บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 313

สำนักเฉียนคุน เป็นเพียงสำนักเล็กๆ ที่ไม่ได้เด่นดังอะไร แม้ว่าจะเป็นสำนักที่สืบทอดมายาวนานหลายหมื่นปี ช่วงแรกๆ ก็เคยรุ่งโรจน์มาก่อน

แต่โชคไม่เข้าข้าง นับวันสำนักก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ บรรดาหัวหน้าอาวุโสต่างล้มเหลวไม่เป็นท่า การสืบทอดเลยขาดช่วงไป สุดท้ายมีจำนวนคนเหลืออยู่เพียงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดคนรวมคนทำความสะอาดแล้วด้วย

ทุกปีจะมีเพียงเดือนเดียวเท่านั้นที่เป็นช่วงเวลารับศิษย์ ปัญหาหลักคือไม่มีใครยอมเข้ามาเป็นศิษย์ของสำนักเฉียนคุน

ที่นี่คือ เมืองยวี่หลัวใน หนานโจว ซึ่งอยู่ใต้สุดของแผ่นดินใหญ่ของเวหาทิพย์ พลังไม่ถือว่าอุดมสมบูรณ์ ทรัพยากรก็ไม่เพียงพอ เป็นเพียงเมืองเล็กๆ ในเมืองยวี่หลัวเท่านั้น แต่กลับมีถึงสามสำนัก

ในบรรดาสามสำนัก สำนักเฉียนคุนเป็นสำนักที่ด้อยที่สุด ดังนั้นเลยไม่มีใครเลือกที่จะเข้ามาเป็นศิษย์ในสำนักนี้

ซึ่งก็เป็นเช่นนี้มานานแล้ว ผู้คนนับวันจึงยิ่งเหลือน้อยลงเรื่อยๆ

ไม่นานมานี้พรรคเทียนฉาน หนึ่งในสามสำนักนั้นก็ปรากฏคนที่มีพรสวรรค์ขึ้น ซึ่งสำนักใหญ่ที่เซียนเฮอก็ได้เห็นถึงพรสวรรค์นี้ เลยให้ทรัพยากรจำนวนหนึ่งชดเชยให้แก่ พรรคเทียนฉาน และช่วยผลักดันให้ พรรคเทียนฉาน กลายเป็นสำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่ง หนานโจว

สำหรับสำนักพรรคเทียนฉาน เนื่องจากมีข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่อง นาทิพย์ พวกเขาได้จัดการกับสำนักเฉียนคุนมาหลายร้อยปีแล้ว และทำการปราบปรามไปทุกหนทุกแห่ง

คาดไม่ถึงว่าในที่สุดตอนนี้ พรรคเทียนฉานก็บุกมาถึงที่นี่แล้ว!

แต่หัวหน้าลืมใช้ค่ายกลคุ้มครองภูเขา เพราะสายตาของเขามัวแต่จับจ้องไปที่ใบหน้าของเย่ยู่หยาง จนเคลิ้มไปอยู่ครู่หนึ่ง

นี้มัน นางฟ้าที่ไหนเนี่ย แต่เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมนางฟ้าองค์นี้ถึงได้ใส่ชุดแต่งงานล่ะ?

“โครม!”

เสียงดังกึกก้อง

ค้อนขนาดใหญ่ตกลงมาจากฟากฟ้า กระแทกเข้ากับประตูภูเขา จากนั้นก็ได้ยินเสียงแตก ประตูภูเขาแยกออกเป็นสองท่อนและหล่นลงบนพื้น

“ท่านหัวหน้าอาจารย์ ทำไมท่านไม่เปิดค่ายกลคุ้มครองภูเขาล่ะ!”

เย่เส้า ชายหนุ่มที่พาเย่จายซิงมาเมื่อครู่นี้ปิดหน้าและพูดขึ้น

“เหอะเหอะ ข้าลืมตัวไปหน่อยหน่ะ”

พูดจบ หัวหน้าก็รีบเปิดค่ายกลคุ้มครองภูเขา จากนั้นม่านแสงก็ปกคลุมไปทั่วทั้งสำนัก

ทุกคนต่างโล่งใจขึ้นมาบ้าง

เย่เส้า พูดกับเย่จายซิงว่า

“เจ้าไม่ต้องกลัวนะ สำนักของข้าเก่งกาจมาก ครั้งที่แล้วพรรคเทียนฉานไม่สามารถบุกเข้ามาได้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน”

“ถูกต้อง มีหัวหน้าอย่างข้าอยู่ ต้องคุ้มครองทุกคนให้ปลอดภัยได้อยู่แล้ว”

เย่ยู่หยางกะพริบตา คิดในใจว่า เก่งขนาดไหนล่ะแม้แต่ป้ายสำนักยังโดนคนทุบได้อยู่เลย?

เสียงของหัวหน้าเบาลง ม่านอาคมที่จัดขึ้นเมื่อครู่ก็พังทลายลง

ผู้คนเคอะเขินราวกับว่าบนหัวมีอีกาบินผ่านมาหนึ่งแถว

“ทุกคนในสำนักเฉียนคุน วางอาวุธและมอบตัวซะ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเจ้าจะเป็นทาสของพรรคเทียนฉาน หากใครขัดขืน จะฆ่าให้ตายไม่เว้นแม้แต่ลูกเด็กเล็กแดง!”

หลังจากทำลายม่านอาคมแล้ว ผู้คนหลายร้อยคนก็กรูกันเข้ามา นำโดยชายวัยกลางคนท่าทีเย็นชา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยโสโอหัง

“พูดจาไร้สาระ!เอาอะไรมาบอกให้พวกข้าเป็นทาสของพรรคเทียนฉานอย่างพวกเจ้า!ท่านอาวุโสหลิว เจ้ารนหาที่ตายซะแล้ว!”

หัวหน้าโกรธมาก จนพูดคำหยาบคายออกมา แถมยังถ่มน้ำลายอีกด้วย

“หยุดพูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขาได้แล้ว ท่านอาวุโสใหญ่ ฆ่าพวกเขาให้หมด แบบนี้นายาก็จะกลายเป็นของสำนักเราทั้งหมดแล้ว”

ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ท่านอาวุโสหลิว ผู้ที่สวมมงกุฎอยู่บนศีรษะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกเหยียดหยาม

เขาเป็นลูกของหัวหน้าสำนักพรรคเทียนฉาน

“สำนักเฉียนคุน เป็นเพียงสำนักเล็กๆ ไม่ควรจะเก็บเอาไว้ตั้งนานแล้ว”

เขาพูดด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา เขาไม่เคยเห็นคนของสำนัก สำนักเฉียนคุนอยู่ในสายตาเลย

การบำเพ็ญตนของเจ้าสำนักเหยียนเวย เทียบได้กับการบำเพ็ญตนช่วงสุดท้ายของแดนราชาทิพย์ ยังแข็งแกร่งไม่เท่าศิษย์บางคนในสำนักด้วยซ้ำ ไม่นึกเลยว่าจะได้เป็นถึงเจ้าสำนัก พูดไปก็อยากจะหัวเราะให้ฟันหลุด

“จงรุ่ยฉี!ถ้าเก่งนักเจ้าออกมาตัวต่อตัวกับข้า!รังแกแต่ผู้น้อยจะนับว่ามีความสามารถอะไร!”

เย่เส้ากำหมัดและเดินไปข้างหน้า เขาทนดูความพินาศของสำนักต่อไปไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา