ยังไม่ทันได้ตั้งตัว นิ้วที่แข็งราวกับคีมเหล็กบีบคอเธอ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ก็ได้เห็นใบหน้าเหย่อหยิ่งของอ๋องฉู่ที่ระเบิดอารมณ์โกรธออกมาแรงบีบที่ทำให้เกือบขาดอากาศหายใจ ตาของเธอมืดลงจนเกือบจะหมดสติ
“แม้แต่เด็กอายุสิบขวบ” เสียงขบกรามแน่นที่ดังอยู่ข้างหูเธอ “เจ้าลงมืออย่างอมหิตถึงเพียงนี้ ทหาร นำตัวพระชายาออกไปโบยสามสิบที!”
หยวน ชิงหลิง นอนไม่หลับติดต่อกันมาหลายวัน ร่างกายจึงไม่มีเรี่ยวแรง ทั้งยังโดนตบไปอีก ร่างกายก็ไร้เรี่ยวแรงจนลุกไม่ขึ้น ทันทีที่ท่านอ๋องปล่อยมือ ร่างเธอก็ร่วงฟุบลงไปกับพื้น ทันทีที่ได้รับอากาศ เธออ้าปากกว้างสูดหายใจเข้าปอด จู่ ๆ ร่างก็ถูกหามลากออกไป
ยามค่ำคืน เธอมองเห็นเพียงแค่ใบหน้าเย็นชาของอ๋องฉู่ในชุดคลุมหรูหราและสายตาที่มองมาด้วยความรังเกียจ…
เธอถูกลากไปที่บันไดหิน ศีรษะโขกกระแทกกับขั้นบันไดหินแข็ง ความรู้สึกเจ็บปวดที่ล้นทะลักออกมา แววตาที่มืดลง เธอได้หมดสติไปแล้ว
เธอหมดสติได้ไม่นาน ความเจ็บปวดก็กลับเข้ามาในสติ เป็นความรู้สึกเจ็บปวดที่แม้แต่ในชีวิตที่แล้วก็ไม่เคยได้รับ แรงฟาดของไม้ที่ฟาดลงมาแต่ละทีบนเอวและขา ทุกครั้งที่ฟาดลงมาเจ็บซึมลึกเข้ากระดูก เธอรู้สึกได้แค่ว่าตอนนี้เอวและขาตัวเองคงแหลกแล้ว
ในปากที่สัมผัสได้ถึงเลือด เธอกัดปากจนปากแตกและเผลอกัดลิ้นตัวเอง แววตาที่มืดลงแต่มันเจ็บจนเธอไม่สามารถแม้แต่จะหมดสติได้
ความเจ็บปวดมันชัดเจนจนทำให้เธอยังคงสติอยู่ได้
การโบยสามสิบทีได้จบลง เธอรู้สึกว่าเวลาผ่านไปมันช่างยาวนานราวกับชั่วชีวิต
เธอ หยวน ชิงหลิง อัจฉริยะแห่งศตววรษที่ยี่สิบสอง ผู้คนมากมายเคารพยกย่องเธอ ทุกครั้งกับการปรากฏตัวในสังคมเธอเป็นจุดสนใจเสมอ
ผู้ป่วยมากมายที่เฝ้ารอเธอวิจัยพัฒนายารักษาอย่างใจจดใจจ่อ
แต่ทว่าที่นี่ เธอแค่อยากช่วยเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ทำไมมันช่างยากเย็นเหลือเกินกับการช่วยชีวิตผู้คนในยุคนี้
เธอถูกลากกลับไป ไม่มีใครสนใจว่าเธอตาย ถ้าตายไปซะได้ก็ยิ่งดี
เธอถูกลากไปทิ้งไว้กับพื้นหินอ่อนที่ตำหนักเฝิงอี๋ รวมทั้งกล่องยาหนัก ๆ ที่โยนกระแทกเข้ากลางหลัง
เธอไม่สามารถพลิกร่างของตัวเองและคาดว่าที่หลังของเธอคงแหลกเหลวจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว เธอเอื้อมมือไปลากกล่องยาเข้ามาและเปิดกล่องยาอย่างยากลำบาก เธอนำยาออกมาหนึ่งเม็ดแล้วกลืนเข้าไปและฉีดยาให้ตัวเองอีกเข็ม โดยหวังว่ามันจะช่วยเธอให้รอดพ้นวิกฤตนี้ไปได้
แล้วเธอก็ค่อย ๆ หมดสติไปอย่างช้า ๆ
ในเรือนเล็ก อ๋องฉู่ อวี้ เหวินห่าว สั่งคนลงโทษโบย หยวน ชิงหลิง ไปแล้วหนึ่งรอบ แต่ยังคงมีอารมณ์โกรธหลงเหลืออยู่ เขากล่าวคำปลอบใจกับแม่นมฉีอยู่สองสามคำแล้วก็กลับ
ถังหยางที่ตามมา “ท่านอ๋อง ทางด้านพระชายา ต้องการให้เชิญหมอไปตรวจไหมขอรับ?”
อวี้ เหวินห่าว ปรายตามองด้วยสายตาดุร้าย “ไม่จำเป็น ตายแล้วค่อยประกาศว่านางป่วยตายกะทันหัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้หล้าสยบรัก