บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1006

สรุปบท บทที่ 1006 ครั้งแรกที่เห็นหงเย่โกรธ: บัลลังก์หมอยาเซียน

ตอน บทที่ 1006 ครั้งแรกที่เห็นหงเย่โกรธ จาก บัลลังก์หมอยาเซียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1006 ครั้งแรกที่เห็นหงเย่โกรธ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

อ๋องเว่ยกดเสียงลงต่ำ เอ่ยอย่างโมโห “เจ้าเอะอะอะไร หุบปาก”

แต่คำพูดของอ๋องอันก็ถูกทหารที่ติดตามมาบางส่วนได้ยินเข้า การเดินทางครั้งนี้เดิมทีก็อันตรายอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีสาวหมอผีเจียงเป่ยอีกคน ย่อมต้องทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นตระหนก

หลังจากส่งหมันเอ๋อกลับไปยังค่ายที่พัก ก็มีทหารเข้ามาเสนอแนะว่าให้ฆ่าหมันเอ๋อ อ๋องเว่ยรู้สึกอัดอั้น หลังจากตำหนิจนล่าถอยออกไปแล้ว กลับควบคุมการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ในกองทัพไม่ได้

ชั่วขณะ หัวใจของทหารแตกซ่าน ลู่หยวนออกหน้าอบรมเกลี้ยกล่อม นับว่าสามารถควบคุมไว้ได้ชั่วคราว

และอะซี่กับสวีอีไล่ตามไม่ทัน ห่างกันเป็นระยะทางยี่สิบลี้ ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว ไม่มีทางที่จะไล่ตามได้อีก ได้แต่พักผ่อนเอาแรงในป่าหนึ่งคืนพรุ่งนี้ค่อยตามต่อ

พูดถึงทางด้านแคว้นต้าโจว หลังจากที่หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงกลับมาจากยุคปัจจุบัน อยู่ต่อหนึ่งวันแล้วก็จะเตรียมตัวเดินทางกลับ

จิ้งถิงคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะกลับไปเร็วเช่นนี้ ได้แต่รั้งให้อยู่ต่อ หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างเป็นกังวลว่า “เจียงเป่ยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก ข้าคิดว่าหลังจากส่งยายหยวนกลับไปแล้ว จะรีบนำคนเร่งไปยังเจียงเป่ยเพื่อให้การสนับสนุน”

หลังจากจิ้งถิงได้ถามอย่างละเอียดแล้ว ก็เสนอแนะว่า “ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้พวกเราสองสามีภรรยาก็ไม่มีอะไรทำ ไม่สู้เอาเช่นนี้อีกกว่า ข้ากับเจ้าพาคนบางส่วนเดินทางไปสนับสนุนยังเจียงเป่ย ให้จิ่นหนิงคุ้มครองส่งพระชายารัชทายาทกับลูกๆกลับประเทศ เป็นอย่างไร”

นี่ย่อมเป็นหนทางที่ดีที่สุด แต่หยู่เหวินเห้าถามขึ้นว่า “เจ้าสามารถจากไปนานขนาดนี้ได้หรือ”

“ไม่เป็นไร ตอนนี้แคว้นต้าโจวสงบสุข ฝังกระบี่มังกรไว้ในสุสาน ข้าจากไปหลายเดือนก็ไม่มีปัญหา ”จิ้งถิงใบหน้าจริงจัง “และสามารถจับมือกันกับเจ้าสู่สนามรบอีกครั้ง เป็นเกียรติแก่ข้ามาก”

หยู่เหวินเห้าก็ปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากสามารถไปพร้อมกับจิ้งถิง เช่นนั้นงานลำบากก็กลายเป็นการฮันนีมูนแล้ว อืม เขาเรียนมาจากยุคปัจจุบัน ตอนที่พูดเรื่องแต่งงานเคยพูดถึงการฮันนีมูน คนสองคนไปท่องเที่ยวกันอย่างมีความสุขเรียกว่าการฮันนีมูน

ชายหนุ่มทั้งสองกลับไปบอกกับภรรยาของตนเอง จิ่นหนิงนั้นรู้สึกยินดีมาก พอดีกับที่จะได้ตรวจดูโรงเงินติ่งเฟิงที่เปิดในเป่ยถัง

ส่วนหยวนชิงหลิงเองก็ยินดี ข้อแรกนางเป็นห่วงจิ้งเหอข้อสองเป็นห่วงหมันเอ๋อ ถ้าหากเจ้าห้าสามารถไปพร้อมกันกับจิ้งถิง และพาผู้ช่วยไปด้วยบางส่วน อย่างน้อยก็เป็นกำลังเสริมได้

เรื่องราวถูกปรึกษาหารือและกำหนดเช่นนี้เอง วันรุ่งขึ้นเริ่มออกเดินทาง

จิ้งถิงได้คัดเลือกแม่ทัพฝีมือฉกาจหลายนายและทหารอีกหลายร้อยออกเดินทางพร้อมกัน จิ่นหนิงกลับพาองครักษ์และสาวใช้เข่อหลิง เข่อลี่เดินทางไปยังเป่ยถังพร้อมกัน แต่แล้ว ขบวนรถม้าเพิ่งจะออกจากเมืองหลวง เข่อหลิงที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการลาดตระเวนอยู่ด้านหลังได้ขึ้นมารายงานข้างหน้าว่า “จวิ้นจู่ พระชายารัชทายาท อ๋องชินหงเย่ติดตามอยู่ทางด้านหลัง”

จนแทบจะลืมคนคนนี้ไปแล้ว หลังจากเข้ามาแคว้นต้าโจวก็ไร้ซึ่งข่าวคราว ตอนนี้ก็ยังจะตามกลับไป ช่างทำให้หัวใจรู้สึกไม่สบายยิ่งนัก

จิ่นหนิงเกือบจะเคยเสียเปรียบเขาแล้ว ฉะนั้นกับคนคนนี้จึงค่อนข้างระแวงมาก

หยวนชิงหลิงนึกถึงคำพูดของฟางหวูขึ้นมา ฟางหวูรับประกันอย่างหนักแน่น หงเย่ไม่มีเจตนาร้าย แต่มาเพื่อยาเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ไม่มียาแล้ว เขาจะพาลโกรธหรือไม่

คิดถึงลิงที่อยู่ในห้องทดลองมาสามปีมาอยู่กับหงเย่และพึ่งพาอาศัยกันและกันเพื่อให้มีชีวิตรอดสองปี หัวใจของหยวนชิงหลิงก็ยังคงรู้สึกทอดถอนใจ

ลิงนับว่าเป็นเพื่อนเก่าแก่ของนาง เช่นนั้นระหว่างนางกับหงเย่ใช่มีที่มาหรือไม่

ด้วยเหตุนี้ พลบค่ำตอนที่เข้าพักในศาลาพักม้า หงเย่ก็เข้าพักด้วย หยวนชิงหลิงจึงเชิญให้เขามาร่วมกินอาหารด้วยกัน

หงเย่ยังคงสวมชุดสีแดงทั้งตัว พาอะโฉ่วมาด้วย ม้าสองตัวไม่ได้ดูเหน็ดเหนื่อยมาก ตลอดเส้นทางนี้เขาคิดแล้วว่าจะตามอย่างเชื่องช้าเช่นนี้

“ซาบซึ้งมากที่เชื้อเชิญ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”หงเย่ยังคงมีท่าทีเจียมเนื้อเจียมตัวมีมารยาท ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มอบอุ่น

หลังจากนั่งที่แล้ว จิ่นหนิงก็ถามขึ้นก่อนว่า “ท่านชายจะกลับไปลงหลักปักฐานที่เป่ยถังหรือ”

หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ข้าไม่ต้องการ ยานี้เดิมก็ไม่ควรออกมาสู่โลกภายนอก ”

คิ้วของหงเย่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงสายหนึ่ง “ทำร้ายผู้อื่นแล้วยังไม่มีประโยชน์ต่อตนเอง ไม่เหมือนเป็นเรื่องที่ท่านจะทำได้”

หยวนชิงหลิงพูดว่า “ไม่ทำร้ายผู้อื่นยิ่งไม่มีผลประโยชน์ต่อตนเอง ยานี้เดิมทีข้าเป็นคนวิจัยออกมา ข้ามีอำนาจที่จะจัดการทำลาย ถ้าหากท่านชายต้องการจะระบายความโกรธ ก็เชิญระบายให้เต็มที่ แต่จะทำร้ายข้าระหว่างทางกลับเมืองหลวงนั้นเป็นไปไม่ได้ ”

“ข้าไม่มีทางทำร้ายท่าน เพียงแต่ไม่เข้าใจ”เห็นได้ชัดว่าหงเย่ผิดหวังมาก ราวกับว่าได้ยินข่าวร้ายก็ไม่ปาน นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ สายตามีแววขุ่นมัว เอ่ยอย่างเสียดายว่า

“เดิมข้าคิดว่าที่ท่านมาแคว้นต้าโจว ช่างเป็นโอกาสที่ดียิ่งนัก ท่านต้องรักษาโอกาสนี้ไว้แน่ เจ้าอาวาสเคยบอก ท่านต้องการยาชนิดนี้มาก ข้าคิดมาตลอดว่าเราเป็นเพื่อนร่วมทางกัน ”

หยวนชิงหลิงมองเขา นี่ก็เป็นครั้งแรกที่นางเห็นใบหน้าเรียบเฉยของเขาปรากฏสีหน้าอื่นนอกเหนือจากนั้นออกมา ราวกับเสื้อผ้าที่เสแสร้งปกปิดร่างเอาไว้ถูกถอดออกไปจนหมด ค่อยๆมองทะลุเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ

“ขอโทษเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้ท่านผิดหวัง ฟางหวูบอกข้า เรื่องราวก่อนหน้านี้ของท่านกับลิง ท่านต้องการยาชนิดนี้ก็เพื่อจะช่วยลิง แต่ยานี้จะออกมาสู่โลกภายนอกไม่ได้ หวังว่าท่านจะเข้าใจ”

“ความรู้สึกของท่านต่อความตายของลิง ไม่รู้สึกเสียดายสักนิดเลยหรือ เพราะพวกท่านอยู่ด้วยกันทุกเช้าค่ำเป็นเวลาพันกว่าวัน ข้าเห็นท่านก็ปฏิบัติอย่างดีกับสุนัขในจวนอ๋องฉู่ แต่ทำไมจึงไม่มีจิตใจคิดสงสารลิงเลยแม้แต่น้อย บางทีที่จริงท่านก็แค่เอามันมาเพื่อทดลองเท่านั้น ไม่มีความผูกพันให้พูดถึง ”

คำพูดสุดท้าย น้ำเสียงของเขาแหลมคมขึ้นมาอย่างกะทันหัน สายตาก็ถูกย้อมเป็นสีแดงก่ำไปด้วย จ้องมองหยวนชิงหลิงเขม็ง

หยวนชิงหลิงประสานสายตากับเขา พูดว่า “ข้ารู้ว่าการตายของหลิงกระทบจิตใจของท่านมาก แต่ถ้าท่านจะถามถึงความผูกพันระหว่างข้ากับลิง ตอนที่มันอยู่ในโลกที่ข้าอยู่ เคยตายไปครั้งหนึ่งแล้ว ข้าย่อมรู้สึกเศร้าใจ เสียใจต่อการตายของมัน แต่ความตายนั้นไม่อาจต่อต้านได้……”

หงเย่ตัดบทนางด้วยเสียงเย็นชา “ความตายไม่อาจต่อต้านได้ แล้วทำไมท่านยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ และลิงได้ตายไปแล้วครั้งหนึ่งในโลกของท่านแต่กลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งที่นี่ ความตายสามารถต่อต้านได้ ขอเพียงท่านยินดี ท่านสามารถทำได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน