อ๋องซุนเอามือผลักนางออกไปทันที พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “เอะอะโวยวายอะไร ไม่ดูบ้างว่านี่มันงานอะไร”
เดิมทีเสี้ยนจู่โหรหมิ่นก็ไม่ได้คิดจะวิ่งมาหาเขา แต่วิ่งมาหาหยู่เหวินเห้าต่างหาก ไม่คิดว่าหยู่เหวินเห้าจะเบี่ยงตัวหลบ การกระทำนี้ทำให้นางรู้สึกเสียใจมาก และไม่สนใจในสิ่งอ๋องซุนตำหนิ มองหยู่เหวินเห้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาพร่ามัวพลางฟ้องว่า“ท่านพี่ ทำไมท่านจึงได้ใจร้ายเช่นนี้ ”
หยู่เหวินเห้ารังเกียจนาง ไม่อยากจะปฏิสัมพันธ์กับนางแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ตอบคำถาม แต่ดึงตัวหยวนชิงหลิงเดินออกไปข้างนอกทันที
เสี้ยนจู่โหรหมิ่นร้องไห้ตะโกนคำว่าท่านพี่อยู่หลายครั้ง หยู่เหวินเห้าได้แต่รู้สึกโมโห เอียงหน้ามองหยวนชิงหลิงพูดว่า “ถ้าหากเสี้ยวหงเฉิงมีใจต่อลู่หยวนละก็ จะช่วยให้เรื่องนี้สำเร็จอย่างเต็มที่ จะไม่สามารถให้ลู่หยวนถูกนางทำลายอย่างเด็ดขาด ”
ลู่หยวนเป็นคนมีความสามารถในการทำงาน มีวรยุทธสูงส่งและยังเป็นคนฉลาด ที่สำคัญที่สุดเขามีความสามารถที่จะแยกแยะผิดชอบชั่วดีอย่างมาก ใต้เท้าลู่ให้การอบรมสั่งสอนได้ดี ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ล้วนมีการคาดคะเนไว้ในใจ เขารู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ อะไรสามารถทำได้ อะไรไม่สามารถทำได้
เขาต้องการผู้บัญชาการเช่นนี้เป็นอย่างมาก
หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆว่า “ขอบเขตที่ท่านควบคุมกว้างขวางมากเสียจริง เรื่องความรู้สึกของพวกเขาให้ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ ข้าคิดดูแล้วลู่หยวนก็คงไม่ชอบโหรหมิ่น”
“เกรงว่าพ่อแม่ตระกูลลู่จะสับสนขึ้นมากะทันหัน พวกเขาเองก็ไม่ชอบเสี้ยวหงเฉิง ประเดี๋ยวเจ้าเชิญเสี้ยวหงเฉิงมาที่จวนเพื่อลองถามดู”
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่ ข้าไม่ถาม ข้ากับเสี้ยวหงเฉิงได้คุ้นเคยกันถึงขั้นนั้น ”
หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้วขึ้นมา “ข้าเองก็ไม่สมควรถาม ช่างเถอะ เหมือนที่เจ้าบอก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ มีวาสนาต่อกันอย่างไรเสียก็ได้อยู่ด้วยกัน ”
วันที่สามหลังจากพิธีเคลื่อนศพของจวิ้นจู่องจิ้ง ก็รู้ที่อยู่ของหลินเซียวแล้ว ยังปรากฏตัวอยู่ที่จวนอ๋องผิงหนาน และครั้งนี้ยังเป็นลูกเลี้ยงของอ๋องผิงหนานหยู่เหวินฮุยเป็นคนส่งเขาออกไปด้วยตนเอง
ครั้งนี้องครักษ์ลับผีไล่ตามทันแล้ว และได้จับกุมตัวเขากลับเมืองหลวง แต่ที่น่าเสียดาย ตอนที่ใกล้จะถึงเมืองหลวงแล้ว เขากลับหนีรอดไปได้
แม่ทัพหลอได้วางกรอบดักศัตรูไว้ทั่วทุกด้าน ได้ทำการตรวจค้นในพื้นที่ใกล้เคียงเมืองหลวงทั้งหมด แต่ตรวจค้นอยู่สามวัน ก็ไม่พบว่าเขาเคยปรากฏตัวขึ้นอีก หลังจากกลับไปรายงานหยู่เหวินเห้า หยู่เหวินเห้าพูดว่า “คนในยุทธภพเหล่านี้มีความสามารถง่ายดาย แต่เกรงว่าคนจะเข้าสู่เมืองหลวงตั้งนานแล้ว เฝ้าสังเกตโรงเตี๊ยมใหญ่ๆที่มีชื่อเสียง ทำการตรวจสอบบ้านเรือนของประชาชนที่มีการให้เช่า ตรวจสอบใบผ่านทาง ใบหน้าสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่รูปร่างเปลี่ยนไม่ได้ ติดประกาศล่าตัวคนร้าย เมื่อพบคนแปลกหน้าที่มีรูปร่างสูงเท่ากับเขา ให้รีบกลับมารายงานทันที ”
หยู่เหวินเห้าได้ให้เขาไปแจ้งให้เสี้ยวหงเฉิงทราบ ไม่ตัดประเด็นที่หลินเซียวกลับมาในเมืองหลวงแล้วจะไปหานางอีกครั้ง เสี้ยวหงเฉิงยิ้มเย็น “ทางที่ดีให้เขามา ”
หลินเซียวเคยเป็นสิ่งสวยงามที่สุดในการมีตัวตนอยู่ของเสี้ยวหงเฉิง แต่ว่า ตอนนี้ก็เหมือนราวกับหนอนตัวเหม็น กำลังเน่าเปื่อยอยู่ในใจนาง ถ้าหากนางไม่ได้มอบดาบให้ที่อกของเขา กลิ่นเน่าเหม็นนี้ก็คงจะไม่มีวันจางหายไปจากใจ
ซุนฉวนหวู่ก็เป็นคนที่มีน้ำใจมากพอ และไม่ได้เย็นชาต่อหยู่เหวินจุนด้วยเหตุนี้ ยังคงไปมาหาสู่กับเขาเรื่อยๆ ให้ค่าแนะนำกับเขา รวมทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว ในหนึ่งเดือนหยู่เหวินจุนสามารถเอาเงินจากมือซุนฉวนหวู่ได้สามสี่ร้อยตำลึง นี่สำหรับเขา นับว่าเยอะมากแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ชีวิตของหยู่เหวินจุนและฉู่หมิงหยางยังคงสุขสบายได้เช่นเดิม เทียบกับความสูงศักดิ์เมื่อวันวานมิได้ แต่ในด้านเงินทองนั้นไม่เคยขาดมือ ไม่ถึงกับต้องไปรบกวนฮูหยินเหยาถึงบ้านอีก
เพื่อนที่เคยคบหากันแต่เก่าก่อนของฉู่หมิงหยาง ด้วยเหตุที่นางร่ำรวยขึ้นก็ค่อยๆไปมาหาสู่กันมากขึ้น ซุนฉวนหวู่ยังช่วยออกความคิดเห็นให้กับฉู่หมิงหยาง ถ้าหากต้องการหาเงินให้มากกว่านี้ ก็ให้ฮูหยินเหล่านี้เอาเงินออกมาปล่อยกู้ ทำเช่นนี้จะสามารถได้เงินจากดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น ฉู่หมิงหยางย่อมรู้ว่านั้นเป็นความเสี่ยงสูง แรกเริ่มไม่กล้า เพียงแค่เอาเงินที่เหลือใช้ของตนเองให้ซุนฉวนหวู่เอาไปปล่อยกู้ ปรากฏว่าเพียงไม่กี่วันก็สามารถได้รับการตอบแทนเป็นดอกเบี้ยที่สูงมาก ด้วยเหตุนี้นางเองก็เกิดความโลภขึ้นมา นำเรื่องนี้ไปบอกให้กับเหล่าฮูหยินที่ไปมาหาสู่กับนางฟัง
ฮูหยินเหล่านี้เดิมทีก็เป็นผู้ร่ำรวยอยู่แล้ว มีเงินและทรัพย์สินส่วนตัวอยู่ไม่น้อย ได้ยินว่าหาเงินได้ง่ายเช่นนี้ ก็ทดลองให้ฉู่หมิงหยางปล่อยกู้บ้าง ฉู่หมิงหยางได้หากำไรจากดอกเบี้ยส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็คืนให้กับพวกนาง ในหนึ่งเดือนก็หาเงินมาได้ไม่น้อย
เช่นนี้เอง เหล่าฮูหยินก็ค่อยๆกล้าเอาเงินจำนวนมากออกมา แม้แต่ฮูหยินรองของตระกูลกู้ก็เอาเงินมาให้ฉู่หมิงหยางไม่น้อย ให้นางเอาออกไปปล่อยกู้ ฮูหยินรองคนนี้เป็นน้องสาวของมารดาฉู่หมิงหยาง ฉู่หมิงหยางต้องเรียกนางอย่างให้เกียรติว่าท่านน้า ฉู่หมิงหยางกับลูกสาวของฮูหยินรองกู้คางมั่นก็ไปมาหาสู่กันบ่อยมาก เดิมทีกู้คางมั่นจะถูกแม่สื่อทาบทามแล้ว แต่ว่านางหยิ่งทะนงเกินไป ถ้าไม่ใช่ตระกูลสูงศักดิ์ก็ไม่ยอมแต่ง จึงทำให้เสียเวลามาจนถึงตอนนี้
ตอนนี้คนที่กู้คางมั่นชื่นชอบก็คือเหลิ่งจิ้งเหยียนคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเหลิ่ง เหลิ่งจิ้งเหยียนนั้นเป็นหัวหน้าของกั๋วจื่อเจียน มีการศึกษาสูง คนเรียนหนังสือก็ต้องเดินในทางแห่งจองหงวน ยังต้องประจบประแจงเขาไม่มากก็น้อย ด้วยเหตุนี้เหลิ่งจิ้งเหยียนในสายตาของคนเรียนหนังสือนั้น ได้รับความเคารพเป็นอย่างยิ่ง
ฮูหยินรู้ความในใจของลูกสาว เคยให้คนช่วยเดินเรื่อง ทางด้านนั้นก็ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธอะไร นางจึงคิดว่าจะทำการปล่อยเงินกู้ผ่านฉู่หมิงหยาง เพื่อเพิ่มสินสอดติดตัวให้ลูกสาว ถ้าหากสามารถแต่งงานกับเหลิ่งจิ้งเหยียนได้จริง ก็นับว่าเป็นบุญวาสนาที่ดีเรื่องหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...