แม่นมฉินเอายาขวดหนึ่งออกมาจากอก เทออกมาหนึ่งเม็ดให้นางกินลงไป จากนั้นก็พูดกับหยู่เหวินเทียนว่า “น่าจะเป็นไข้ จนทำให้สมองเลอะเลือน”
“แม่นมฉิน เจ้าให้นางกินยาอะไร สามารถลดไข้ได้หรือ”หยู่เหวินเทียนมองหมันเอ๋อ ใบหน้าของนางไม่เหมือนคนเป็นไข้ ซีดจนน่า“ลดไข้ได้ ข้ามียาอยู่หลายเม็ด สามารถให้นางกินจนดีขึ้นได้”แม่นมฉินพูดเรื่อยเปื่อยคำหนึ่ง “ให้ข้าดูแลนางก็พอ”
หยู่เหวินเทียนยังรู้สึกไม่ค่อยวางใจสักเท่าไหร่ หมันเอ๋อคนนี้เป็นคนข้างกายของพี่สะใภ้ห้าที่ได้รับความเชื่อใจมาก จะให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนางไม่ได้ แต่ตัวเองก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ช่วยอะไรไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า “เช่นนั้นเจ้าก็ดูแลนางให้ดี เดินอีกประมาณหนึ่งชั่วยาม พวกเราก็ต้องตั้งค่ายกันแล้ว ”
ในเจียงเป่ย ถ้าฟ้ามืดแล้วไม่สามารถเดินทางต่อไปได้อีก จำเป็นต้องตั้งค่ายเพื่อพักผ่อน และต้องมั่นใจว่าได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จึงจะสามารถเดินทางต่อไปได้ในดินแดนแห่งนี้
หลังจากหยู่เหวินเทียนเดินออกไปแล้ว แม่นมฉินก็กอดหมันเอ๋อเอาไว้ในอ้อมอก “ฟังข้าพูด ตอนนี้เจ้าไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น คิดเพียงรีบหาทางช่วยจวิ้นจู่จิ้งเหอออกมาให้เร็วที่สุด เช่นนี้พระชายารัชทายาทจะดีใจมาก ความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดในสมองต้องละทิ้งไป รู้หรือไม่”
ร่างกายของหมันเอ๋อสั่นเทาอยู่บ้าง “แม่นมฉิน ท่านให้ข้ากินยาอะไร”
“เจ้าวางใจได้ ยานี้ไม่มีผลร้ายต่อเจ้า เพียงแต่ทำให้พละกำลังเจ้าเพิ่มมากขึ้น”แม่นมฉินจิตใจสับสนวุ่นวายมาก นางรู้ถึงความเลวร้ายของการลงอาถรรพ์สาวหมอผี ที่จริงแล้ว ตอนนี้นางเองก็เริ่มปรากฏเสียงหลอนอยู่บ้าง นางกับหมันเอ๋อไม่เหมือนกัน นางแบกภาระความแค้นอันยิ่งใหญ่เอาไว้ จิตใจตั้งมั่นแน่วแน่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาคมหรือคาถาใดๆก็ตามก็ไม่สามารถทำลายนางได้
ยานี้ไม่ใช่ยาบำรุงหรือเป็นยาเพิ่มพละกำลังแต่อย่างใด ที่จริงก็เป็นยากู่ชนิดหนึ่ง จะออกฤทธิ์เมื่อนางวิ่งอย่างคลุ้มคลั่งหรือสลบไป จะทำให้เป็นลมทันที อย่างน้อยสามารถรับประกันได้ว่าหมันเอ๋อจะไม่วิ่งหนีออกไปนอกสายตาของนาง
“แม่นมฉิน นี่ข้าป่วยหรือเป็นอะไรกันแน่ ทำไมข้าจึงรู้สึกว่าข้าไม่เป็นตัวเอง ”ตอนที่หมันเอ๋อขึ้นเขามาตลอดทางก็รู้สึกอึดอัดมาก นอกจากจะมีคนคอยเร่งให้นางไปยังเจียงเป่ยแล้ว ยังเริ่มมีเงาเลือนรางมากมายที่แทบไม่เคยเห็นมาก่อน และเงาเหล่านี้ก็มักจะส่งเสียงเรียกให้สติที่กำลังจะแจ่มชัดขึ้นพังทลายลงอยู่เสมอ
“เด็กโง่ เจ้าก็แค่ไม่สบาย เดินทางบากบั่นเหน็ดเหนื่อยมาก ใครก็ทนไม่ไหว ก่อนหน้านี้เจ้าอยู่รับใช้ข้างกายพระชายารัชทายาทมาเป็นเวลานาน มีชีวิตที่สุขสบาย จะสามารถทนความลำบากเหล่านี้ได้อย่างไร ”แม่นมฉินลูบที่ใบหน้าของนาง มองดูท่าทีของนางที่ถูกสาวหมอผีลงอาถรรพ์ทรมาน รู้สึกเจ็บปวดใจมาก แค้นมาก
“ข้าช่างเป็นภาระจริงๆ”หมันเอ๋อรู้สึกผิดมาก ดวงตายิ่งแดงก่ำมากขึ้น “ช่วยอะไรไม่ได้ยังจะเป็นภาระให้พวกท่านต้องเหนื่อยอีก”
“อย่าพูดเช่นนี้ ใครจะไม่เคยมีช่วงเวลาที่ไม่สบายกันเล่า”แม่นมฉินพูดปลอบใจ
กองทัพพักผ่อนกันชั่วครู่ แล้วก็ออกเดินทางต่อ
หยู่เหวินเทียนเดินเข้ามาสอบถามอาการของหมันเอ๋อด้วยตนเอง “เป็นอย่างไรบ้าง เดินได้หรือไม่”
“เดินได้ ข้าไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณความห่วงใยของท่านอ๋อง”หมันเอ๋อฝืนยิ้มและพูดขึ้น
คิ้วของหยู่เหวินเทียนขมวดขึ้นมา “แต่ว่าสีหน้าเจ้าดูแล้วไม่ค่อยจะดีนัก ถ้าไม่ไหวแล้วละก็ บอกข้า ข้าจะแบกเจ้าไปเอง”
คำพูดนี้ทำเอาหมันเอ๋อตกใจจนต้องรีบโบกมือ “ไม่ต้อง ไม่ต้อง ข้าสามารถเดินเองได้ ”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ”หยู่เหวินเทียนยังคงเฝ้าสังเกต ไม่ได้เดินนำหน้า แต่รักษาระยะห่างที่เหมาะสมเอาไว้กับหมันเอ๋อ สามารถมองดูได้ตลอดเวลา
แต่ว่าอาการของหมันเอ๋อยิ่งอยู่ก็ยิ่งแย่ลงแล้ว นอกจากเกิดเสียงหลอนแล้ว ยังรู้สึกว่าเลือดลมกำลังค่อยๆพุ่งทะลักขึ้นมา ราวกับบังคับให้นางต้องทำอะไรสักอย่างจึงจะรู้สึกสบายขึ้น
ที่สุด ตอนที่กองทัพเริ่มหยุดลงเพื่อตั้งค่าย แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ได้หายไป ทันใดนั้นหมันเอ๋อก็ได้ส่งเสียงคำรามดังลั่นขึ้นมาเสียงหนึ่ง กระโดดขึ้นมาอย่างคลุ้มคลั่ง วิ่งไปข้างหน้าราวกับเป็นบ้าไปแล้ว
หยู่เหวินเทียนสังเกตนางอยู่ตลอดเวลา ตอนที่เห็นดวงตาของนางถูกย้อมไปด้วยเลือด เขาก็ได้เดินอย่างรวดเร็วไปทางข้างกายของหมันเอ๋อ แต่คิดไม่ถึงว่านางจะคำรามเสียงดังและกระโดดอย่างบ้าคลั่งขึ้นมากะทันหัน และวิ่งได้อย่างรวดเร็วมาก เขาก้าวเท้าวิ่งไล่ตาทันที
แม่นมฉินเพิ่งจะทำค่ายที่พักของหมันเอ๋อเสร็จ เดิมทีคิดว่าจะให้นางเข้ามานอนสักหน่อย ได้ยินเสียงนางร้องขึ้นมา ในหัวใจก็ร้องขึ้นมาอย่างเงียบๆว่าแย่แล้ว พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นหยู่เหวินเทียนวิ่งไล่ตามไป นางก็วิ่งตามไปเช่นกัน
พอเข้ามาในภูเขาก็มีคนคลุ้มคลั่งขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะทำให้หัวใจของทุกคนรู้สึกหวาดกลัว อ๋องเว่ยกับอ๋องอันสบตากันแวบหนึ่ง สีหน้านิ่งขรึม เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...