บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 107

หยวนชิงหลิงมองดูอ๋องซุนที่ลดความอ้วนกินเหมือนพายุหมุน ของว่างสองจาน เนื้อแกะทอดหนึ่งจาน ยังมีผัดผักสองจาน แถมข้าวสวยหนึ่งถ้วย กินจนไม่เหลือแม่แต่น้ำ

“หากท่านพี่รองยังไม่พอ ข้าจะให้คนไปทำเพิ่มอีกหน่อย” หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าเขายังคงมองจานที่ว่างเปล่า มีความรู้สึกเหมือนยังกินไม่อิ่ม

อ๋องซุนมองนางอย่างเคร่งขรึม “ไม่แล้ว ข้าจะลดความอ้วน เจ้าจะมาทำร้ายข้าแบบนี้ไม่ได้นะ”

หยวนชิงหลิงรู้สึกหมดหนทาง คนที่บอกว่าลดความอ้วนแล้วมาทานอาหารมากมายที่นาง จากนั้นยังจะบอกว่านางทำร้ายเขา

“งั้นท่านพี่รองก็อย่ากินอีกเลย” หยวนชิงหลิงทำได้เพียงพูดแบบนี้

อ๋องซุนค่อยๆเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ “ก็แค่ทานของว่างของเจ้าไปแค่สองชิ้น? ต้องขี้เหนียวขนาดนี้เลยเหรอ?”

“ไม่ใช่..........” หยวนชิงหลิงมองไปใบหน้าอ้วนที่โกรธของเขา ห่อไหล่ลง กล่าวอย่างจำยอม “ข้าหมายถึง ท่านพี่รองกินไปพอสมควรแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมากินใหม่”

“พรุ่งนี้จะทำของว่างอะไรเหรอ?” อ๋องซุนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดปากมุมปากที่มันเยิ้มอย่างนุ่มนวล ถามแบบไม่ทันตั้งตัว แต่แววตานั้นเห็นได้ชัดว่ารอคอย

“ท่านพี่รองอยากกินอะไรก็ให้พ่อครัวทำอันนั้น” ต้องยอมเขาเลยจริงๆ

“ทำอะไรก็ได้” อ๋องซุนก้มหน้าลง ล้วนเข้าไปในแขนเสื้อค้นหาไปสองสามที ก็หยิบรายการออกมาหนึ่งใบ “พูดไปก็บังเอิญนัก อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดของข้า พระชายาบอกว่าจะฉลองวันเกิดให้ข้า ก็เลยได้คิดรายการขึ้นมาโดยเฉพาะ งั้นก็ให้พ่อครัวในวังทำตามรายการอาหารนี้ ข้าก็จะได้ลองรสชาติไปด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในวันงานจริง ปริมาณไม่ต้องเยอะ ข้าลดความอ้วนอยู่ กินได้ไม่ค่อยเยอะ”

ใบรายการวางอยู่บนโต๊ะ หยวนชิงหลิงหยิบมันขึ้นมาดู แล้วนับดู ทันใดก็พูดไม่ออกเลย งานวันเกิดของท่านพี่รอง “มีรายการอาหารสามสิบแปดรายการเลยเหรอ?”

“ถึงแม้จะดูฟุ่มเฟือยไปหน่อย ไปประหยัดในส่วนอื่นก็ได้แล้ว เรื่องการแสดงไม่มีก็ได้ เรื่องการกินต้องดีกับแขกหน่อย” อ๋องซุนกล่าวด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

“แต่พรุ่งนี้ก็ไม่สามารถที่จะทำอาหารสามสิบแปดอย่างได้นะ” หยวนชิงหลิงเหนื่อยแทนพ่อครัวในวังจริงๆ

“พรุ่งนี้ทำแค่สามอย่างก็พอ วันมะรืนทำอีกสามอย่าง ถ้าทำเช่นนี้ สิบวันก็น่าจะทำครบแล้ว”

“มันไม่เลยวันเกิดไปแล้วหรอกเหรอ?”

“เลื่อนออกไป!” กล่าวอย่างกระชับและรัดกุม

พวกตะกละนั้นมีเหตุผลที่ใหญ่เสมอ

นางค่อนข้างที่จะมั่นใจ ที่อ๋องซุนมาเยี่ยมนาง เป็นเพราะฮ่องเต้ส่งพ่อครัวในวังมาที่จวนสองคน

ความจริงก็ได้ยืนยันชัดเจนอยู่แล้ว ก่อนที่เขาจะจากไปก็ไม่ได้ถามอาการของหยวนชิงหลิงแม้แต่คำเดียว

เช้าวันรุ่งขึ้น อ๋องจี้กับชายา และอ๋องฉีกับชายาได้มาที่จวนพร้อมกัน

ราชสำนักหยุดงานสิบวัน ด้วยเหตุนี้วันนี้หยู่เหวินเห้าก็ไม่ได้ไปที่กรม กำลังคุยอยู่กับอ๋องฉีกับอ๋องจี้ในห้องโถง และพระชายาจี้กับฉู่หมิงชุ่ยคุยอยู่กับหยวนชิงหลิงที่หอเฟิ่งหยี

วันนี้ฉู่หมิงชุ่ยสวมชุดสีเหลืองปักลายดอกเหมยแซมด้วยผีเสื้อ เกล้าผมขึ้นไปทั้งหมด ปักด้วยปิ่นหยกลายเมฆ ก็ไม่ได้สวมเครื่องประดับอย่างอื่นอีกเลย แต่มันกลับให้ดูสดใสอ่อนหวานและมีเสน่ห์

นางมีนางตาที่โดดเด่น เพียงแค่แต่งหน้าบางๆ สีลิปที่ผ่านการผสม ทำให้มันเรืองแสงเหมือนน้ำผึ้ง

มีคิ้วที่สวยงาม หางคิ้วเชิดขึ้นเล็กน้อย ความมีเสน่ห์นี้แฝงไว้ด้วยความดุร้ายเล็กน้อย

แล้วมามองพระชายาจี้ สวมชุดสีมรกตพิมพ์ลายดอกไม้ขอบเสื้อเป็นลายเมฆสีเทา เกล้าผมทรงสูงปักด้วยปิ่นทอง รูปร่างหน้าตาธรรมดา แต่ว่ามีสง่าราศีมาก หว่างคิ้วมีไฝอยู่หนึ่งเม็ด นางเกิดในตระกูลขุนนางชั้นสูง มีความรู้และรอบรู้ทุกด้าน เมื่อยืนด้วยกันกับฉู่หมิงชุ่ย ก็ไม่ได้ถูกรัศมีของฉู่หมิงชุ่ยบดบัง แต่กลับทำให้ดูสง่าผ่าเผย

ในทางตรงกันข้ามหยวนชิงหลิงที่ใบหน้าซีดขาว สวมชุดสีแดงกึ่งเก่า ผมถูกรวบอย่างไม่เป็นทางการ ภายใต้ความเร่งรีบได้ทาลิปไปนิดหน่อย ก็ไม่สามารถปิดบังสีหน้าที่เหนื่อยล้าได้

พระชายาจี้มองนาง กล่าวด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว “คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าพระยาหุ้ยติ่งจะโอหังเพียงนี้ อยู่ในเมืองหลวงยังกล้าทำเรื่องที่โหดร้ายแบบนี้ น้องสะใภ้ห้าครั้งนี้ตกใจมากเลยใช่มั้ย?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน