เย่จายซิงไม่อยากปล่อยเทพธิดากู่หลิงไปง่ายๆ และไม่อยากให้นางรับโทษเบาเกิน ประเดี๋ยวประด๋าวก็ตายแล้ว
นางจึงอยากให้เทพธิดากู่หลิงร่วงหล่นลงมาจากที่สูง พังพินาศจนนางน่าสังเวชดูไม่ได้ จากนั้นค่อยให้คนทั้งใต้หล้าได้รู้ว่า เทพธิดากู่หลิง คือบุตรีนอกสมรสของประมุขตระกูลป๋ายหลี่
กระชากหน้ากากอันน่าขยะแขยงที่แท้จริงของป๋ายหลี่ฮุยออกมา
เมื่อถึงตอนนั้น ผู้นำเผ่าวิหคเพลิงจะต้องไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้อีกอย่างแน่นอน
"ได้ น้องซิงอยากทำสิ่งใด ข้าจะช่วยเจ้าทุกอย่าง"
โม่เสิ่นยวนปัดจมูกนางอย่างรักใคร่ สายตาลึกซึ้ง
เย่จายซิงเห็นสายตานี้ของเขาก็หวาดกลัว รีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะอย่างว่องไว
วันรุ่งขึ้น
หนานกงจิ่นมาแจ้งเย่จายซิงกับโม่เสิ่นยวน บอกว่าภัยอันตรายด้านล่างสุสาน ตระกูลจะส่งคนมาสมทบเพิ่ม
นอกจากนั้น ด้วยการปรากฏตัวของอสูรพิทักษ์สุสาน จึงทำให้ผู้คนยิ่งมั่นใจว่าสุสานแห่งนี้คือสุสานของเซียนสวรรค์ ตอนนี้ตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลล้วนส่งผู้เก่งกาจมากันถ้วนหน้า คงมีความคิดประมาณว่าขอเกาะส่วนแบ่งด้วยคน
เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งวัน คนที่มายังสุสานโบราณเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานเป็นเท่าตัว ล้วนเป็นผู้ฝึกตนพเนจรที่ตามมาจากละแวกนี้ไม่ก็พวกหน้าเลือดเห็นแก่เงินคนอื่นๆ
คนที่ตระกูลใหญ่ส่งมาเหล่านั้น ยังต้องใช้เวลาสองสามวันกว่าจะตามมาถึง
หลังจากหนานกงจิ่นกลับไป เย่จายซิงก็พูดกับโม่เสิ่นยวนว่า:
"เสด็จอา ข้าตั้งใจว่าจะลงไปดูในสุสานหน่อย รอให้คนของตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลมารวมตัวกันแล้ว เราก็ลงไปด้วยกันดีหรือไม่?"
"น้องซิง สุสานข้างล่างอันตรายมากนะ"
โม่เสิ่นยวนมุ่นคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้นางลงไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้น
อีกอย่างนางกำลังมีครรภ์ เวลาใช้พลังทิพย์ต้องไม่ระวังตัวเท่าเมื่อก่อนแน่นอน
"ข้ารู้ แต่ข้าใคร่ครวญหลายรอบแล้ว หากสัมผัสได้ถึงอันตราย ก็จะถอยออกมาทันที ไม่เดินเข้าไปต่ออีก"
นางเล่าเรื่องที่นางคุยกับเจ้าไป๋ให้เขาฟัง หวังให้เขาเห็นด้วย
ใช่ว่านางต้องได้รับความเห็นชอบจากเขาถึงจะลงไปในสุสานได้ แต่นางคิดว่า พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน สามีภรรยาก็ควรเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หากเขาไม่เห็นด้วย นางก็จะไม่ลงไปในสุสาน
ไม่จำเป็นต้องทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นทุกข์เพราะเรื่องนี้
"น้องซิงอยากไปมากเลยหรือ?"
โม่เสิ่นยวนถอนหายใจถามนาง ดวงตาฉายแววจนปัญญา
นางพยักหน้ายิกๆ สองคราราวกับไก่จิกข้าว
ในเมื่อมาแล้ว ตนก็จะไม่ยอมพลาด บางทีอาจเป็นโชคดีก็ได้
"เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะไปกับเจ้าด้วย แต่เมื่อถึงตอนนั้นต้องจับมือข้าไว้แน่นๆ ห้ามปล่อยเด็ดขาด"
โม่เสิ่นยวนเอ่ยอย่างประณีประนอม
สำหรับน้องซิง เขาทำใจเข้มงวดด้วยไม่ไหว ผู้หญิงของตน ทำได้เพียงทะนุถนอม เอาอกเอาใจเท่านั้น
พอนางได้ยิน มุมปากก็ฉีกกว้าง ประการแรกคือดีใจที่ได้ลงไปในสุสาน ประการสองคือมีความสุขกับทัศนคติที่เขามีต่อนาง
เขาเป็นห่วงเป็นใย ไม่บงการ ยิ่งไม่บังคับขู่เข็ญแบบไร้เหตุผลอีกด้วย
บุรุษเช่นนี้ ต่อให้จุดโคมสว่างไสวก็หาเจอไม่ได้ง่ายๆ
นางยิ่งมองก็ยิ่งสุขใจ รู้สึกว่าก่อนหน้านี้สายตาของตนช่างหลักแหลมนัก
…….
ตระกูลใหญ่และสำนักใหญ่แต่ละแห่งส่งคนมายังทะเลทรายยู่ซีไม่ขาดสาย พอเข้าวันที่ห้า บุคคลที่ควรมาก็มารวมกันเกือบครบแล้ว
สุสานโบราณแห่งนี้ถูกค้นพบโดยขบวนพ่อค้าเร่ของตระกูลหนานกง ดังนั้นผู้ที่มา จำต้องให้ตระกูลหนานกงเป็นผู้นำ เมื่อได้เวลา ค่อยลงไปยังสุสานพร้อมกัน
วันนี้แสงแดดยังคงสว่างจ้า สุสานโบราณในตอนกลางวัน กล่าวได้ว่าปลอดภัยกว่าค่อนข้างมาก
เฮ่อจี้ถือเข็มทิศเก่าแก่อันหนึ่งแล้วกระโดดลงไปในหลุมลึก ไม่นานก็เหาะทะยานขึ้นมา
"เฮ่อจี้ คำทำนายวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...