น ฟ้ามืดสนิทแล้ว ท้องฟ้าเหมือนถูกสาดด้วยน้ำหมึก วุ่นวายกันมาทั้งช่วงบ่ายยังไม่ได้กินข้าว คงหิวกันหมดแล้ว
ฟู่กุ้ยกินไม่ลง ตักกินไปคำเดียวพลางคิดว่าเวลานี้หลิวเหมยจะอยู่ไหนแล้ว ใกล้ถึงบ้านหรือยัง จะโทรหาเธอดีไหม
เสี่ยวเชี่ยนอาสาล้างชาม แม่อวี๋จึงคุยเป็นเพื่อนฟู่กุ้ย ทันใดนั้นโทรศัพท์ของฟู่กุ้ยก็ดังขึ้น
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย