เย่จายซิงลังเลชั่วครู่ ไม่รู้ว่าควรบอกเรื่องที่จวินหยวนเข้าใจผิดหรือไม่
ถ้านางพูดออกไป ก็เหมือนว่านางกลัวเขาจะเข้าใจผิด
แต่หากไม่พูด เขาจะรู้สึกผิดด้วยเรื่องนี้ตลอดไปหรือไม่?
คิดไปคิดมา นางคิดว่าอธิบายดีกว่า
“ไปเถอะ น้องซิง”
อยู่ ๆ เขาก็เดินมายังทางนาง กุมมือนางเอาไว้
นางหดมือเล็กน้อยด้วยสัญชาตญาณ แต่ถูกจวินหยวนกุมไว้แน่นขึ้น
“กินยาทิพย์เม็ดนี้ลงไปเสีย ไอพิษจะได้ส่งผลต่อเจ้าน้อยลง”
ในมือจวินหยวนมียาทิพย์เม็ดสีฟ้าอยู่หนึ่งเม็ด
นั่นเป็นโอสถย์ขั้นหก กลิ่นหอมแตะจมูก ดมแล้วมีกลิ่นเหมือนยาสางจิต เอาไว้กำจัดจิตใจปีศาจโดยเฉพาะ ตัวยาทิพย์ที่ใช้ล้วนล้ำค่า ยากที่จะรวบรวมตัวยาทิพย์ให้ครบเพื่อนำมากลั่นเป็นโอสถคุณค่ามหาศาล
เอามาใช้เลี่ยงผลกระทบจากไอพิษ จะเป็นการใช้วัสดุสิ้นเปลืองไปเปล่า ๆ
“ไม่ต้องหรอกเสด็จอา ร่างกายของข้ามีภูมิต่อไอพิษแล้ว อีกอย่าง เอาให้ข้ากินแล้วท่านจะกินอะไร? สุขภาพของท่านสำคัญกว่า”
ที่นางพูดเป็นความจริง จากการได้ดื่มน้ำค้างทิพย์ ไอพิษส่งผลต่อนางไม่มาก แค่ทำให้นางหลับไปชั่วครู่ พอเข้าไปในไอพิษอีก ก็ไม่ส่งผลอะไรอีกแล้ว
แน่นอน ซึ่งก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการฝึกฌานของนาง คนที่ฝึกฌานจะได้รับผลกระทบจากไอพิษค่อนข้างมาก โดยฌานจะดลระดับลง
นางไม่รู้เหมือนกันว่าเขาหาที่นี่เจอได้ยังไง
“ข้าไม่เป็นไร ลึกลงไปในเทือกเขาไม่ได้มีแค่ไอพิษ ยังมีไอปีศาจไอความชั่วร้ายนานาเป็นต้น เจ้าจงกินยาสางจิตเม็ดนี้ลงไปจะได้ไม่ติดกับ”
เขาเอาโอสถทิพย์ใส่ในมือของนาง ตอนให้นางกินโอสถทิพย์ น้ำเสียงเหมือนทำตัวเป็นใหญ่
พอเย่จายซิงเห็นสภาพ จึงนำโอสถทิพย์มาทำท่าเหมือนจะกิน พอขยับมือ ก็เขย่งปลายขารีบเอาโอสถทิพย์ยัดเข้าไปในปากของเขา
“เสด็จอา ท่านกินดีกว่า เพราะท่านยังต้องคุ้มครองข้าอีก”
โอสถทิพย์เข้าสู่ปากก็ละลายทันที ต่อให้ไม่ละลาย จวินหยวนก็ไม่อาจล้วงออกจากปากเอามาให้นางกินได้ เขาส่ายหัวขำเบา ๆ พูดว่า:
“ข้ายังมีวิธีอื่นที่จะพาเจ้ากลับไป จะกินหรือไม่กินยาเม็ดนี้ก็ไม่ส่งผลเท่าไหร่ คราวหน้าข้าให้เจ้ากินก็จงเชื่อฟังแล้วกินลงไปอย่างว่าง่าย อย่าให้ข้าต้องเป็นห่วง”
ก็จริง เย่จายซิงรู้สึกว่านางตื่นเต้นในร่างกายของเขาเกินไป เขาเป็นพวกชอบวางกลยุทธ์มาแต่ไหนแต่ไร ครั้งนี้หลงกลหลงเฟยหลีเข้า เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจผิดเรื่องอื่นอีก เขาต้องวางแผนทั้งหมดเอาไว้แต่แรกแล้วอย่างแน่นอน
ยังไงเขาก็ยังเป็นอ๋องเซ่อเจิ้งผู้แข็งแกร่ง ทว่า เย่จายซิงรู้สึกลึก ๆ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเขาในการเดินทางมาเทือกเขาอัสดง ใกล้ชิดขึ้นไม่น้อย
แล้วยังเห็นเขาที่ไม่เหมือนเดิม
“ได้ คราวหน้าข้าจะเชื่อฟังเสด็จอา”
นางตอบอย่างยิ้มแย้ม
จวินหยวนเห็นรอยยิ้มจริงใจของนาง อยู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า:
“น้องซิง ตัวยาทิพย์ไม่กี่อย่างที่เจ้าต้องการ ไว้รอกลับถึงเมืองหลวง ข้าจะไปหามาให้เจ้า”
นางแน่นิ่งไปสักพักจึงค่อยตอบสนอง เขาพูดถึงตัวยาทิพย์ที่หลงเฟยหลีให้นาง ที่ถูกเขาฟันจนเป็นผุยผง ตอนนั้นเขากำลังอยู่ในภาวะบันดาลโทสะ กลับสังเกตว่าในนั้นมียาทิพย์อะไรบ้าง!
“ข้าก็สามารถเสาะหาด้วยตัวเองได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาหน่อยเท่านั้น”
นางกุลีกุจอพูด
ติดค้างเขาไว้มากพอแล้ว ภายหน้าต้องชดใช้คืน ไม่เช่นนั้นต่อไปจิตใจนางคงไม่เป็นสุข
หากยังติดค้างต่อไป เกรงว่านางต้องเอาตัวใช้หนี้แล้ว
เขาเงียบไปสักพักจึงพูดว่า:
“มียาทิพย์อยู่สองตัว ไม่ใช่ว่าเจ้าใช้เวลานิดหน่อยก็จะหาเจอ น้องซิง อย่าปฏิเสธข้า หากเจ้าคิดจะพึ่งตัวเอง ก็สามารถแลกเปลี่ยนกับข้าในมูลค่าที่เท่ากันได้”
พอเย่จายซิงได้ยินคำนี้ ก็ตกใจจนตาเบิกโพลง
นึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมา!
ทั้งที่ก่อนหน้า เขาชอบโผงผางเอาของให้นาง ห้ามนางปฏิเสธ แล้วยังบอกว่าของของเขาก็คือของของนาง ไม่แบ่งแยก ทำไมอยู่ ๆ ถึงเปลี่ยนความคิดได้ ?
“เสด็จอา ท่านไม่ได้เป็นอะไรใช่มั๊ย? เหมือนว่าตั้งแต่ท่านลืมตาจากการฝึกฌานก็เหมือนบางอย่างแปลก ๆ ไป”
นางพูดด้วยความลังเล
จวินหยวนเหลือบตาทั้งคู่ลงมองดูนาง ขนตาทอดเป็นเงาสองข้าง ทำให้ดวงตาหงส์ของเขายิ่งล้ำลึก ราวกับโพรงลึกที่ดึงดูดให้คนเข้าไปสำรวจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา
มาอ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ หวังว่าจะลงเนื้อหาจนจบ...
115จนถึงถึง159ไม่มีเลยค่ะลงต่อให้ครบได้มั้ยค่ะ😂...
ตอนที่ 115-159 หายไปค่ะ อ่านต่อไม่ได้อ่ะค่ะ...
115-159หายไปไหนอ่าคะ...
อัพวันละหลายๆตอนได้มั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ...