บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 11

การตายของพ่อในตอนนั้นส่งผลอย่างยิ่งใหญ่ต่อสองคนพี่น้องเป็นอย่างมาก

มารดาของพวกเขาเมื่อให้กำเนิดเย่ยู่หยางออกมาไม่นานก็สิ้นใจที่นอกด่าน ทั้งสองจึงได้ใกล้ชิดเพียงความรักจากบิดา

แม้ว่าเทพแห่งสงครามจะคอยปกป้องประเทศอยู่นอกแคว้น แต่เขาก็รักและเป็นห่วงพี่น้องทั้งสองคนด้วยใจจริง จึงสร้างคลังสมบัติเอาไว้ในจวนแม่ทัพเพื่อพี่น้องสองคนนี้โดยเฉพาะ เขาจะนำสมบัติเข้าคลังจำนวนมากในแต่ละปี โดยบอกว่าเพื่อสะสมไว้สำหรับเป็นสมบัติติดตัวของลูกทั้งสองคน

แต่ไม่มีใครรู้ว่ากุญแจของคลังสมบัติอยู่ที่ใด ทำให้หลายปีมานี้บ้านรองพยายามตามหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ

ตอนนี้กลับมีคนมาบอกพวกเขาว่าพ่อของพวกเขาอาจจะยังไม่ตายในสงครามอยู่ในร่างของอสูรที่เทือกเขาอัสดงสำหรับพวกเขาแล้ว โดยเฉพาะเย่ยู่หยาง นี่ถือว่าเป็นความหวังใหม่ๆ ของเขา

แต่หากเขาเสียชีวิตไปแล้วจริงๆล่ะ

สุดท้ายแล้วจะกลายเป็นการดีใจเก้อ?

เย่จายซิงไม่อยากให้เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น นางสงสัยวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของจวินหยวนที่กล่าวเช่นนี้

“น้องซิง ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้าแน่”

จวินหยวนมองนางเงียบๆ แววตาของเขาลึกลับ น้ำเสียงทุ้มลึก

เขารู้ว่านางกำลังสงสัยในตัวเขา

มือของลั่วกูหยุนสัมผัสคาง ลูกตาของเขาเคลื่อนไปมาระหว่างทั้งสองคน

วันนี้เป็นวันที่หาได้ยากยิ่ง เพราะโดยปกติแล้ว คนที่กล้าสงสัยในตัวจวินหยวน ป่านนี้จะโดนเขารวบตัวออกไปให้หมาขย้ำเรียบร้อยแล้ว มีหรือจะปล่อยให้นางอธิบายต่อ

ดูท่าสำหรับเขาแล้วคุณหนูสี่เย่มีความหมายแตกต่างจากคนอื่นๆ จริงๆ

เย่จายซิงรู้สึกพิศวงอยู่ตลอด เพราะในความทรงจำของร่างเดิม จวินหยวนไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องของคนอื่นและยิ่งไม่ใช่คนที่มีเมตตาแต่อย่างไร เหตุใดถึงปฏิบัติกับตนแตกต่างไปเช่นนี้

เขาให้ความรู้สึกอันตรายต่อผู้พบเห็น ดูอันตรายเสียยิ่งกว่าท่านหวงชุดดำที่นางเจอวันนี้เสียอีก

อย่าเห็นแก่ว่าเขาเรียกตนอย่างสนิทสนมอ่อนโยนว่าน้องซิง แต่น้ำเสียงของเขาไม่มีความแปรปรวณแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่าอันที่จริงแล้วเขาไม่ได้มีความรู้สึกใดจริงๆ

เขาจะต้องมีวัตถุประสงค์บางอย่างแน่

ตนเพิ่งจะออกมาจากถ้ำเสือเองไม่ใช่หรือ ทำไมถึงเข้าไปสู่รังจิ้งจอกอีกได้?

คิ้วของนางโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างไร้เดียงสา แล้วเบิกตากว้างกล่าวว่า “แน่นอนว่าข้าต้องเชื่อเสด็จอาอยู่แล้วเจ้าค่ะ ท่านเป็นเพื่อนของท่านพ่อมาแล้วไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี แล้วจะทำร้ายข้ากับยู่หยางได้อย่างไร ที่ข้าอยากกลับไป เป็นเพราะว่าที่จวนมีเรื่องราวหลายอย่างต้องสะสาง จึงไม่อยากรบกวนเสด็จอาอีก”

โถๆ เปลี่ยนหน้าเร็วยิ่ง

ลั่วกูหยุนแอบคิดกับตัวเองเงียบๆ

เมื่อครู่นี้นางยังทำหน้าระแวดระวังอยู่เลย ทำไมตอนนี้เปลี่ยนหน้าเป็นเชื่อใจเสียแล้ว

ไม่มีเรื่องร้อนใจเรียกท่านอ๋อง พอมีเรื่องร้อนใจเรียกเสด็จอา เด็กคนนี้เป็นคนเปลี่ยนแปลงเก่งยิ่ง นางแสร้งยอมแพ้เพื่อให้ตัวเองได้ออกไปจากจวนอ๋อง น่าสนใจอย่างยิ่ง มิน่าจวินหยวนถึงสนใจนาง

เมื่อถูกเรียกราวกับอายุเยอะเช่นนี้ จวินหยวนจึงขมวดคิ้ว “ข้าอายุมากกว่าเจ้าแค่หกปีเอง”

อายุเพิ่งจะ 22 ปี?

ดูไม่เหมือนเลย ท่าทางของเขาดูน่ากลัว สงสัยจะถูกเลี้ยงดูมาท่ามกลางผู้อาวุโสมาเป็นเวลานานหลายปี

“เสด็จอาดูยังเป็นหนุ่มแน่นอยู่เลย ไม่ทราบว่าเสด็จอาเกิดวันไหนหรือเจ้าคะ ถึงตอนนั้นข้ากับยู่หยางจะต้องเอาของขวัญมามอบให้เสด็จอาอย่างแน่นอน”

นางตอบพลางยิ้มหน้าบาน

“เจ้าไม่ต้องพูดอ้อมค้อมเรื่องอื่นอยู่ วันนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ากลับ”

จวินหยวนมองนางพลางกล่าวเรียบๆ

เย่จายซิงกัดริมฝีปากด้วยท่าทางปกติ “เหตุผลล่ะเจ้าคะ”

“ไม่มีเหตุผล”

จะไม่มีเหตุผลได้อย่างไร ทุกเรื่องล้วนมีเหตุผล เขาพูดแบบนี้แสดงว่าไม่ยินดีบอกเหตุผล

นางรู้ดีว่าหากเขาเอ่ยปากแล้ว วันนี้ต่อให้นางมีปีกก็ไม่สามารถบินหนีออกจากจวนอ๋องได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา