เป่ยถัง จวนอ๋องฉู่หอเฟิ่งหยี
แสงเทียนไหวเอนไปมา สะท้อนให้เห็นตัวอักษรสีแดงขนาดใหญ่ที่เขียนคำว่าความสุขประดับอยู่ เงานั้นสาดทอประกายแสงจากขอบอักษรสีทองอันอ่อนโยนนุ่มนวลสบายตา ปรากฏเป็นเงาคู่หนึ่งสาดฉายจนเต็มทั่วทั้งผนังห้อง
ใบหน้าของหยวนชิงหลิงเต็มไปด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน ทั้งยังไม่เต็มใจอย่างสุดแสน
แต่งงานมาแล้วหนึ่งปีเต็มๆ เขาไม่เคยแม้แต่จะแตะต้องเส้นผมของนางแม้เพียงครึ่งเส้น เมื่อไม่กี่วันก่อนได้เข้าวังไป ไทเฮาทรงทอดพระเนตรมายังหน้าท้องอันแบนราบของนางพลางทอดถอนพระปัสสาสะ ทรงแสดงท่าทีผิดหวังอย่างมาก ทั้งยังตรัสถึงเรื่องรับพระชายารองขึ้นมาอีกด้วย ดังนั้นนางจึงจำต้องทูลไทเฮาไปตามจริงว่า พวกเขาแต่งงานกันมาหนึ่งปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยได้ร่วมหอกันเลยแม้เพียงครั้งเดียว
นางไม่ได้อยากร้องห่มร้องไห้มาฟ้องร้องกล่าวโทษอะไร นางเพียงแค่ รู้สึกไม่ยินยอมกับเรื่องนี้ก็เท่านั้น
นับตั้งแต่ได้เห็นเขาครั้งแรกเมื่อตอนอายุสิบสาม หัวใจของนางก็ถูกผูกติดอยู่กับเขาไปจนหมดแล้ว นางขวนขวายทำทุกวิถีทาง จนสุดท้ายก็ได้แต่งเป็นพระชายาของเขาจนได้ เดิมทีนางคิดเอาไว้ว่า ต่อให้เป็นก้อนหินที่แข็งทื่อเย็นชาแค่ไหน นางก็คงสามารถใช้ความอบอุ่นร้อนแรงสลายได้ แต่ดูเหมือนว่า นางจะประเมินตัวเองสูงเกินไปเสียแล้ว
ทั้งที่เป็นสามีของนางแท้ๆ แต่นางกลับมองไม่เห็นความสงสารเห็นใจใดๆ จากในแววตาของเขาเลยแม้แต่น้อย เห็นเพียงความเกลียดชังอันดุดันคลุ้มคลั่งเท่านั้น นางรู้สึกราวกับว่ามีเข็มพิษแทงเสียดเข้าไปในหัวใจของนางอย่างโหดเหี้ยมรุนแรงก็ไม่ปาน
ในใจพลันปรากฏความเกลียดชังที่อธิบายไม่ได้ผุดขึ้นมาวูบหนึ่ง พยายามดิ้นรนสุดกำลังเพื่อฝืนพยุงร่างกายขึ้น ออกแรงกัดริมฝีปากของเขาจนเต็มแรง
เลือดสดๆรินไหลออกมา รสคาวของเลือดค่อยๆหยดเข้าไปในปากของนาง
แววตาของหยู่เหวินเห้าพลันมืดครึ้มจมลงทันที หยัดกายยืนขึ้น แล้วตบเข้าที่ใบหน้านางฉาดใหญ่ด้วยสีหน้าที่เย็นชาราวกับหยกสลักไร้ชีวิต “ หยวนชิงหลิง ข้าจะร่วมหอกับเจ้าตามที่เจ้าต้องการ แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้ากับเจ้าจะถือว่าเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ผ่านทางมาเท่านั้น”
หยวนชิงหลิงยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่โศกเศร้าสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด "เจ้าเกลียดข้าถึงเพียงนี้เลยเชียวรึ"
ก่อนจะแต่งออกมา แม่ของนางได้สอนสิ่งที่นางควรรู้ในฐานะภรรยามาแล้ว แต่เขามาหานางหลังจากการกินยา ครั้นเมื่อฤทธิ์ของยาหมดลง เขาก็ลุกขึ้นโดยไม่มีร่องรอยของความรักใคร่อาลัยใดๆเลยแม้แต่น้อย
ชุดขุนนางสีน้ำเงินถูกม้วนขึ้นฉับ ท่อนขายาวๆ เตะเข้าที่โต๊ะกับเก้าอี้จนล้มระเนระนาดลงกับพื้น ทุกอย่างเละเทะยุ่งเหยิง เสียงของเขาเจือหุ้มความเย็นชา ดวงตาเรียวยาวดั่งหงส์ที่มองมาเต็มไปด้วยความดูถูก “ เกลียดหรือ? เจ้ามันไม่คู่ควรด้วยซ้ำ ข้าแค่ขยะแขยงเจ้าต่างหาก ในสายตาข้า เจ้ามันก็เหมือนแมลงวันที่คอยไล่ตอมกลิ่นเหม็นเน่า ใครเห็นใครก็รู้สึกรังเกียจนั่นล่ะ หากไม่เช่นนั้น ข้าก็คงไม่จำเป็นต้องดื่มยาก่อนที่จะมาร่วมหอกับเจ้าหรอกรู้ไว้ด้วย "
เขาเดินออกไปราวพายุหมุน นางได้แต่มองดูชุดคลุมสีเขียวหายลับออกไปที่หน้าประตู มีเพียงลมหนาวที่พัดโชยเข้ามาจากประตูไม่หยุดยั้ง พัดจนหัวใจของนางหนาวเหน็บเยียบเย็นจนเกินจะทานทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...