“จะโทษเจ้าได้อย่างไร? ฮองเฮาไม่ต้องโทษตัวเอง เป็นหยิงเอ๋อร์ที่ไม่เอาไหน วันทั้งวันเอาแต่สร้างปัญหา”
ฮ่องเต้ประคองฮองเฮาที่กำลังคุกเข่าให้ยืนขึ้น พร้อมเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน
หลิวอิ๋งได้ยินคำนี้ ก็แทบจะกระอักเลือดคำใหญ่ออกมา
เมื่อวานเสด็จพ่อเพิ่งจะพูดกับเราไปแท้ๆ ว่าเราคือลูกที่เขารักที่สุด ไม่ว่านางจะทำอะไร ก็จะหนุนนำนางทุกอย่าง
เพื่อระบายความโกรธให้นาง ยังปิดถนนตรงหอไป๋เป่าสายนั้นทั้งสาย
ยังบอกอีกว่าต่อไปจะหาอสูรเทพมาให้นางผูกพันธะ ไม่ต้องให้นางไปอิจฉาอสูรเทพของเย่จายซิง
วันนี้ดันกลับกลายเป็นว่า นางเอาแต่สร้างปัญหาไปวันๆ!
นางลนลาน จิตใจลนลานไปหมดแล้ว
เสด็จพ่อเปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นทำให้นางรู้สึกไม่คุ้นเคย ยังแอบรู้สึกกลัวนิดๆ ด้วย เสด็จพ่อที่เข้มงวด ช่างน่ากลัวพอตัวจริงๆ
จากไข่มุกบนฝ่ามือ กลายเป็นไม่ได้รับความรักในทันใด ช่องว่างในจิตใจของหลิวอิ๋งนั้นกว้างแบบไม่ธธรรมดา
นางรับไม่ได้ ดวงตามมองไปยังเสด็จแม่ของตนเองอย่างขอความช่วยเหลือ
โชคยังดีที่ท่าทีของเสด็จพ่อที่มีต่อเสด็จแม่ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่นิด ไม่เช่นนั้นคงจะเลวร้ายมากจริงๆ
“ฝ่าบาท ต่อไปหม่อมฉันจะอบรมหยิงเอ๋อร์ให้ดีๆ แน่นอนเพคะ หยิงเอ๋อร์ก็แค่มีนิสัยไร้เดียงสาไปหน่อย ไม่ได้มองว่าพระองค์คือจักรพรรดิ แต่มองว่าพระองค์คือพ่อทั่วๆ ไปคนหนึ่ง พระองค์อย่าได้ถือสาเลยนะเพคะ”
ฮองเฮาพูดกับฮ่องเต้เสียงนุ่มนวล
ฮ่องเต้พยักหน้า:
“ข้าเข้าใจ ข้าก็ไม่ได้จะเพ่งเลงหยิงเอ๋อร์หรอก แต่เรื่องที่หยิงเอ๋อร์ทำช่วงนี้สร้างความโกรธเคืองให้ราษฎรมาก ด้านสมาคมผู้ฝึกตนวิจารณ์หยิงเอ๋อร์หนักมาก ว่าข้าตามใจนางเกินไป ทำให้นางเหิมเกริมไม่ค่อยรู้ความ เอาอย่างนี้ กักบริเวณนางครึ่งเดือนไปก่อน ถือเป็นการให้คำอธิบายแก่สมาคมผู้ฝึกตนและราษฎรด้วย”
หลิวอิ๋งเบิกตาโตาราวกับไข่ห่าน
เหตุใดสุดท้ายถึงยังต้องกักบริเวณนางอีก!
แล้วต่อไปเวลาอยู่ข้างนอก นางจะยังเงยหน้าอยู่ได้อย่างไร
ฮองเฮาแววตาสาดประกาย รู้แล้วว่าฮ่องเต้ต้องการระงับความโกรธเคืองที่โลกภายนอกมีต่อหลิวอิ๋ง นางพยักหน้าอย่างนุ่มนวล:
“พระองค์กล่าวถูกต้อง กระทำความผิดแล้ว ก็ต้องได้รับโทษ ให้หยิงเอ๋อร์ได้รับบทเรียนระยะยาว”
“ฮองเฮายังคงรู้ความมากล้น”
ฮ่องเต้พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเรียกคนให้ส่งหลิวอิ๋งกลับไปยังตำหนักของนาง หากไม่ได้รับอนุญาตก็ห้ามก้าวขาออกมาแม้แต่ก้าวเดียว
เย่จายซิงยิ้มเยาะมุมปาก
ดูแล้วฮ่องเต้ยังมีความรักต่อหลิวอิ๋งอยู่ แม้จะไม่ได้พะเน้าพะนอเหมือนเมื่อก่อน แต่เมื่อเทียบกับเสด็จอา หลิวอิ๋งยังดีกว่ามาก
ก่อเรื่องใหญ่โต่ให้ทางสมาคมผู้ฝึกตนเพียงนั้น สร้างเรื่องน่าเกลียดขนาดนั้น ยังให้กักบริเวณแค่ครึ่งเดือนเอง
แต่พอเป็นเช่นนี้ ทุกคนในใต้หล้าก็จะรู้เรื่องที่หลิวอิ๋งทำผิดและโดนกักบริเวณ
“เสด็จพ่อ! เสด็จพ่อ ลูกผิดไปแล้ว ท่านไม่กักบริเวณลูกได้หรือไม่?”
นางยังมีเรื่องต้องทำอีกมากมาย จะมากักบริเวณนางได้อย่างไร
อีกอย่างนางไม่อยากให้คนในใต้หล้าหัวเราะเยาะนางด้วย
ฮ่องเต้ตีหน้าขรึม
ฮองเฮารีบเอ่ยว่า:
“หยิงเอ๋อร์ เชื่อฟังสิ ทำความผิดก็ต้องกล้ารับผิด”
หลิวอิ๋งกัดริมฝีปาก สุดท้ายไม่กล้าพูดอะไรมากอีก แล้วเดินตามองครักษ์ออกไป
ก่อนออกไป นางฉวยจังหวะที่เสด็จพ่อไม่ได้มองนาง ถลึงตาค้อนใส่เย่จายซิง
นางคิดว่าเย่จายซิงต้องกำลังเล่นอุบายอยู่แน่ ที่ใดมีเย่จายซิงปรากฏตัว จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเสมอ
เย่จายซิงคือศัตรูตัวฉกาจของนางขนานแท้
นางเกลียดนัก เสด็จพี่เห็นเราถูกลงโทษ ไม่เพียงไม่ช่วยเหลือเรา แม้แต่สายตายังไม่แลเราเลยแม้แต่น้อย
“ทำยังไงดี? ทำไมทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปหมด?”
นางร้องตะโกนอยู่ในใจ จิตใจกระวนกระวายไม่เป็นสุข
พอหลิวอิ๋งไปแล้ว ไม่รอให้ฮ่องเต้พูดอะไร โม่เสิ่นยวนก็จืบมือเย่จายซิงเตรียมจะกลับ
ดูเรื่องสนุกพอแล้ว
หากยังไม่ไป จะให้อยู่กินกินข้าวรึ?
“เจ้ายวนกับเย่จายซิงจะกลับแล้วหรือ? เหตุใดไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเล่า?”
ฮองเฮาส่งเสียงรั้งไว้ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...