ในใจของสืออวี้เวลานี้เต็มไปด้วยความรู้สึกสับสนที่ยากจะบรรยาย ภูเขาที่กดทับตัวเธอได้ถูกประธานเชี่ยนย้ายออกไปให้ แต่ทำไมเธอกลับรู้สึกกังวลมากกว่าสบายใจล่ะ?
ประธานเชี่ยนยังคงนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างาม มือก็เคาะโต๊ะเล่นเบาๆทำท่าเหมือนฟังทนายอยู่
อันที่จริงเธอฟังไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่ก็แสร้งทำเป็นเข้าใจ
ทนายทั้งสองคนมาจากบริษัทที่กิจการคนละแบบ ทั้งสองคนได้กล่าวถึงแนวคิดของเจ้านายตัวเอง อธิบายข้อกฎหมายต่างๆอย่างชัดเจน ผู้ถือหุ้นที่นั่งฟังเปรียบเสมือนนั่งอยู่บนรถที่วิ่งข้ามเขา จากจุดต่ำสุดค่อยๆพบเห็นโอกาสรอด
ตอนที่แม่สืออวี้มาถึงก็ไม่ได้เห็นภาพวุ่นวายอย่างที่ตัวเองคิด เห็นแค่ทนายสองคนที่เสี่ยวเชี่ยนพามากำลังยืนพูดอยู่บนเวที คุณนายสือเอามือปิดปากแทบไม่เชื่อสายตา เรื่องที่สามีเธอทำไม่ได้ แต่ลูกสาวกลับทำได้?
ทำอย่างไรถึงได้เชิญบริษัทใหญ่โตทั้งสองแห่งออกหน้าให้ได้? ทั้งสองบริษัทเป็นกิจการคนละสายงาน แถมปกติก็ไม่ได้รู้จักกันเท่าไร ทำไมอยู่ๆถึงมาช่วยเหลือยามลำบาก?
หลังจากนั้นก็ได้มีการถามเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนบอกว่า สืออวี้กล้าใช้อนาคตตัวเองพนันกับวันพรุ่งนี้ เฉินเสี่ยวเชี่ยนก็กล้าใช้มิตรภาพที่แท้จริงแลกกับตัวเองในชาตินี้ สิ่งที่พวกเธอพนันกันมันก็คือมิตรภาพความผูกพันเท่านั้นเอง
เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้หลับหูหลับตาช่วยเหลือ เธอคิดอยู่นาน เธอไม่ใช่คนบุ่มบ่าม แต่ครั้งนี้เธอกล้าเลือดร้อน ไม่ได้เพื่ออะไร แต่เพื่อการต่อต้านสามหมื่นเท่านั่น
ก็เหมือนกับที่สืออวี้พูด บางสิ่งบางอย่างไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงิน สืออวี้ไม่ทำผิดต่อเธอ ประธานเชี่ยนก็จะตอบแทนเธอเหมือนกัน
อยู่ๆตระกูลสือก็มีโอกาสพลิกวิกฤติ เสี่ยวเชี่ยนส่งหน่วยกู้ชีพมาช่วยได้ทันเวลา ความทุกข์ใจที่มีมาหลายวันเหมือนเบาลงไปมาก
ทนายทั้งสองกำลังตอบคำถามของเหล่าผู้ถือหุ้น เสี่ยวเชี่ยนหันไปพูดกับสืออวี้
“ครั้งนี้พวกเราก็แบกรับความเสี่ยงมากเหมือนกัน หวังว่าเธอจะรีบตามหาพ่อให้เจอนะ ให้เขามาจัดการงานใหญ่ ความลำบากของลูกสาวจะได้ไม่เสียเปล่า”
“พ่อ…ฉันก็ไม่รู้ว่าพ่อไปไหน ตอนนี้ฉันก็จนปัญญา”
“ตามหาตัวไม่เจอก็ไม่เป็นไร เธอจัดการเองเลย!”
“ฉัน?” สืออวี้ทำหน้างง
“เธอเป็นลูกพ่อ มันย่อมได้พรสวรรค์ความเก่งมาบ้างแหละน่า เขาไม่ออกมา เธอก็ออกหน้าแก้ปัญหาไปเลย! ฉันจะให้คนที่สุ่ยเซียนส่งมาๆคอยช่วยเหลือเธอ ทางด้านพี่ใหญ่ก็จะช่วยปูทางให้สินค้าใหม่ของเธอออกสู่ตลาดได้อย่างราบรื่น เธอก็แค่เดินหน้าให้เต็มที่ก็พอ อย่าทำให้พวกเราผิดหวังล่ะ”
“ประธานเชี่ยน ฉัน…” สืออวี้มีคำพูดมากมายไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหน นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องบุญคุณล้นฟ้าแล้ว
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เวิ่นเว้อ” เสี่ยวเชี่ยนโบกมือ เธอไม่อยากกอดสืออวี้ร้องไห้ มันจะดราม่าเกินไป เสียมาดในวันนี้หมด
“รีบจัดการเดินสายผลิตแค่นั้นก็ถือเป็นการขอบคุณฉันแล้ว แล้วก็ รอถึงวันที่ครอบครัวเธอกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง อย่าลืมไปขอบคุณสุ่ยเซียนล่ะ เขาเองก็ไม่ง่ายเลยนะ”
สืออวี้รู้เรื่องเกี่ยวกับสุ่ยเซียนไม่มากนัก เคยเจอบ้างแต่ไม่ได้สนิทกัน เธอรู้แค่ว่าเป็นพี่น้องบุญธรรมของประธานเชี่ยน ดีต่อกันมาก แต่ไม่คิดว่าในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้จะช่วยออกหน้าค้ำประกันให้ อีกทั้งพ่อเธอเคยบอกว่า ตอนนี้ตระกูลทังอยู่ในช่วงเปลี่ยนรุ่น ภายในครอบครัวเกิดการขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ในขณะที่สุ่ยเซียนยังเอาตัวเองแทบไม่รอดก็ยังออกหน้าช่วยเสี่ยวเชี่ยน ก็เท่ากับว่าเธอเอามีดจ่อคอตัวเองไว้
แต่ในขณะที่เสี่ยวเชี่ยนกับสืออวี้คุยกันเรื่องนี้ก็เป็นตอนที่เรื่องราวพัฒนาไปในทางที่เกิดประโยชน์แล้ว อนาคตไม่ใช่แบบที่เธอคิด และก็ไม่ได้เป็นแบบที่เธอคิด
ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนเตรียมพร้อมช่วยเหลือสืออวี้อย่างเต็มที่ แต่สืออวี้กลับไม่อยากเป็นภาระให้เสี่ยวเชี่ยนกับแหล่งเงินของประธานเชี่ยน
“ประธานเชี่ยน ฉันไม่รู้จริงๆว่าตัวเองทำบุญด้วยอะไรถึงได้มีเธอมาช่วยแบบนี้ แต่ฉันไม่อยากให้พวกเธอต้องมาเข้าไปในกองไฟเพียงเพราะเรื่องของฉันคนเดียว”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย