ถังหยางสั่งให้ลวี่หยาไปจัดยาและพูดปลอบใจแม่นมฉีเล็กน้อยก่อนจะหันจากไป
แม่นมฉีเฝ้าดูแล ยิ่งมืดก็เริ่มหวาดกลัว
ลวี่หยาก็เข้ามาอยู่เป็นเพื่อน ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกลั้นหายใจเฝ้ามองฮั่วเกอเอ๋อร์ กลัวว่าถ้าหายใจแรงไปเขาจะตื่นขึ้นมา
แต่ทว่า ฮั่วเกอเอ๋อร์นอนหลับสนิท จนถึงรุ่งสาง ไม่คิดเลยว่าจะตื่นขึ้นมา ฮั่วเกอเอ๋อร์ลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่งมองแม่นมฉี “ท่านย่า ข้าหิว!”
แม่นมฉีแทบจะกระโดดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ หลังจากได้รับบาดเจ็บ เขาก็กินอะไรไม่ได้ แม้แต่นมแพะที่นางไปร้องขอมาอย่างยากลำบากก็ดื่มไม่ลงเลยสักนิด
นางเอื้อมมือไปลูบหน้าผากของหลาน คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ร้อนแล้ว
“ยาของท่านหมอได้ผล ได้ผลจริงๆ!” แม่นมพูดกับลวี่หยาด้วยความรู้สึกตื่นตะลึง
“ใช่เจ้าค่ะ ยาของท่าหมอได้ผลแล้ว” ลวี่หยาเองก็รู้สึกดีใจมากๆ
ท่านหมอหลี่ที่ถูกเชิญมาในวันรุ่งขึ้นได้มาถึงที่จวนอ๋องฉู่แล้ว
ได้ยินว่าเด็กยังไม่ตาย หมอหลี่ก็ได้แต่คิดมันช่างเป็นเรื่องที่แปลกจริง ๆ “เด็กคนนี้ดวงแข็งจริงๆ โดยปกติคงไม่รอดแล้ว”
แม่นมฉีคุกเข่าแล้วก้มหัวลง “ท่านหมอ ท่านจ่ายยาช่วยชีวิตหลานชายข้า”
หมอหลี่ชะงักไปสักครู่ เมื่อวานที่ยาที่จ่ายไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเด็กได้ ทำได้มากสุดคือบรรเทาอาการให้เบาลง ลดอาการปวดเล็กน้อย แต่ทว่ามันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้
หมอหลี่จับชีพจรของฮั่วเกอเอ๋อร์ ดีขึ้นกว่าเมื่อวานหน่อยแล้ว แต่ร่างกายก็ยังร้อนผ่าวอยู่
เขาจึงเริ่มเขียนใบสั่งยาใหม่ “เรียกสาวน้อยไปจัดยากับข้า ยาต้มชุดนี้ดื่มสองวันและยังมียาผงสำหรับใส่แผล ถ้าได้ผลดีค่อยสั่งยาเพิ่ม”
“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ”
“ค่ายาใครเป็นคนจ่ายรึ?” หมอหลี่เอ่ยถาม
เมื่อวานค่ายาถังหยางเป็นคนจ่าย แต่วันนี้ค่ายาคงต้องเป็นแม่นมฉีที่เป็นคนต้องจ่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้หล้าสยบรัก