บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1048

สรุปบท บทที่ 1048 หมันเอ๋อกลับมาแล้ว: บัลลังก์หมอยาเซียน

สรุปตอน บทที่ 1048 หมันเอ๋อกลับมาแล้ว – จากเรื่อง บัลลังก์หมอยาเซียน โดย ลิ่วเยว่

ตอน บทที่ 1048 หมันเอ๋อกลับมาแล้ว ของนิยายนิยาย จีนเรื่องดัง บัลลังก์หมอยาเซียน โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถึงบ้านของซุนฉวนหวู่คนเฝ้าประตูเพิ่งจะเปิดประตูออก นางก็พุ่งตรงเข้าไปทันที ตะโกนด้วยเสียงลนลานอันดังลั่น “ซุนฉวนหวู่เจ้าไสหัวออกมานะ”

ไม่ว่าคนเฝ้าประตูจะบอกนางอย่างไร ว่าซุนฉวนหวู่ไม่อยู่ นางก็ยังคงค้นหาไปทั่วบ้าน นางตระหนกตกใจอย่างถึงที่สุดแล้ว ถ้าหากซุนฉวนหวู่ไม่เอาเงินคืนมา หยู่เหวินจุนไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ ฮูหยินเหล่านั้นก็ไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน

นางพลางเดินหาพลางร้องไห้ตะโกนเสียงดัง “ซุนฉวนหวู่เจ้าทำข้าเดือดร้อน ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่ อย่าคิดว่าตอนนี้ข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้ ถ้าหากข้ากลับไปหาท่านปู่ ท่านปู่ต้องออกหน้าเพื่อข้าแน่ เจ้าไสหัวออกมา เอาเงินมาคืนข้า”

ซุนฉวนหวู่ไม่อยู่ในบ้านจริงๆ นางค้นหาจนทั่วบริเวณบ้านแล้ว ก็หาไม่พบ หลังจากกระวนกระวายใจแล้ว ก็นั่งลงร้องไห้เสียงดังอย่างควบคุมไม่ได้อยู่หน้าระเบียงบ้าน

เงาดำสายหนึ่งปกคลุมลงมา ทอดยาวมาบนร่างของนาง นางคิดว่าซุนฉวนหวู่หลับมาแล้ว ก็รีบเงยหน้าขึ้นกำลังจะตำหนิอย่างโมโห กลับเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ซุนฉวนหวู่แต่เป็นแขกที่มาพบเขาในวันนั้น

เขามองจากเบื้องสูงลงไปด้านล่าง สายตามีแววหยอกล้อ“พระชายาองค์ชายใหญ่ ไม่เจอกันตั้งนาน”

ฉู่หมิงหยางยืนขึ้นมา สายตามีแววสงสัยอยู่บ้าง ไม่เจอกันตั้งนานที่ไหนกัน วันก่อนเพิ่งจะเจอกันมิใช่หรือ

“เจ้ามาหาซุนฉวนหวู่หรือ เจ้าเป็นเพื่อนของเขาหรือ รู้หรือไม่ว่าอยู่ที่ไหน ”ฉู่หมิงหยางเช็ดน้ำตา ถามขึ้น

คนที่มาเป็นหลินเซียว เขามองฉู่หมิงหยาง ถ้าหากมองดูแววตาที่แฝงแววหยอกล้อนั้นอย่างจริงจัง จะเห็นว่าเป็นเจตนาร้ายของแมวที่หยอกหนู

แต่ว่าตอนนี้ฉู่หมิงหยางรู้สึกหัวใจกระวนกระวายมาก ไม่ได้มองดูเขาอย่างละเอียดจริงๆ เหมือนราวกับแค่คว้าฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตได้ ได้แต่ถามเขาอย่างอยากรู้

หลินเซียวเอาผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมา เช็ดน้ำตาที่หางตาให้นาง ฉู่หมิงหยางรีบถอยหลังหลบอย่างรวดเร็ว มองเขาอย่างหวาดระแวง“เจ้าทำอะไร ”

หลินเซียวถอนหายใจเบาๆ “พระชายาองค์ชายใหญ่ ความจำของท่านใช้ไม่ได้เลยจริงๆ ลืมข้าได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้เชียวหรือ ข้านั้นคิดถึงเรือนร่างที่อ่อนนุ่มของพระชายาองค์ชายใหญ่อยู่เลย”

คำพูดนี้ราวกับฟ้าผ่าลงมากลางกระหม่อมของฉู่หมิงหยางอย่างจัง นางเบิกตากว้าง สายตาถูกเติมเต็มไปด้วยไฟคุกรุ่นทันที สีหน้าก็แดงก่ำขึ้นมา ยกมือขึ้นฟาดลงไปที่ใบหน้าของหลินเซียวทันที ในปากก็ตำหนิอย่างโมโห “ที่แท้ก็เป็นเจ้า เจ้าคนมักมากบ้าตัณหา ข้าจะฆ่าเจ้า”

หลินเซียวจับที่ข้อมือของนางเอาไว้ กระตุกมาข้างหน้า อีกมือหนึ่งก็โอบไปที่เอวของนางบีบให้นางเข้ามาแนบกับอก ยิ้มเย็นๆ

“ฆ่าข้าหรือ เจ้าฆ่าลูกของข้า ข้ายังไม่ถือสาเจ้า เจ้าข้าเดิมก็มีความรู้สึกที่ดีต่อกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ข้าบังคับเจ้า ทำไมจึงได้แสร้งทำเป็นมีท่าทีไม่เป็นธรรมเช่นนี้ ”

พูดถึงเด็กคนนั้น ช่างเป็นความอัปยศชั่วชีวิตของฉู่หมิงหยางอย่างแท้จริง อดไม่ได้ที่อยากจะฉีกทึ้งผู้ชายคนนี้ในทันที เมื่อข้อมือถูกกุมเอาไว้ เอวก็ถูกโอบเอาไว้ นางเคลื่อนไหวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ได้แต่สาปแช่งเขาอย่างเกลียดชัง ให้เขาไปตายซะ

หลินเซียวกลับหัวเราะฮ่าฮ่าขึ้นมา จากนั้นก็บังคับให้นางถอยหลังไป พูดอย่างขี้เล่นว่า “ข้าตายแล้ว เจ้าคงอนาถแน่ ตอนนี้ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยเจ้าได้ อยากจะได้เงินคืนมาจากซุนฉวนหวู่หรือ”

คำพูดเดียว เข้าตรงจุดตายของฉู่หมิงหยางอย่างจัง ฉู่หมิงหยางหยุดการดิ้นรน หรี่ตาลงมองเขา เดาไม่ถูกว่าเขาเป็นพวกเดียวกับซุนฉวนหวู่หรือไม่ในชั่วขณะ

หลินเซียวปล่อยนางออก “ไม่จำเป็นต้องหวาดระแวง ข้าเพิ่งจะรู้จักกับซุนฉวนหวู่ไม่นาน ยังเป็นการรู้จักโดยผ่านการแนะนำจากผู้อื่น คนแนะนำก็เป็นองค์ชายใหญ่พอดี”

ฉู่หมิงหยางได้ยินคำพูดนี้ ก็เพิ่งจะหายสงสัย แต่เมื่อนึกถึงหน้าตาของเขาตอนที่ปลอมตัวเป็นหยู่เหวินเห้ามาเสพสุขกับนาง หัวใจนางก็ยังคงรู้สึกรังเกียจราวกับกลืนแมลงวันเข้าไป อดกลั้นความโมโหเอาไว้ นางถามขึ้นว่า “เจ้าสามารถช่วยข้าเอาเงินมาจากซุนฉวนหวู่ได้หรือ”

“ถ้าหากข้าช่วยเจ้าไม่ได้ นั่นไม่เท่ากับมองดูเจ้าตายอย่างนิ่งดูดายหรอกหรือ เมื่อก่อนเป็นเพราะข้าชอบเจ้า จึงได้แสร้งปลอมตัวเป็นรัชทายาทไปอยู่กับเจ้า ความรู้สึกนี้ ถึงบัดนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน ”หลินเซียวพูดด้วยสายตาเป็นประกาย

ฉู่หมิงหยางไม่ใช่คนที่จะหลงกลอะไรได้ง่ายๆ เอ่ยเสียงเย็นว่า “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว ถ้าหากเจ้าสามารถเอาเงินกลับมาให้ข้าได้ ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า ถ้าไม่เช่นนั้น ข้าต้องบอกให้ท่านปู่รู้แน่”

หลินเซียวยกนิ้วมือหนึ่งขึ้นส่ายไปมา “ไม่รีบร้อน ต้องให้คนทำงานให้เจ้าด้วยความเต็มใจ อย่าให้นางพกพาเอาความโมโหเอาไว้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้เสียงานได้ง่าย พองานล้มเหลวก็จะให้การสารภาพถึงเจ้ากับข้าออกมาอย่างรวดเร็ว ”

“ต้องให้นางเต็มอกเต็มใจหรือ เกรงว่าจะไม่ได้” ซุนฉวนหวู่รู้สึกว่าฉู่หมิงหยางคนนี้ก็ไม่ใช่คนที่น่าคบหา

หลินเซียวยิ้ม สีหน้ามีแววได้ใจ“จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีหญิงสาวคนไหนที่ทำงานให้ข้าโดยไม่เต็มใจ แม้แต่เสี้ยวหงเฉิงที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของหยู่เหวินเห้า แล้วเป็นอย่างไร ก็ยังยอมแอบร่วมเตียงเคียงหมอนกับข้ามิใช่หรือ”

ซุนฉวนหวู่หัวเราะฮ่าๆขึ้นมา ประสานมือขึ้นมาพูดว่า “เลื่อมใสเลื่อมใส ”

ในจวนอ๋องฉู่ วันนี้หยวนชิงหลิงรู้สึกดีใจมาก สวีอีกลับมารายงานว่าอ๋องชุนกับหมันเอ๋อจะมาถึงเมืองหลวงในช่วงเวลาค่ำ แม่นมสี่กับแม่นมฉีก็ดีใจมาก โดยเฉพาะแม่นมฉีที่ชื่นชอบหมันเอ๋อมากที่สุด หมันเอ๋อทำงานอย่างที่สามารถหมดห่วงได้ นางคนเดียวเทียบได้กับคนห้าคน หลังจากหมันเอ๋อจากไป แม่นมฉีก็ได้แต่บ่นประโยคนี้

หมันเอ๋อได้มาถึงจวนอ๋องฉู่ตั้งแต่พลบค่ำแล้ว เห็นได้ชัดว่าเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ผมของหมันเอ๋อแทบจะพันกันหมดแล้ว มีฝุ่นผงอยู่เต็มไปหน้า อะซี่เดินเข้าไป นางรีบกอดอะซี่และเอ่ยอย่างดีใจว่า “แม่นางอะซี่ ข้าคิดถึงเจ้ามาก”

อะซี่ยิ้มและพูดว่า “จากกันตั้งหลายเดือน ข้าไม่คุ้นเคยวันเวลาที่ไม่มีเจ้าอยู่ในจวนอ๋องเลย รีบไปพบพระชายารัชทายาทของเจ้าเถอะ กำลังรอเจ้าอยู่ข้างใน”

หมันเอ๋อปล่อยมือจากนาง ดวงตาแห้งผาก ก็เห็นขอทานน้อยหูหมิงในตอนนั้นเดินขึ้นมาข้างหน้า พูดว่า “พี่หมันเอ๋อ ได้พบท่านอีกแล้ว ดีจริงๆ ”

หมันเอ๋อนั้นมีความรู้สึกที่พิเศษต่อหูหมิง เพราะว่าพวกเขาก็นับว่าเป็นคนประสบชะตากรรมเดียวกัน นางยิ้มให้กับหูหมิง “ใช่ ข้ายังจะอยู่ต่ออีกสักระยะนะ”

หูหมิงก็ฉีกปากยิ้มกว้าง เดินเข้าไปพบพระชายารัชทายาทพร้อมกับนาง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน