เธอยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
หลายปีมานี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเสิ่นเยี่ยนจือจะทรยศตัวเอง
ตอนที่เห็นเขานอนกับผู้หญิงคนอื่นนั้น จะบอกว่าเหมือนถูกธนูนับพันดอกแทงใจก็ไม่เกินจริง
"ฉันก็แค่รู้สึกว่าเขารักเธอมากขนาดนั้น ดูไม่น่าจะนอกใจเธอได้ หรืออาจจะมีการเข้าใจผิดกันหรือเปล่า"
จี้อี่หนิงหัวเราะเยาะ "ฉันเห็นกับตาตัวเอง ยังจะเรียกว่าเข้าใจผิดเหรอ?"
ห้องรับรองเงียบกริบทันที จี้อี่หนิงดื่มเหล้าแก้วต่อแก้วไปเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด สือเวยทนไม่ไหวจึงแย่งแก้วเหล้าในมือเธอมา "ถึงเขาจะนอกใจจริง เธอก็ไม่ควรลงโทษตัวเองด้วยการดื่มเหล้าเมามายแบบนี้นะ แล้ว...ต่อไปเธอจะทำยังไงล่ะ?"
"ก็ต้องหย่าสิ ตอนนี้แค่นึกถึงภาพที่เห็นเขานอนกับผู้หญิงคนนั้น ฉันก็รู้สึกขยะแขยงเต็มทีแล้ว"
เห็นดวงตาแดงก่ำและแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่ยอมรับของเธอ สือเวยก็รู้สึกสงสาร
"อย่าเพิ่งคิดมากเลย ตอนนี้เธอต้องพักผ่อนให้ดี รอให้จิตใจสงบลงแล้วค่อยคิดว่าจะทำยังไงต่อ ฉันจะไปส่งเธอเอง"
จี้อี่หนิงส่ายหน้า "ไม่...ฉันไม่อยากกลับไป"
พอกลับไปบ้านหลังนั้น เธอจะต้องนึกถึงภาพที่เสิ่นเยี่ยนจือนอกใจแน่ ๆ นึกถึงครั้งหนึ่งก็ต้องขยะแขยงไปครั้งหนึ่ง
เห็นเธอทำหน้ารังเกียจ สือเวยจึงไม่ยืนกรานอีกต่อไป "งั้นฉันจะจองโรงแรมให้เธอ"
หลังจองโรงแรมเสร็จ สือเวยก็พาจี้อี่หนิงไปส่งที่หน้าโรงแรม รู้สึกไม่วางใจจึงถาม "เธอแน่ใจนะว่าไม่ต้องให้ฉันขึ้นไปส่ง"
จี้อี่หนิงส่ายหน้า "ไม่ต้องหรอก เธอรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ"
เธอถือคีย์การ์ดขึ้นมาโบกมือให้สือเวยแล้วเดินเข้าโรงแรมไป เห็นเธอยังเดินได้มั่นคง สือเวยจึงโล่งใจ มองเธอเดินเข้าโรงแรมไปแล้วถึงขับรถจากไป
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ เวลาที่จี้อี่หนิงเมานั้นเธอไม่ได้ต่างไปจากตอนปกติหรอก มองผิวเผินดูเหมือนยังมีสติดี แต่จริง ๆ แล้วในหัวเละเป็นโจ๊กไปตั้งนานแล้ว
เธอถือคีย์การ์ดเดินเข้าลิฟต์ รูดการ์ดแล้วประตูลิฟต์ก็ปิดลงและเริ่มเคลื่อนขึ้น
ไม่นานก็ได้ยินเสียง "ติ๊ง" แล้วประตูลิฟต์ก็เปิดออก
ทันทีที่ก้าวออกจากลิฟต์เหยียบบนพรม ขาของจี้อี่หนิงก็อ่อนแรงจนเกือบล้ม
เธอเอามือยันผนังข้าง ๆ พยายามยืนให้มั่นคง นวดขมับที่ปวดตึงก่อนจะเดินไปข้างในพลางมองหาเลขห้อง
แต่ตอนนี้ฤทธิ์เหล้าเริ่มออกฤทธิ์ มองอะไรภาพตรงหน้าก็เบลอซ้อนกันไปหมด เมื่อเห็นเลข 8919 เธอก็เอาคีย์การ์ดแตะที่ประตูทันที
แต่กลับไม่ได้ยินเสียง "ปี๊บ" ที่ประตูห้องเปิด เธอขมวดคิ้วแล้วยื่นมือหมายจะผลักประตู ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกเอง
จี้อี่หนิงชะงักไปครู่ ยังไม่ทันได้ตั้งตัว มือใหญ่ข้างหนึ่งก็ดึงเธอเข้าไปในความมืด
"ปัง!"
พร้อมกับที่ประตูห้องปิดลง แสงสว่างจากด้านนอกก็ถูกกั้นไว้
เธอถูกกดแนบกับประตู กลิ่นอายรุกรานของชายคนนั้นโชยมาที่ข้างหู ทำให้เธอสั่นเทาเบา ๆ โดยไม่รู้ตัว
กลิ่นหอมสดชื่นของไม้สนโชยมา จี้อี่หนิงรู้สึกคุ้นเคยนัก แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่น ๆ ที่ริมฝีปาก
"อื้อ..."
พอรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น จี้อี่หนิงก็ดิ้นรนทันที
แต่แรงของชายคนนั้นเยอะมาก ประกอบกับคืนนี้เธอดื่มเหล้ามาไม่น้อย มือที่ยันอกเขาไว้จึงอ่อนแรง ดูไม่เหมือนขัดขืน ทว่ากลับดูเหมือนเชื้อเชิญซะมากกว่า
มือร้อนผ่าวของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างของเธอ ทุกที่ที่เขาสัมผัสราวกับถูกไฟลวก ส่งความร้อนผ่านมาเป็นระลอก ร่างกายของจี้อี่หนิงก็อ่อนระทวยลงเรื่อย ๆ
เธอพยายามผลักชายที่ทาบทับร่างเธอออก แต่เขากลับรู้ทันอย่างง่ายดาย จับมือทั้งสองข้างของเธอยกขึ้นกดไว้เหนือศีรษะ
"ปล่อย...อื้อ...ปล่อยนะ..."
ชายคนนั้นผละจากริมฝีปากเธอ หัวเราะเบาๆ "ไม่ต้องแกล้งทำเป็นขัดขืนหรอก"
นิ้วมือของเขาตกลงที่คอเสื้อของจี้อี่หนิง สัมผัสเย็นๆ ทำให้เธอสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว
อุณหภูมิร่างกายของเขาราวกับจะหลอมละลายเธอ ขาของเธอก็ค่อย ๆ อ่อนแรงลง
ในความมืด ประสาทสัมผัสถูกขยายให้ไวขึ้น
จี้อี่หนิงรู้สึกได้ว่านิ้วมือของเขากำลังปลดกระดุมเสื้อเธอทีละเม็ด เธอรู้สึกคอแห้งผาก สติสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็บอกกับเธอว่า ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน