สายตาของเทพธิดากู่หลิงหยุดอยู่บนใบหน้าของโม่เสิ่นยวน ยากที่จะทอดถอนอยู่เนิ่นนาน
สิ่งใดที่เรียกว่ารักข้ามพบเพียงสบตา ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้ว
บุรุษเช่นนี้ หญิงสวยแต่รูปจูบไม่หอมคนใดก็ไม่อาจคู่ควรกับเขา มีเพียงลูกรักสรวงสวรรค์อย่างตนเท่านั้นถึงจะยืนเคียงข้างเขาได้
นางระงับความชั่วร้ายอันไม่ทราบสาเหตุในส่วนลึกของหัวใจลงไป ก่อนจะคลี่ยิ้ม แล้วยกเท้าเดินไปทางโม่เสิ่นยวน
นางมั่นใจ หากชายผู้นี้เห็นนาง ก็คงจะพอๆ กับได้เห็นนางฟ้านางสวรรค์นั่นแหละ ต้องทราบก่อนว่า รูปโฉมของนาง ทั่วหล้าปฐพีนี้ ก็อยู่เป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น นางคือพระธิดาแห่งแคว้นกู่โหมว เป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ผู้เลื่องชื่อในแผ่นดินหลิงเซียว ไม่ใช่หญิงงามไร้หัวนอนปลายเท้าอันใด หากแต่เป็นดวงจันทร์ลอยเด่นเป็นสง่าอยู่บนฟากฟ้า
นางสงสัยไปถึงขั้นที่ว่า เขามาที่แคว้นกู่โหมว ก็เพื่อมาพบหน้านาง
คิดมาถึงตรงนี้ รอยยิ้มบนริมฝีปากก็เบ่งบานสดใสยิ่งกว่าเดิม
หากตนกับเขาสามารถครองคู่กันได้ ให้ขัดคำสั่งท่านพ่อเพื่อเขา ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้
"เทพธิดากู่หลิง ท่านมาทำอะไรอีก?"
เสวียนหยวนป๋ายและคนอื่นๆ เห็นเทพธิดากู่หลิงเดินเข้ามา ต่างพากันหมดสนุก น้ำเสียงพาลแข็งกระด้างเล็กน้อย
เทพธิดากู่หลิงไม่สนใจพวกเขา มองเพียงโมเสิ่นยวน เทียบกับโม่เสิ่นยวนแล้ว พวกเขานับว่าไม่มีอะไรเลย
ทว่าผ่านไปชั่วพริบตา รอยยิ้มบนมุมปากของนางก็ชะงักค้างไป
เพราะนางเหลือบไปเห็นสตรีนางหนึ่งข้างกายบุรุษผู้นั้นหันหน้ากลับมามองนาง
สตรีนางนั้นขาวนวลราวกับหยก ทั่วทั้งร่างคล้ายกับส่องแสง และดวงหน้านั้นยิ่งหมดจดไร้ที่ติ งดงามเสียจนพาให้ผู้หญิงทุกคนล้วนนึกละอายใจ
เมื่อเห็นนาง เทพธิดากู่หลิงพลันสัมผัสได้ถึงความงามสะเทือนสวรรค์ชั้นฟ้าเหมือนตอนพบองค์หญิงหงสาครั้งแรกในทันใด ไม่ใช่ว่าพวกนางหน้าตาเหมือนกันเพียงใด แต่สง่าราศรีเหนือสามัญชน คล้ายกันราวกับถอดแบบออกมา งดงามจนชวนให้นึกอัศจรรย์ใจ
เทพธิดากู่หลิงตะลึงงัน รู้สึกเกลียดชังสตรีนางนี้เข้าไส้โดยไม่รู้ตัว
จากนั้น นางก็เห็นบุรุษรูปงามดุจเทพบุตรตกสวรรค์ผู้นั้นวางมือบนหว่างเอวของสตรีนางนั้น กระซิบกับนางอย่างอ่อนโยน ไม่รู้ว่าพูดอะไร สายตาที่หญิงผู้นั้นมองนาง ดูแฝงแววล้อเลียนเล็กน้อย
นางอึ้งจนตาแตก
พวกเขาเป็นคู่รักกันอย่างนั้นหรือ?
ความในใจของตนที่เพิ่งก่อตัวขึ้นมาเมื่อครู่ เสมือนเปลวไฟลูกหนึ่งปะทะเข้ากับน้ำ ถูกสาดจนดับมอดไม่มีเหลือ
นางทำใจไม่ได้อย่างรุนแรง ใช่ว่านางจะถูกใจชายสักคนที่คู่ควรกับนางได้ง่ายๆ แต่เขากลับคบหากับหญิงอื่นไปแล้วเสียนี่
แล้วรูปโฉมของหญิงผู้นั้น ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่านางเลยสักนิด
เย่จายซิงสังเกตเห็นเจตนามุ่งร้ายยื่งยวดจากแววตาของเทพธิดากู่หลิงแล้ว เจ้าวิหคเพลิงน้อยที่กำลังจัดแต่งขนอยู่บนชายคาก็บอกนางเช่นกัน ว่าเทพธิดากู่หลิงมีเจตนามุ่งร้ายต่อนางอย่างเต็มเปี่ยม
ลิขิตสวรรค์นี่มันน่าทึ่งเสียจริง เทพธิดากู่หลิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางเป็นใคร ก็คิดอยากจะฆ่านางแล้ว
"ที่แท้ก็คือเทพธิดากู่หลิงผู้ยิ่งใหญ่เลื่องชื่อนี่เอง ได้ยินชื่อไม่เท่าได้เห็นหน้า พอมาเห็นแล้ว ก็ไม่เท่าไรเลยนี่"
เย่จายซิงเหยียดยิ้มมุมปาก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา
นางคิดร้ายกับตนรุนแรงเพียงนี้ เช่นนั้นตนก็ย่อมไม่เกรงใจแน่นอน
เทพธิดากู่หลิงได้ยินคำนี้ ก็โกรธจนกำหมัดแน่น เอ่ยเสียงเย็นเฉียบว่า:
"เจ้าเป็นใคร ถึงได้บังอาจมาวิจารย์ข้า คนไร้สกุลรุนชาติเช่นเจ้า แค่ถือรองเท้าของข้ายังไม่คู่ควรเลยด้วยซ้ำ!"
หนานกงจิ่นและคนอื่นๆ พร้อมใจกันขมวดคิ้ว แม้ว่าเย่จายซิงจะเป็นฝ่ายยั่วยุก่อน แต่เทพธิดากู่หลิงพูดเช่นนี้ก็มากเกินไป
อีกอย่างเย่จายซิงก็เป็นสหายของพวกเขา ซ้ำการกระทำของเทพธิดากู่หลิงที่ทุบโต๊ะพังกระจายก่อนหน้านี้ ก็ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าข้างเย่จายซิงกันทุกคน
หนานกงจิ่นเอ่ยว่า: "เทพธิดากู่หลิง ท่านพูดจาระวังปากด้วย สำคัญตัวให้มันน้อยๆ หน่อย!"
"หนานกงจิ่น ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ข้าสำคัญตัวที่ไหนกัน ที่ข้าพูดล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น อีกอย่างข้าก็มีพลังล้ำเลิศ นางเล่า นอกจากหน้าตา ยังมีอะไรอีก?"
เทพธิดากู่หลิงแสยะยิ้ม นางไม่คิดว่าเย่จายซิงจะมีความสามารถอันใด ดูท่าทางอ่อนแอไม่ทนลม คงต้องหลบอยู่แต่ในอกบุรุษร้องขอการคุ้มภัยเสียมากกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...