เขามองหยวนชิงหลิง ราวกับเห็นความเฉยชาและไร้ซึ่งความสะทกสะท้านใดๆในสายตาของนาง เขาลุกขึ้นอย่างโมโห
“ข้ามองท่านผิดไป ข้าคิดมาตลอดว่า อย่างน้อยท่านก็เป็นคนมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่ตอนนี้ท่านวางมาดสูงส่งออกมา มองดูความเป็นความตายอย่างนิ่งดูดาย แต่ท่านกลับเป็นคนที่อยู่เหนือความเป็นความตาย ตอนนี้ท่านพูดจาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทำให้ข้ารู้สึกว่าท่านเป็นคนเสแสร้ง ท่านหลอกลวงมากรู้หรือไม่ ถ้าหากที่ตายไปเป็นหยู่เหวินเห้าหรือลูกของท่าน ท่านจะยังคงไม่สะทกสะท้านเช่นนี้อยู่หรือไม่”
เขาพูดจบ ก็มองหยวนชิงหลิงด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อจากไป
หยวนชิงหลิงมองเงาหลังที่เดินออกไปด้วยความโมโห ยิ้มขม นับว่าได้เห็นตัวจริงของหงเย่แล้ว แต่ไม่มีความสุขเลยจริงๆ
เสแสร้ง หลอกลวง ช่างเป็นคำพูดที่ทิ่มแทงใจเสียจริง และนางก็ไร้หนทางโต้แย้ง
เพราะนางก็คือตัวอย่างที่สามารถต่อต้านความตายได้ นางเสพสุขอยู่ในสิทธิพิเศษ แต่จะทำลายไม่ให้ผู้อื่นได้เสพสุขด้วย ทำให้น่าดูถูกจริงๆ
จิ่นหนิงเข้ามาจากข้างนอก นางไม่ได้ไปไหนไกล สำหรับหงเย่ไม่ว่าอย่างไรนางก็มีความระแวงอยู่ในใจ ฉะนั้นจึงฟังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล หลังจากหงเย่ไปแล้วนางจึงเข้ามา
“อย่าเอาคำพูดของเขามาใส่ใจ เจ้าไม่ได้ทำผิด”จิ่นหนิงนิ่งลงและพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงมองนาง “ข้าไม่เป็นไร ข้าได้เตรียมใจไว้สำหรับเผชิญหน้ากับความโกรธของเขาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว มีบางเรื่อง ที่จริงข้าได้ทำผิดตั้งแต่เริ่มต้น ดีที่ข้ามีโอกาสทำให้เรื่องราววุ่นวายกลับมาเป็นปกติได้ ไม่ได้ทำผิดต่อไปเรื่อยๆ”
จิ่นหนิงพยักหน้า “อืม ตัวเองรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็พอแล้ว คนอื่นจะพูดอะไรก็ไม่ต้องสนใจ”
หัวใจของหยวนชิงหลิงนั้นแน่วแน่ แต่คำพูดของหงเย่ก็ทำให้นางรู้สึกเสียใจและเป็นทุกข์จริงๆ
กลับไปที่ห้องอย่างไม่มีความสุข พวกลูกๆต่างก็อยู่ในห้อง หยวนชิงหลิงให้แม่นมออกไป อุ้มสองฝาแฝดขึ้นมาในอ้อมอก ถอนหายใจเบาๆ “ที่จริง แม่อยากจะให้พวกเจ้าเป็นเด็กธรรมดามากกว่า ”
ทังหยวนใส่ใจและอ่อนไหว โถมตัวอยู่บนเข่าของหยวนชิงหลิงถามขึ้นมาว่า “ท่านแม่ ท่านไม่มีความสุขหรือ”
“ไม่ใช่”หยวนชิงหลิงวางสองฝาแฝดลง ลูบที่ศีรษะของทังหยวน “ทังหยวนกินอิ่มหรือยัง”
“กินอิ่มแล้ว”ทังหยวนรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง “ที่อยากกินก็ไม่ได้กิน กินอะไรง่ายๆไปก่อนแล้วกัน”
คำพูดที่เป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ ทำให้หยวนชิงหลิงหลุดหัวเราะออกมา นางอุ้มทังหยวนขึ้นมาหอมไปที่แก้มของเขาหนึ่งที พูดว่า “เอาล่ะ นอนเถอะ”
ลูกเชื่อฟัง ปีนขึ้นไปนอนอย่างรู้ตัวด้วยตนเอง พอเชื่อฟังขึ้นมาแล้ว ช่างทำให้รู้สึกน่าสงสารจริงๆ
สองฝาแฝดก็นอนแล้ว สองฝาแฝดนั้นไม่ต้องกล่อม ไม่ว่าจะถึงเวลานอนหรือไม่ ง่วงก็หลับ สำหรับพวกเขาแล้ว ชีวิตไม่มีอะไรมากไปกว่าการกินดื่มขับถ่ายและนอนหลับ
หยวนชิงหลิงนอนลงไปทั้งชุดเสื้อผ้า ในห้องก่อไฟเอาไว้ อบอุ่นมาก แต่ว่าหัวใจนางมีความเย็นอยู่บ้างเล็กน้อย ที่จริงนางเย็นชาไม่แยแสต่อลิงมาก
ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือชาตินี้ ก็ล้วนไม่แยแส
นางจะทำอะไรเพื่อลิงได้ มันตายไปแล้ว
พลิกตัวไปมาอยู่พักใหญ่ นอนไม่หลับ นางสวมเสื้อคลุมออกไปเดินเล่น คืนที่เงียบสงัด และยังเป็นฤดูหนาวที่เยือกเย็น แม้แต่เสียงร้องของแมลงก็ไม่มี
นางยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวอย่างเงียบๆ ลมยิ่งพัดก็ยิ่งทำให้อารมณ์วุ่นวาย กลับไปที่ห้องก็นอนไม่หลับ จึงพาหมาป่าหิมะวิ่งอยู่ข้างนอกหลายรอบ วิ่งจนเหนื่อยแล้ว กลับไปทิ้งศีรษะลงก็หลับ
วันรุ่งขึ้นตื่นมาแต่เช้า เข่อหลิงเข้ามารายงานให้ทราบว่า หงเย่กับอะโฉ่วได้จากไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ทิ้งจดหมายไว้ให้หยวนชิงหลิงฉบับหนึ่ง
หยวนชิงหลิงเปิดจดหมายออก ข้างในเขียนข้อความไว้ประโยคเดียวว่า ,“หวังว่าจะเห็นแก่ความผูกพันที่อยู่เป็นเพื่อนกันกว่าหนึ่งพันวัน เมตตาเปิดโอกาสให้มันสักครั้ง”
หัวใจของหยวนชิงหลิงยิ่งรู้สึกหนักอึ้ง เมตตาเปิดโอกาสให้สักครั้งแฝงความหมายว่าให้ทำการวิจัยอีกครั้ง
เอาจดหมายซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อ กินข้าวเช้าแล้ว ก็เริ่มออกเดินทาง
หยู่เหวินเห้ากับจิ้งถิงพากองทัพเดินทางได้รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาไม่หยุดพักเลยทั้งวันทั้งคืน หลังจากเปลี่ยนม้าที่ศาลาพักม้าแล้วก็เร่งเดินทางต่อ หวังว่าก่อนจะเข้าสู่เขตหมอผี สามารถพบกับทุกคนได้ จากนั้นก็ให้คนส่วนหนึ่งเข้าไปยังเขตหมอผี ที่เหลืออีกหนึ่งส่วนให้รอคำสั่งอยู่ข้างนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...