เสียงของคนคนนั้นก็คือเย่เจียหยู นางตะโกนเรียกอ๋องเซ่อเจิ้งเอาไว้เพื่อคิดจะรั้งเย่จายซิงเอาไว้
แต่นางกลับพูดอะไรไม่ออก อ๋องเซ่อเจิ้งหันหน้ากลับมา เขาจ้องนางด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก ทันใดนั้นนางจึงพูดอะไรไม่ออกอีก
จนกระทั่งเห็นกิเลนบินจากไปและองครักษ์ลับที่เคลื่อนไหวราววิญญาณหายตัวไปแล้ว แต่ทุกคนยังคงตกอยู่ในภวังค์
อ๋องเซ่อเจิ้งกลับมาแล้ว เมืองหลวงกำลังจะผลัดแผ่นดินอีกครั้ง
เย่เจียหยูขาอ่อนทรุดลงกับพื้น นางรู้สึกราวกับตัวเองออกจากปรโลกแล้วกลับมาสู้โลกมนุษย์อีกครั้ง
แผ่นหลังของนางมีเหงื่อเย็นๆ ผุดออกมา
นางกัดฟันแน่น ในใจของนางเกลียดแค้นเย่จายซิงอย่างที่สุด นางแอบกล่าวคำสาบานว่าจะต้องทำให้เย่จายซิงรู้สึกตายทั้งเป็น เพื่อล้างความอับอายของตนในวันนี้
……
เย่จายซิงหมดสติไปบนหลังกิเลน
ร่างของเจ้าของร่างเดิมหมดแรงไปนานแล้ว แต่เป็นตัวนางเองที่พยายามฝืนทนต่อมา
นางเรียกอสูรมาก็ยิ่งทำให้นางเสียแรงไปมาก ทั้งยังต้องรับพลังอันน่าหวาดกลัวของท่านหวงอีก ร่างกายของนางแทบจะทนต่อไปไม่ไหว ต่อมานางยังสังหารเถ้าแก่หอยาเสวียนอีก นี่เองทำให้แรงของนางหมดสิ้น
“นางทนจนถึงตอนกลับจวนได้ น่าอัศจรรย์ยิ่ง”
ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเห็นเย่จายซิงก็อดเอ่ยปากชมไม่ได้ เขาก็คือลั่วกูหยุนหมอเทวดาอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงทั้งแดนใกล้ไกลไปทั่วทั้งแผ่นดินเทียนเหย้า มีสมญานามว่า หมอเทวดาลั่ว ว่ากันว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงปรมาจารย์กลั่นยาเท่านั้น แต่ยังเป็นนายน้อยแห่งตระกูลลั่วหนึ่งในตระกูลใหญ่ของเฉินตู
“พี่สาวของข้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”
เย่หยูหยางกล่าวถามอย่างร้อนรน ใบหน้าของหนุ่มน้อยคนนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ใจ
“สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าเมื่อมีหมอเทวดาอย่างข้าอยู่ ข้ารับรองว่านางจะต้องปลอดภัยไร้กังวลแน่นอน”
ลั่วกูหยุนกล่าวอย่างคุยโว
“อย่าเอาแต่พูดเพ้อเจ้อ”
สีหน้าของจวินหยวนเย็นชา
“ไม่เคยเห็นท่านพาสตรีกลับมาเลย วันนี้ข้าประหลาดใจอย่างยิ่ง โถๆๆ วางใจเถิด ข้าลงมือเองนับว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว”
ลั่วกูหยุนพูดไม่หยุดราวกับคนป่วยระคายคอ พลางหยิบเข็มทองออกมา
“ถอยไปให้หมด ข้าจะฝังเข็มแล้ว ลองได้ฝังเข็มนี้ลงไปแล้ว รับประกันได้เลยว่าคืนนี้นางจะต้องตื่นขึ้นมาอย่างแน่นอน”
ระหว่างพูดเขาก็นำเข็มทองฝังลงไปกลางศีรษะของเย่จายซิง
ในเวลาเพียงชั่วครู่นั้นเอง มือเรียวบางก็ยกขึ้นมาแล้วจับข้อมือของลั่วกูหยุนเอาไว้แน่น
“เจ้าทำอะไรน่ะ!”
มีไอสังหารออกมาจากเย่จายซิง แววตาของนางมืดครึ้มหนาวเหน็บ
“โอ๊ย! แม่นางคนนี้ทำไมแรงถึงเยอะนัก มือของหมอเทวดาอย่างข้าจวนจะหักแล้ว”
ลั่วกูหยุนร้องโวยวาย เขาเริ่มเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่แล้ว เมื่อครู่นี้เขายังพูดอยู่เลยว่าคืนนี้นางจะฟื้น แต่สุดท้ายนางกลับฟื้นขึ้นมาในตอนนี้
“น้องซิง เขากำลังทำการรักษาให้เจ้าอยู่”
จวินหยวนเปลี่ยนจากเสียงเย็นชาที่ใช้พูดกับลั่วกูหยุนเมื่อครู่นี้ มาเป็นเสียงทุ้มลึกอ่อนโยนในลำคอ
เขาผลักลั่วกูหยุนออกไปแล้วนั่งลงบนเตียงพลางถามนางว่า “ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง”
“ดีขึ้นมากแล้ว ข้าแค่รู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรงเท่านั้น แต่บาดแผลบนร่างกายไม่มีอะไรต้องกังวล”
เมื่อเห็นเขา นางจึงรู้สึกตัว นางไม่ได้อยู่ในยุคปัจจุบัน แต่ย้อนมายังแผ่นดินเทียนเหย้าแล้วจริงๆ และกลายเป็นคุณหนูสี่ไร้ประโยชน์จากจวนเย่ของแคว้นหงส์แดง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นเพียงจินตนาการ
“เหลวไหล อวัยวะภายในของเจ้าบอบช้ำ ยังบอกว่าไม่เป็นไรอีกหรือ บาดแผลของเจ้าอย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลารักษาอย่างน้อยสิบวันถึงครึ่งเดือน เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะมียารักษ์จิตระดับ 5 ยาที่คุณภาพต่ำกว่านี้ไม่สามารถรักษาบาดแผลของเจ้าได้”
ลั่วกุหยุนลูบข้อมือพลางกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง
“ข้าไม่มียารักษ์จิตระดับ 5 “
เย่จายซิงกล่าว
“เช่นนั้นเจ้าก็รักษาให้ดี……”
“ข้ามี……”
ลั่วกูหยุนกับจวินหยวนกล่าวพร้อมกัน และในเวลาเดียวกันนั้นเอง มือของเย่จายซิงก็ปรากฏยาสีเขียวออกมา “แต่ข้ามียารักษ์ทิพย์ขั้น 5”
ทั้งสองคนหยุดพูดทันที
“นี่คือยารักษ์ทิพย์ที่สูญหายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ เป็นไปไม่ได้”
สีหน้าของลั่วกูหยุนตื่นตะลึง พลางมองไปที่เม็ดยาที่อยู่ในมือของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...