บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1093

เขาบอกหยวนชิงหลิงว่า ตอนที่เขาถูกโจมตีเขาก็ได้ยินเสียงร้องไห้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งตลอดทางกลับไปที่โรงเตี๊ยม เสียงร้องนั้นก็ไม่ได้หยุดลงเลย

หยวนชิงหลิงตกใจจนผงะ “จริงรึ? เป็นเสียงที่แหลมบาดหูมากใช่หรือไม่?”

“ใช่ แหลมคมบาดหูมาก” หยู่เหวินเห้ามองนาง คิดไปถึงส่วนที่เหลือเรียบร้อยแล้ว “หรือนี่คือการควบคุมจิตที่เจ้าเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ ? ข้าไปที่เกิดเหตุอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ก็ได้พบกับเจ้าสองเสือนั่น ข้ายังนึกสงสัยว่าพวกแมวป่าพวกนั้นเป็นเจ้าเสือทั้งสองเรียกมา เพราะเจ้าแฝดร้องไห้ ทำให้เจ้าเสือทั้งสองรู้ว่าข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นจึงได้ล่วงหน้ามาช่วยข้า ทั้งยังเรียกแมวป่ามาด้วยใช่หรือไม่? "

หยู่เหวินเห้าพูดไป ก็รู้สึกว่ามันช่างเป็นเรื่องที่ไร้สาระสิ้นดี

หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่ใช่เจ้าสองเสือหรอก เสือสองตัวนั้นเป็นเจ้าแฝดที่ส่งไปคอยคุ้มครองเจ้ากลับมาระหว่างทาง ส่วนพวกแมวป่ากับงูเหลือม ถ้าเจ้าก็ได้ยินเสียงร้องไห้ด้วย นั่นอาจเป็นไปได้ว่าพวกมันถูกเสียงร้องไห้กระตุ้น จนเกิดอาการคลุ้มคลั่งแล้วพุ่งเข้าโจมตีคนมากกว่า”

“แต่ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าว่ามาจริง ๆ พวกมันน่าจะโจมตีคนโดยไม่เลือกฝ่ายมากกว่า แต่ในตอนนั้น พวกแมวป่าโจมตีแค่พวกนักฆ่า แต่กลับไม่ได้โจมตีพวกเราเลย ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าภายใต้การคุ้มครองของพวกมัน ถึงทำให้พวกเราล่าถอยได้อย่างปลอดภัยเลยทีเดียว”

หยวนชิงหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เสียงร้องไห้นี้ มีทั้งสูงมีทั้งต่ำ บางครั้งก็แหลม บางครั้งก็สูง บางทีอาจเป็นการส่งข้อความบางอย่างออกไป ข้าเคยอ่านงานวิจัยของรุ่นพี่คนหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า เมื่อคนเราเกิดสภาวะอารมณ์ด้านชั่วร้ายขึ้น ร่างกายจะหลั่งกรดชนิดหนึ่งออกมา จุดประสงค์ของนักฆ่าในขณะนั้น ก็คือการฆ่าพวกเจ้า ในใจจึงเกิดความชั่วร้าย บางทีกรดชนิดนี้ก็จะถูกหลั่งออกมา ในความเป็นจริงแล้วแมวกับงูมีจิตสัมผ้สที่ว่องไวและละเอียดมาก มีสัตว์มากมายที่สามารถแยกแยะระหว่างความดีกับความชั่วได้ คงจะ... เป็นอะไรประมาณนี้ล่ะ!”

หยวนชิงหลิงเองก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน ตอนที่นางเกิดเรื่อง เจ้าเสือน้อยก็ช่วยนางไว้ พอเจ้าห้าเกิดเรื่อง ทั้ง ๆ ที่อยู่ไกลกันขนาดนี้ เจ้าแฝดก็ยังคงรับรู้ได้ กระแสพลังงานที่ปล่อยออกมาจากเซลล์สมองหรือเซลล์ประสาทของพวกเขา จนถึงตอนนี้ นางก็ยังไม่มีวิธีเข้าไปสัมผัสให้รู้ชัดเลยแม้แต่วิธีเดียว

“ข้าจะไปหาพวกเขาหน่อย” หยู่เหวินเห้าคิดถึงเด็ก ๆ แล้ว ตอนอยู่ที่บ้าน เขาไม่ชอบเสียงเอะอะเจี๊ยวจ๊าวของเด็ก ๆ แต่พอออกบ้านไปได้แค่ไม่กี่วัน กลับคิดถึงจนแทบทนไม่ไหว

"เด็ก ๆ หลับไปแล้วล่ะ."

“ขอไปดูหน้าสักหน่อย” หยู่เหวินเห้ายืนขึ้น ความสามารถของเจ้าแฝดเป็นอะไรที่เขาไม่อาจเข้าใจได้จริง ๆ จึงไม่อยากคิดเกี่ยวกับมันอีก เขาแค่อยากจะเห็นหน้าลูก ๆ หลังจากที่เพิ่งผ่านคราวเคราะห์มาก็เท่านั้น

หยวนชิงหลิงรู้ว่าในใจเขาคิดถึงเด็ก ๆ มาก จึงถือตะเกียงขึ้น แล้วเดินออกไปพร้อมกับเขา

ฉี่หลอเฝ้าเวรกลางคืน รีบไปแจ้งทางนั้นให้ทราบ บรรดาแม่นมที่ดูแลก็รีบกระวีกระวาดออกมาต้อนรับ พูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า "พวกเด็ก ๆ หลับอยู่เพคะ"

“ไม่เป็นไร ข้าแค่ขอเข้าไปดูสักหน่อย” หยู่เหวินเห้าพูด

เขาเดินเข้าไปอย่างแผ่วเบา เด็กทั้งห้าคนกำลังนอนหลับอยู่ในห้องหนึ่ง แต่ละคนมีเตียงเล็ก ๆ คนละเตียง สามแฝดท่านอนแตกต่างกัน ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ ใบหน้าเล็ก ๆ ทั้งสามที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสามาก

เจ้าแฝดนอนหลับอย่างเงียบ ๆ สองตาปิดสนิท ขนตางอนยาวทำให้เกิดเงาเป็นแถวใต้ตาของเขา ช่วงคางเรียวแหลม เนื้อส่วนที่แก้มกลมยุ้ยเหล่านั้นหายไปหมดแล้ว หยู่เหวินเห้าได้เห็นแบบนั้น ในใจก็พลันรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา "ผอมลงแล้ว"

“สองวันมานี้ไม่ยอมกินอะไรเลย” หยวนชิงหลิงจับมือเขาไว้ พูดด้วยใจที่เป็นกังวล

“หลังจากร้องไห้แล้ว ตาของพวกเขาแดงหรือไม่? ดูเหมือนตอนที่เจ้า.... ในเวลานั้นหรือไม่?” หยู่เหวินเห้าถามเบาๆ

“แดง เหมือนสีเลือดเลย ตอนนี้ก็ยังแดงนิดหน่อย พรุ่งนี้เมื่อเจ้าตื่นมาก็คงจะได้เห็นอยู่” หยวนชิงหลิงตอบ

หยู่เหวินเห้าถอนหายใจเบา ๆ "พวกเราเป็นพ่อแม่ที่โชคดีที่สุด ส่วนพวกเขาเป็นลูกที่ลำบากที่สุด"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน