บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 278

วันรุ่งขึ้น โม่เสิ่นยวนพาเย่จายซิงเข้าวัง

ฮ่องเต้คิดว่าโม่เสิ่นยวนพาเย่จายซิงมาขอความเมตตา จึงรับสั่งหน้านิ่งไปว่า ไม่อยากพบทั้งสองคน

เมื่อวานหลังจากหลิวอิ๋งกลับวังมา ก็ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลเล่าเรื่องที่ตนประสบมาจากหอไป๋เป่า ทำให้ฮ่องเต้กริ้วจัด รับสั่งให้ปิดถนนตรงหอไป๋เป่าสายนั้นทันที ซ้ำยังปิดแบบไม่มีกำหนด ไม่เพียงไม่ให้หอไป๋เป่าเปิดกิจการ ห้างร้านอื่นๆ ก็พลอยติดร่างแหไปด้วย

ที่ฮ่องเต้รับสั่งปิดคือถนนทั้งแถบ ไม่ใช่หอไป๋เป่า ทุกคนรู้ว่าที่ฮ่องเต้มุ่งเป้าคือหอไป๋เป่า แต่กลับใช้เหตุผลอ้างว่าถนนสายนี้มีหัวขโมยแทน ใครก็ไม่กล้าพูดว่าฮ่องเต้ระบายความโกรธแทนองค์หญิงหลิวอิ๋ง

แต่ทุกคนรู้สึกได้อย่างชัดเจนเป็นที่สุดว่า ความรักใคร่เอ็นดูที่ฮ่องเต้มีต่อองค์หญิงนั้น เข้าขั้นเสียผู้เสียคนแล้ว

องค์จักรพรรดิผู้สูงศักดิ์ ไม่แยกดำขาว ชื่อเสียงที่สั่งสมมาทั้งชีวิตป่นปี้ เพราะธิดาองค์เดียว

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฮ่องเต้ถึงไม่ทรงโปรดเย่จายซิง มีความเป็นไปได้สูงมากว่าองค์หญิงหลิวอิ๋งจะคอยขัดขวาง

ฮ่องเต้รู้ว่ามีคนซุบซิบนินทาเขาเช่นนี้ แต่ด้วยความรักและถนุถนอมที่มีต่อธิดา เขาไม่ถอนคำสั่ง การที่สามารถระบายความโกรธให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนได้ ปิดถนนสายหนึ่งจะนับว่าเป็นอะไรไป

หยิงเอ๋อร์คือธิดาที่เขารักมากที่สุด หากไม่ใช่เพราะแคว้นเทพมังกรไม่เคยมีจักรพรรดินีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ไม่แน่ว่าในภายภาคหน้าเขาอาจมอบตำแหน่งกษัตริย์ให้นางก็เป็นได้

แต่น่าเสียดายที่นางไม่ใช่บุรุุษ

คิดๆ ดูแล้ว ฮ่องเต้ก็ขมวดคิ้วมุ่น เจ็บใจที่คนผูกพันธะกับมังกรเขียวไม่ใช่หยิงเอ๋อร์ แต่เป็นโม่เสิ่นยวน หากหยิงเอ๋อร์สามารถผูกพันธะกับอสูรเทพแคว้นเทพมังกรได้ แล้วการจะได้เป็นจักรพรรดินีคนแรกในประวัติศาสตร์จะเป็นเรื่องยากอะไรอีก?

“ไล่พวกมันให้ไสหัวออกไปจากวังซะ ข้าไม่อยากพบพวกมัน”

ฮ่องเต้เอ่ยเสียงเย็น

ตามความคิดของเขา ต้องปิดถนนสายหนึ่งอย่างน้อยหนึ่งปีครึ่ง ไม่อย่างนั้นจะคลายความแค้นหยิงเอ๋อร์ได้อย่างไร?

โม่เสิ่นยวนกับเย่จายซิงจะมายอมจำนนเอาตอนนี้ ก็สายเกินไปแล้ว

แต่เขาไม่รู้เลยว่า ทั้งสองไม่ได้เข้าวังมาเพื่อยอมจำนนอย่างที่กล่าวไว้ แต่มาดูเรื่องสนุกสนานต่างหาก

เขาจะพบหรือไม่พบพวกเขา ก็ไม่มีผลใดๆ กับพวกเขา

สำหรับถนนใหญ่ที่ถูกปิดกั้นไปนั้น ล้วนเป็นเรื่องเล็ก รอถึงตอนกู่ในร่างของหลิวอิ๋งตาย แม้แต่ความความรักในฐานะพ่อลูกก็จะมลายหาย ถึงตอนนั้น ฮ่องเต้จะตาสว่างต่อเรื่องราวของหลิวอิ๋งแน่

การปิดถนนส่งผลในด้านลบ ฮ่องเต้ตาสว่างเมื่อไร จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ยื้ดเยื้อต่อไปอีกแน่นอน

โม่เสิ่นยวนพาเย่จายซิงเดินชมสวนดอกไม้ในวัง ขณะนั้นเป็นตอนที่น้ำค้างจะตกไม่ตกแหล่ ไอหมอกลอยล่อง กลีบผกาบานสะพรั่งภายใต้แสงอัสดง ล้วนแข่งกันอวดความงดงามน่าชม ผึ้งทิพย์และผีเสื้อทิพย์บินว่อนไปมา

สวนดอกไม้ในวังนั้นต่างออกไป ด้านในมีบุปผาทิพย์มากมายที่เย่จายซิงล้วนยังไม่เคยเห็น มวลดอกไม้สีสันสดใส มองจนนางตาพร่า

“หากดอกไม้เหล่านี้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่เลวร้าย ที่อื่นเลี้ยงไม่รอด เนื่องจากใต้วังเทวมีเส้นเลือดมังกรอยู่ จึงสามารถเห็นดอกไม้แปลกๆ เหล่านี้ได้”

โม่เสิ่นยวนอธิบายให้นางฟัง

พอพูดถึงเส้นเลือดมังกร เย่จายซิงก็นึกไปถึงคำพูดของเจ้าไป๋ หากมีเส้นเลือดมังกร ต้นผู่ถีเซิ่งและต้นไม้ตายที่สงสัยว่าจะเป็นต้นเทวเบิกนภาในห้วงกาลเวลาของนางก็จะโตเร็วขึ้น ทั้งยังสามารถออกดอกออกผลได้เร็ววันด้วย

ผลผู่ถีเซิ่งจะทำให้อายุของเสด็จอาเพิ่มขึ้น

แต่ความคิดนี้เป็นเพียงสิ่งที่แวบเข้ามาในหัวนางเท่านั้น นางไม่เคยคิดวางแผนเรื่องเส้นเลือดมังกรของแคว้นเทพมังกรแต่อย่างใด

……

หลิวอิ๋งนอนพลิกตัวไปมา ทรมานทั้งคืน

นางรู้สึกว่าตัวเองถูกยียวน นอกจากโมโห ยังเสียใจด้วย

กระทั่่งตอนนี้นางยังคิดไม่ตก เหตุใดเสด็จพี่ถึงทำกับนางเช่นนี้ เหตุใดจิตใจของบุรุษคนหนึ่งบอกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้เลย?

กระดาษที่เขียนกลอนรักหลายแผ่นเหล่านั้น เขาตั้งใจทำตกที่ที่เราชอบไปบ่อยๆ เขาเป็นคนแสดงความรู้สึกกับเราก่อน

หลายปีที่ผ่านมานางทุกข์ใจมาโดยตลอด คิดว่านี่คือความรักต้องห้าม

แต่แล้วทำไมกัน เมื่อนางทำให้ทุกอย่างกระจ่างว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเขา เขาและนางก็สามารถแอบอยู่ด้วยกันเงียบๆ ได้แล้ว แต่เขากลับเปลี่ยนใจไปแล้ว

นางเกลียดชังเย่จายซิงยิ่งนัก หากเย่จายซิงไม่เข้ามาสอด เสด็จพี่จะทำตัวหางเหินกับนางถึงเพียงนี้หรือ?

“ซี๊ด ใจข้าเจ็บยิ่งนัก!”

จู่ๆ หลิวอิ๋งก็เอามือกุมหัวใจ ส่งเสียงเจ็บแสบออกมาเบาๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา