“แม่ก็แค่ยังไม่อยากยอมแพ้ ถ้ามีคนค้ำประกันให้เราเอาเงินมาหมุนเวียน ทำให้บ้านเรายืดระยะเวลาใช้หนี้ออกไปได้ ถึงตอนนั้นสินค้าใหม่ของบ้านเราก็ออกสู่ตลาดได้ทันเวลา เราก็จะมีโอกาสผ่านวิกฤติไปได้ ขาดอยู่แค่ก้าวเดียว ก้าวเดียวจริงๆ…ตอนนี้พ่อเราก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน ถึงพวกคนงานจะบอกว่าเขากลัวความผิดเลยหนีไปแล้ว แต่แม่รู้ว่าพ่อเราไม่มีทางหนีหรอก แม่ก็แค่เป็นห่วง…”
แม่สืออวี้เช็ดน้ำตา เธอกลัวสามีจะคิดสั้นแล้วทิ้งเธอกับลูกสาวเอาไว้
เดิมอยากจะเลี้ยงลูกสาวไว้บนหอคอยงาช้างให้สุขสบายไปตลอดชีวิต แต่สุดท้ายกลับต้องมาพลิกผันกลางทาง นับตั้งแต่เธอคลอดสืออวี้ออกมาร่างกายก็แย่ลงจนมีลูกไม่ได้อีก เธอกับสามีไม่ได้อยากให้ลูกสาวรับช่วงกิจการต่อ เดิมคิดว่าจะสู้จนกว่าสามีจะเกษียณแล้วให้ลูกสาวนั่งเป็นผู้ถือหุ้นอย่างสบายๆไปตลอดชีวิต สามีเธอคิดว่าตัวเองยังทำงานได้อีกสักยี่สิบปี แต่แผนการที่คิดไว้ดิบดีก็ยังสู้สวรรค์ที่ไม่เป็นใจเพียงครั้งเดียวไม่ได้
สืออวี้มองแม่ที่เหมือนแก่ลงไปมากเพียงชั่วข้ามคืน เธอไม่อาจทำตัวเป็นองค์หญิงที่ไม่ทุกข์ร้อนในสถานการณ์แบบนี้ได้
“แม่! เรายังมีคุณอาที่อยู่เมืองหลวงไม่ใช่เหรอ หนูจะไปขอร้องให้เขามาค้ำประกันให้เรา!” ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน เธอจะไม่ยอมปล่อยให้ครอบครัวต้องพังลง
“ไม่มีประโยชน์…ลูกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? เพื่อนน่ะมีราคาทั้งนั้น สูงต่ำก็ว่ากันไป ชาตินี้พ่อเราคบเพื่อนตั้งเยอะแยะ แต่มีคนไหนบ้างที่ออกหน้าช่วยเราแก้ปัญหา?”
แม่สืออวี้พูดอย่างอ่อนล้า
เธอกับสามีมีเพื่อนมากมายนับไม่ถ้วน แต่คนที่ออกตัวช่วยในยามคับขันกลับไม่มี ถึงขนาดที่บางคนยังแอบรอฉวยโอกาสตอนที่กิจการของตระกูลสือล้มด้วยซ้ำ
“ไม่มีทาง แม่! รอหนูก่อนนะ! หนูต้องหาทางได้แน่!”
สืออวี้พรวดพราดออกไป คุณนายสืออยากจะห้ามแต่สืออวี้หันหน้ากลับมาพูด
“แม่รอหนูก่อนนะ! หนูกลับมาแน่นอนค่ะ!”
คุณนายสือคิดแล้วจึงปล่อยมืออย่างไร้เรี่ยวแรง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
ช่างเถอะ ตอนนี้ข้างนอกลือกันว่าสามีเธอหนีไปแล้ว พรุ่งนี้ไม่แน่ว่าอาจมีคนงานมาประท้วงที่หน้าบ้าน ให้ลูกออกไปก่อนก็ดีเหมือนกัน
“ไปเถอะ ออกไปเจอธาตุแท้ของคน ลูกเองก็โตแล้ว ต่อไปพ่อกับแม่คงปกป้องลูกไม่ได้อีก บ้านเราไม่ไหวแล้ว ลูกคงเข้าใจแล้ว…โลกข้างนอกไม่เหมือนกับในรั้วโรงเรียน”
คุณนายสือพูดพึมพำด้วยหัวใจที่เจ็บปวดประหนึ่งถูกมีดกรีด ตอนนี้ถึงทางตันแล้วจริงๆ
ลูกใครๆก็รัก แต่คงปกป้องไปไม่ได้ตลอดชีวิต เมื่อก่อนครอบครัวยังปกป้องลูกได้ ตอนนี้ขนาดพ่อแม่ยังเอาตัวไม่รอด ได้แต่หวังว่าเด็กคนนี้จะเข้าใจโลกได้ไวๆ
ในหัวของสืออวี้เวลานี้มีอยู่ความคิดเดียว เธอแน่วแน่มาก
เมื่อก่อนครอบครัวเป็นฝ่ายปกป้องเธอ ตอนนี้ถึงเวลาเธอปกป้องครอบครัวบ้างแล้ว
เนื่องจากเมื่อวานเสี่ยวเชี่ยนเล่นผีผ้าห่มกับอวี๋หมิงหลาง วันนี้กว่าเธอจะตื่นก็เที่ยงแล้ว เธอหาวพลางเปิดโทรศัพท์มือถือดู มีสายไม่ได้รับขึ้นหรา
เอ๋…?
สืออวี้โทรหาเธอมากขนาดนี้ทำไมกัน?
เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าช่วงนี้สืออวี้กำลังเตรียมเรื่องงานแต่งงานอยู่ที่บ้านเกิด เธอกับต้าอีวางแผนไว้ว่าปิดเทอมแล้วจะไปหา พอเสร็จงานแต่งของสืออวี้ก็ถึงตาของเสี่ยวเชี่ยนกับต้าอี
เพื่อนรักสามคนนี้เตรียมแต่งงานติดๆกัน ช่วงหลายวันนี้ประธานเชี่ยนยุ่งเลยไม่ได้โทรหาสืออวี้ แล้วทำไมสืออวี้ถึงได้โทรหาเธอตอนดึกตั้งหลายสาย?
เสี่ยวเชี่ยนโทรกลับไปแต่กลับพบว่าเบอร์ของสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์จนถูกระงับ
อะไรของเขาเนี่ย อย่างสืออวี้ค้างค่าโทรศัพท์ได้ไง?
เสี่ยวเชี่ยนคิดว่าสืออวี้คงลืม คิดไว้ว่าเดี๋ยวจะลงไปจ่ายค่าโทรศัพท์ให้แล้วโทรหาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เห็นสายไฟคอมพิวเตอร์ยังไม่ได้เก็บเธอจึงเดินไปจะปิดเครื่อง ปรากฏว่าพอมองไปที่หน้าจอ เมื่อคืนสืออวี้ทักมา?
ข้อความแรกยังดีหน่อย แค่ถามว่าเธออยู่หรือเปล่า
ข้อความที่สองบอกว่าวันนี้เธออารมณ์ไม่ดีอยากคุยด้วย
ข้อความที่สามส่งสติ๊กเกอร์หน้าร้องไห้มา

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย